เอเจนซีส์ - บริษัทนอร์ทธรอป กรัมแมน (Northrop Grumman) เปิดเผยวานนี้ (25 ส.ค.) ว่า เครื่องบินทิ้งระเบิดแบบล่องหนระยะไกล B-2 ชื่อดังของกองทัพสหรัฐฯ ประสบความสำเร็จในการทดสอบเมื่อธันวาคมปี 2021 ยิงมิสไซล์ร่อนล่องหนพิสัยไกล AGM-158B JASSM-ER ที่มีระยะทำการไกลกว่า 500 ไมล์ได้เป็นครั้งแรก คุยสามารถโจมตีเป้าได้ทุกเป้าหมายทุกที่ ปักกิ่งวิตกข่าวออสเตรเลียหารือซื้อเครื่องบินทิ้งระเบิดระยะไกล B-21 หวั่นอาจคุกคามความมั่นคงจีน หลังเดอะซันรายงานสัปดาห์ที่ผ่านมา สหรัฐฯ ส่งมาบินตรวจการณ์ร่วมกันเหนือมหาสมุทรแปซิฟิก
แอร์ฟอร์ซแมก (airforcemag) รายงานวานนี้ (25 ส.ค.) ว่า บริษัท นอร์ทธรอป กรัมแมน (Northrop Grumman) ออกแถลงการณ์เป็นครั้งแรกว่า เครื่องบินทิ้งระเบิดระยะไกล B-2 ชื่อดังประสบความสำเร็จในการทดสอบมิสไซล์ร่อนล่องหนพิสัยไกล AGM-158B JASSM-ER ซึ่งมีพิสัยทำการไกลกว่า 500 ไมล์ได้เป็นครั้งแรก เป็นการทดสอบที่เกิดขึ้นเมื่อเดือนธันวาคมปี 2021 แต่ทว่าทางบริษัทผู้ผลิตอาวุธชื่อดังเพิ่งเปิดเผยต่อสาธารณะในวันพฤหัสบดี (25) โดยไม่ทราบเหตุผลว่าเหตุใดจึงออกมาประกาศล่าช้า
ชื่อของมิสไซล์ JASSM-ER ย่อมาจาก The Joint Air-to-Surface Standoff Missile-Extended Range ซึ่งเป็นมิสไซล์การโจมตีอากาศสู่ภาคพื้นพิสัยระยะไกลนี้ได้ถูกติดตั้งเข้ากับเครื่องบินของกองทัพสหรัฐฯ ได้แก่ เครื่องบินทิ้งระเบิด B-1B เครื่องบินทิ้งระเบิด B-52 เครื่องบินรบขับไล่ F-15E และเครื่องบินรบขับไล่ F-16 อ้างอิงจากรายงานงบประมาณของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ
การออกมาประกาศข่าวการทดสอบที่เกิดขึ้นเดือนธันวาคมปีที่แล้วทำให้เป็นการเปิดเผยครั้งแรกว่า กองทัพอากาศสหรัฐฯ เวลานี้กำลังทดสอบมิสไซล์ AGM-158B JASSM-ER กับเครื่องบินทิ้งระเบิดแบบสเตลท์ของตัวเอง และกำลังมีแผนการที่จะติดตั้งมิสไซล์ตัวนี้กับเครื่องบิน F-35A เช่นกัน
ทั้งนี้ พบว่าเครื่องบินทิ้งระเบิด B-2 ชื่อดังที่มีรูปทรงประหลาดเหมือนยานเอเลี่ยนนั้นเสร็จสิ้นการทดสอบมิสไซล์ JASSM รุ่นอื่นที่มีพิสัยทำการโจมตีใกล้กว่า
ซึ่งเป็นที่รู้ว่าพิสัยทำการของมิสไซล์ JASSM อยู่ที่ 200 ไมล์โดยเฉลี่ย และเวอร์ชันใหม่ของมิสไซล์ JASSM จะอนุญาตให้สามารถทำการเปลี่ยนเป้าหมายใหม่ได้ระหว่างการบิน
นอร์ทธรอป กรัมแมนไม่ได้เปิดเผยว่าทำการทดสอบขึ้นที่ใดหรือรายละเอียดอื่นๆ นอกเหนือจากนี้
ข่าวการประสบความสำเร็จครั้งนี้อาจสร้างความลำบากใจเพิ่มขึ้นให้จีน เพราะหนังสือพิมพ์โกลบอลไทม์สกระบอกเสียงของปักกิ่งรายงานวันพุธ (24) ถึงข่าวการหารือข้อตกลงซื้อ B-21 ระหว่างวอชิงตันและแคนเบอร์รา โดยหนังสือพิมพ์เดอะซันของอังกฤษ รายงานก่อนหน้าในวันอังคารที่ 16 ส.ค.ว่า สหรัฐฯ ส่งเครื่องบินทิ้งระเบิดระยะไกล B-2 จำนวน 2 ลำ มาประจำที่ออสเตรเลียชั่วคราว และได้ขึ้นบินตรวจการณ์เหนือมหาสมุทรแปซิฟิกร่วมกับออสเตรเลีย
