เอเจนซีส์ - เจ้าหน้าที่ดัตช์เปิดเผยว่า ทารกผู้อพยพอายุ 3 เดือน เสียชีวิตเช้าวันพุธ (24 ส.ค.) ภายในศูนย์กีฬาของหมู่บ้านเตอร์ อาเปล (Ter Apel) ที่ถูกใช้เป็นศูนย์ผู้อพยพชั่วคราวท่ามกลางความแออัดยัดเยียด ที่ไม่มีแม้แต่ห้องอาบน้ำ ห้องสุขามีจำกัดและสกปรก และมีผู้อพยพจำนวนมากถูกปล่อยให้นอนด้านนอกอาคารอย่างน่าอนาถ กลุ่มแพทย์ไร้พรมแดนถูกส่งเข้ามาให้การรักษาพยาบาลทางการแพทย์เริ่มวานนี้ (25 ส.ค.) ออกปากความเป็นอยู่ผู้อพยพภายในศูนย์ไร้มนุษยธรรม
บีบีซี สื่ออังกฤษรายงานวานนี้ (25 ส.ค.) ว่า ข่าวการเสียชีวิตเด็กผู้อพยพวัย 3 เดือนภายในศูนย์ผู้อพยพหมู่บ้านเตอร์ อาเปล (Ter Apel) ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเนเธอร์แลนด์ เกิดขึ้นท่ามกลางแดนกังหันลมตกอยู่ในสภาพวิกฤตในการจัดการผู้อพยพที่อยู่ในขั้นเลวร้าย ที่เห็นมีผู้อพยพหลายร้อยคนต้องนอนอยู่ด้านนอกอาคารทางการศูนย์ผู้อพยพแห่งนี้
เดอะการ์เดียนรายงานว่า ในวันพุธ (24) มีผู้อพยพจำนวน 700 คน ที่ต้องนอนด้านนอกอาคาร
ภาพที่รายงานจาก netherlands.postsen เป็นภาพผู้อพยพนอนอยู่บนพื้นดินที่มีพลาสติกปูรองและผ้าห่มคลุม ขณะที่บีบีซีรายงานเป็นภาพเต็นท์ขนาดใหญ่ที่มีผู้อพยพนอนรวมกันด้านในที่มีแค่แผ่นพลาสติกปูรองนอนและผ้าห่มเช่นกัน ท่ามกลางปัญหานานัปการ ทั้งไม่มีห้องอาบน้ำ และสุขามีแบบจำกัด และสกปรกเกิดขึ้นในหมู่บ้านเตอร์ อาเปล ที่สวยงามและมีชื่อในด้านการท่องเที่ยว
เจ้าหน้าที่เนเธอร์แลนด์กล่าวว่า กำลังเปิดสอบสวนการเสียชีวิตของเด็กทารกวัย 3 เดือน ซึ่งพวกเขากล่าวว่า เสียชีวิตเมื่อเช้าวันพุธ (24) ภายในศูนย์กีฬาของหมู่บ้านที่ถูกใช้เป็นศูนย์ผู้อพยพชั่วคราว
กองตรวจสอบด้านสุขภาพและเยาวชนเนเธอร์แลนด์เปิดเผยว่า “ช่างโชคร้ายที่การให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์ไม่ได้ผล”
ทั้งนี้ ชื่อและเพศของหนูน้อยรายนี้ยังไม่เป็นที่เปิดเผยต่อสาธารณะ กองตรวจสอบเปิดเผยว่า ทางหน่วยงานจะตรวจสอบทุกด้านที่มีความเป็นไปได้ว่าจะเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของทารกน้อยนี้
ซึ่งคาดว่าจะรวมไปถึงว่ามีการให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์ก่อนหน้าหรือไม่ และการให้บริการสาธารณสุขภายในศูนย์และสภาพความเป็นอยู่ที่นั่น
นักข่าวบีบีซีชี้ว่า ปัญหาวิกฤตผู้อพยพนี้ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการเดินเรื่องคำร้องขอลี้ภัยของเจ้าหน้าที่ล่าช้ามากและทำให้ผู้ลี้ภัยไม่สามารถถูกเคลื่อนย้ายต่อไปที่อื่นได้ นอกจากนี้ เนเธอร์แลนด์ยังเกิดปัญหาการขาดแคลนที่พักสำหรับผู้ลี้ภัยทั่วประเทศอย่างเฉียบพลัน
