xs
xsm
sm
md
lg

“ออสเตรเลีย” สั่งสอบสวนด่วน “สกอตต์ มอร์ริสัน” แอบตั้งตัวเองมีอำนาจบริหารร่วม 5 กระทรวงใหญ่ แต่ รมว.ว่าการไม่รู้เรื่องระหว่างวิกฤตโควิด-19

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอพี/เอเจนซีส์ - นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียคนปัจจุบัน แอนโธนี อัลบานีส แถลงวันอังคาร (23 ส.ค.) เปิดการสอบสวนอดีตผู้นำ สกอตต์ มอร์ริสัน ที่แอบแต่งตั้งตัวเองถืออำนาจร่วมใน 5 กระทรวงโดยที่เจ้ากระทรวงไม่รู้ระหว่างวิกฤตโควิด-19 เพื่อป้องกันไม่ให้มีผู้นำคนอื่นในอนาคตทำตามอย่าง พบเคยใช้อำนาจลับสั่งการกลับคำสั่งของเจ้ากระทรวงรัฐมนตรีว่าการทรัพยากรธรรมชาติออสเตรเลีย เพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองของตัวเอง

เอพีรายงานวันนี้ (23 ส.ค.) ว่า กลายเป็นเรื่องฮือฮาหลังมีรายงานถูกเปิดเผยไปทั่วว่าในช่วงระหว่างวิกฤตโควิด-19 กำลังระบาด สกอตต์ มอร์ริสัน (Scott Morrison) อดีตผู้นำแดนจิงโจ้จากพรรคลิเบอรัลออสเตรเลีย ได้แอบสาบานตนรับตำแหน่งเพื่อถืออำนาจร่วมกับเจ้ากระทรวงใน 5 กระทรวงของออสเตรเลียโดยที่รัฐมนตรีว่าการที่นั่งอยู่ไม่ได้รู้เห็นไปด้วย

รอยเตอร์รายงานว่า มอร์ริสันได้ออกมาแก้ตัวในวันพุธ (17) ที่แล้วโดยอ้างเหตุผลว่า เขาจำเป็นต้องทำเพราะเขาคิดว่าความรับผิดชอบต่อประเทศออสเตรเลียเป็นของเขาเพียงคนเดียว

ซึ่งในบรรดากระทรวงที่มอร์ริสันเข้ามามีอำนาจร่วม รวมถึงกระทรวงมหาดไทย กระทรวงการคลัง กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงธนารักษ์ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ

เดอะคอนเวอร์เซชันรายงานวันอังคาร (16) ก่อนหน้าว่า มอร์ริสันรับตำแหน่งในฐานะเจ้ากระทรวงธนารักษ์ (Treasury) ไม่กี่วันก่อนเสนองบประมาณปี 2021 เข้าสู่สภา

โดยหนึ่งในหน้าที่ของกระทรวงธนารักษ์ออสเตรเลียคือ การดูแลงบประมาณรัฐบาลกลางออสเตรเลีย นอกเหนือจากการให้คำแนะนำรัฐบาลและการบังคับใช้นโยบายทางเศรษฐกิจ นโยบายการคลัง และการกำกับตลาด เป็นต้น

และพบว่ามอร์ริสัน รับตำแหน่งรัฐมนตรีสาธารณสุขออสเตรเลียเมื่อวันที่ 14 มี.ค.ปี 2020 รัฐมนตรีการคลังออสเตรเลียเมื่อวันที่ 30 มี.ค.ปี 2020 รัฐมนตรีมหาดไทยออสเตรเลียและรัฐมนตรีกระทรวงธนารักษ์ในวันที่ 6 พ.ค.ปี 2021 และท้ายสุดรัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรม วิทยาศาสตร์ พลังงาน และทรัพยากรธรรมชาติในวันที่ 15 เม.ย.ปี 2021

ตามข่าวพบว่า จอช ไฟรเดนเบิร์ก (Josh Frydenberg) ที่นั่งว่าการในกระทรวงธนารักษ์และผู้ช่วยผู้นำพรรคลิเบอรัลซึ่งเป็นพรรคของมอร์ริสัน ไม่ได้รู้ระแคะระคายเลยว่ามอร์ริสันได้แอบนั่งควบตำแหน่งเจ้ากระทรวงเดียวกับเขา โดยไฟรเดนเบิร์ก ยังคงแถลงงบประมาณออสเตรเลียปี 2021 ต่อสภาผู้แทนราษฎรในวันที่ 11 พ.ค.