โดยมีภาพที่ถูกเปิดเผยเพื่อแสดงแสนยานุภาพกำลังทหารสหรัฐฯ และออสเตรเลียในภูมิภาคอินโดแปซิฟิกโดยมีเรือรบ 1 ลำ กำลังแล่นอยู่เหนือน้ำเบื้องล่างระหว่างที่มีเครื่องบินทิ้งระเบิดศักยภาพติดหัวรบนิวเคลียร์ B-2 Spirit จำนวน 2 ลำ บินร่วมฟอร์เมชันกับเครื่องบินรบขับไล่ F/A-18 Hornet จำนวน 4 ลำ และเครื่องบินสอดแนมสุดล้ำจากออสเตรเลียฉายา “ดวงตาในท้องฟ้า” E-7A Wedgetail
เดอะซันชี้ว่า เป็นที่เชื่อว่าในเวลานี้เครื่องบินทิ้งระเบิดแบบล่องหน B-2 ซึ่งนานๆ ครั้งที่จะมีโอกาสให้เห็นกลายเป็นอากาศยานทางการทหารที่มีราคาแพงที่สุดในโลก ตกอยู่ที่ 1.6 พันล้านปอนด์สเตอริงต่อลำทีเดียว
ภาพการบินตรวจการณ์ของ B-2 เหนือท้องฟ้ามหาสมุทรแปซิฟิกถูกโพสต์ทางออนไลน์โดยกองบัญชาการกองทัพอากาศสหรัฐฯ แปซิฟิก US Pacific Air Forces ในรัฐฮาวาย
โกลบอลไทม์สชี้ว่า หลังจากข้อตกลงเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์กลุ่ม AUKUS แล้ว มีรายงานเมื่อไม่นานมานี้ว่า เจ้าหน้าที่ระดับสูงสหรัฐฯ เปิดเผยว่า วอชิงตันกำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาป้อนเครื่องบินทิ้งระเบิดสเตลท์ B-21 ที่มีความก้าวหน้ามากว่ารุ่น B-2 ให้ออสเตรเลีย ขณะที่บรรดาผู้เชี่ยวชาญต่างแสดงความเห็นในวันพุธ (24) ว่า จะเพิ่มศักยภาพให้ออสเตรเลียในการโจมตีระยะไกลต่อจีนได้ ส่งผลเป็นภัยคุกคามขั้นร้ายแรงต่อจีน
ซึ่งเลขาธิการกองทัพอากาสสหรัฐฯ แฟรงค์ เคนดาลล์ (Frank Kendall) พบกับผู้บัญชาการกองทัพอากาศคนใหม่ของออสเตรเลียในวันจันทร์ (22) ที่กรุงแคนเบอร์รา อ้างอิงจากสื่อ Strategist ซึ่งเกี่ยวข้องกับสถาบัน Australian Strategic Policy Institute รายงานเรื่องนี้ในวันอังคาร (23)
โกลบอลไทม์สชี้ว่า เคนดาลล์ ซึ่งมีแนวความคิดถึงภัยคุกคามจากจีน ออกมาอ้างว่าสหรัฐฯ และชาติพันธมิตรกำลัง “วิตกถึงพฤติกรรมของจีน” ในทะเลจีนใต้ รวมไปถึงโครงการการปรับปรุงกองทัพจีน PLA ให้มีความทันสมัย
“พวกเรากำลังอยู่ในสิ่งที่ผมคิดว่าอยู่ในการแข่งขันความเหนือกว่าในเทคโนโลยีทางการทหารกับจีน” เคนดาลล์กล่าว
ซึ่งที่ผ่านมาสหรัฐฯ มักลังเลที่จะส่งมอบอาวุธล้ำสมัยที่มีความก้าวหน้าสูงสุดของกองทัพสหรัฐฯ ให้ชาติพันธมิตร แต่ทว่าภายใต้กรอบข้อตกลง AUKUS ทำให้เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นออสเตรเลียได้รับเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์จากสหรัฐฯ ส่งผลทำให้เป็นอันตราย นักสังเกตการณ์หลายคนแสดงความเห็น
ซ่ง จงผิง (Song Zhongping) ผู้เชี่ยวชาญทางการทหารของจีนชื่อดังแสดงความเห็นวันพุธ (24) ว่า จากความจริงที่ B-21 สามารถมีศักยภาพติดหัวรบนิวเคลียร์และการโจมตีแบบปกติ แต่ทว่าเขาเชื่อว่า สหรัฐฯ อาจส่งมอบ B-21 ที่มีศักยภาพการโจมตีแบบทั่วไปให้ออสเตรเลียแทน และเสริมต่อว่า การที่ B-21 เป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดพิสัยข้ามทวีปสามารถที่จะส่งผลร้ายเป็นภัยคุกคามมหันต์ให้ “จีน” และหากว่าสหรัฐฯ ส่งมอบ B-21 ให้ออสเตรเลียเกิดขึ้นจริงจะทำให้ออสเตรเลียกลายเป็นศูนย์เครื่องบินทิ้งระเบิดในต่างแดนของสหรัฐฯ ไป
แต่เขายังเชื่อมั่นว่า การที่กองทัพจีน PLA ยังคงมุ่งมั่นในการปรับปรุงกองทัพให้มีความทันสมัยอย่างเป็นขั้นตอนตามกำหนดจะทำให้ภัยคุกคามที่ว่านี้สามารถรับมือได้