ทั้งนี้ สื่อ netherlands.postsen รายงานว่า กระบวนการลงทะเบียนภายในศูนย์ผู้ลี้ภัยเตอร์ อาเปลนั้นที่สมควรต้องใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่วันแต่กลับล่าช้านานหลายเดือน ท่ามกลางการประท้วงต่อต้านผู้อพยพในเนเธอร์แลนด์ที่มีการต่อต้านในการเคลื่อนย้ายผู้อพยพออกไปที่ต่างๆ
เดอะการ์เดียนรายงานว่า ชาวเมืองอัลเอบร์เกน (Albergen) ออกมาประท้วงนานหลายวันหลังศูนย์ผู้ลี้ภัยเนเธอร์แลนด์ประกาศจะนำผู้ลี้ภัยจำนวน 300 คน มาอาศัยในโรงแรมของเมือง
เดอะการ์เดียนรายงานว่า ผู้ลี้ภัยถูกบังคับให้ต้องนอนในที่โล่งแจ้ง และห้ามนอนในเต็นท์ที่ปิดทึบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ต้องการจับภาพคนเหล่านี้ผ่านทางกล้องทีวีวงจรปิดตลอดเวลา และมีรายงานการใช้ท่อนไม้หรือท่อนเหล็กเป็นอาวุธ
ซึ่งข่าวเด็กวัย 3 เดือนเสียชีวิตเกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกันที่กลุ่มแพทย์ไร้พรมแดน MSF (Doctors without Borders) สาขาประจำเนเธอร์แลนด์ ถูกส่งมาที่ศูนย์ผู้ลี้ภัยที่อื้อฉาวแห่งนี้เป็นครั้งแรกในวันพฤหัสบดี (25) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ให้ความช่วยเหลือทางการแพทย์ในเขตสงครามเป็นส่วนใหญ่
โดย จูดิธ ซาร์เจนตินี (Judith Sargentini) ผู้อำนวยการแพทย์ไร้พรมแดน MSF แถลงว่า “นับตั้งแต่วันนี้พวกเราจะให้การดูแลทางการแพทย์ในเตอร์ อาเปล” และเสริมต่อว่า “สภาพความเป็นอยู่ที่นั่นมีสภาพไร้มนุษยธรรมและจำเป็นต้องปรับปรุงทันที ไม่มีทั้งที่อาบน้ำและห้องสุขาสกปรก”
บีบีซีชี้ว่า ข่าวการเสียชีวิตของผู้อพยพวัย 3 เดือนสร้างความตกใจให้บรรดานักการเมืองชาวดัตช์ ที่ออกมาเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ศูนย์แห่งนี้ต้องให้คำตอบในเรื่องการเสียชีวิต
ทั้งนี้ เนเธอร์แลนด์มีผู้อพยพชาวต่างชาติขอลี้ภัยหลายพันคนต่อเดือน โดยเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมามีทั้งสิ้น 4,376 คน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิถุนายนที่มี 3,979 คน โดย 5 อันดับแรกมาจาก ซีเรีย ตุรกี อัฟกานิสถาน เยเมน และเอริเทรีย ตามลำดับ ซึ่งจำนวนผู้ลี้ภัยนั้นเพิ่มขึ้นทุกปี แต่ยังถือว่าน้อยกว่าช่วงปี 2015-2016 ที่มีการอพยพเข้ามาระลอกใหญ่สุด
นอกจากนี้ หลังจากการปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียในยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา รัฐบาลเนเธอร์แลนด์ได้จัดเตรียมศูนย์พักพิงให้ผู้อพยพชาวยูเครนอีก 60,000 คน โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการขอลี้ภัยตามปกติ