นอกเหนือจากนี้ อ้างอิงจากรอยเตอร์พบว่า อดีตรัฐมนตรีมหาดไทยของออสเตรเลีย คาเรน แอนดรูว์ส (Karen Andrews) ออกมาเปิดเผยว่า เธอไม่เคยรู้มาก่อนว่ามอร์ริสันมีอำนาจนั่งบริหารในกระทรวงเดียวกันกับเธอ และแอนดรูวส์ ยังเป็นอีกคนที่ออกมากดดันให้มอร์ริสันลาออกจากรัฐสภาออสเตรเลีย

ในแถลงการณ์ของมอร์ริสัน เขาแสดงความเสียใจต่อการกระทำของตัวเองที่ทำให้เกิดความกังวล แต่ยืนยันว่าเขาทำไปด้วยเจตนาดีท่ามกลางวิกฤต และชี้ว่าเป็นช่วงเวลาที่ไม่คาดฝันและการเข้ามามีอำนาจร่วมในกระทรวงเหล่านี้เป็นเสมือนมาตรการป้องกันเท่านั้น

“ผมใช้อำนาจเหล่านั้นในโอกาสเดียวเท่านั้น ผมไม่ได้ต้องการแทรกแซงเหล่ารัฐมนตรีในการปฏิบัติหน้าที่ของตัวเอง”

โดยในการให้สัมภาษณ์กับสถานีวิทยุ 2GB ของออสเตรเลียวันอังคาร (16) มอร์ริสันอธิบายเหตุผลที่ไม่ได้ประกาศต่อสาธารณะเรื่องตำแหน่ง 5 กระทรวงของเขาโดยอ้างว่า เป็นเหตุผลที่ใช้เพื่อป้องกันในสถานการณ์ฉุกเฉิน

เอพีรายงานว่า นายกรัฐมนตรีออสเตรเลีย แอนโธนี อัลบานีส วันอังคาร (23) แถลงว่า เขาได้เปิดการสอบสวนมอร์ริสันขึ้นเพื่อต้องการป้องกันไม่ให้นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียคนอื่นๆ ทำเช่นเดียวกันในอนาคต

อัลบานีส เปิดเผยต่อว่าเขาได้รับคำแนะนำอย่างเป็นทางการยาว 29 หน้าจาก สตีเฟน โดนาฮิว (Stephen Donaghue) ดำรงตำแหน่ง "Solicitor-General" ที่ถือเป็นตำแหน่งผู้มีอำนาจทางกฎหมายสูงสุดเป็นอันดับ 2 ของออสเตรเลียที่ชี้ว่า การเข้ารับตำแหน่งใน 5 กระทรวงของมอร์ริสันนั้นถูกต้องตามกฎหมาย แต่ทว่าการที่รับตำแหน่งโดยที่ไม่ได้แจ้งต่อเหล่ารัฐมนตรีและรัฐสภาออสเตรเลียหรือสาธารณะนั้นไม่สอดคล้องไปกับหลักการรัฐบาลที่มีความรับผิดชอบ

เอพีวิเคราะห์ว่า การเข้าไปแทรกแซงเพื่อมีอำนาจร่วมในกระทรวงต่างๆ ของมอร์ริสันถูกมองว่า เป็นแนวโน้มในวงกว้างของการเมืองออสเตรเลียของการกระชับอำนาจภายในสำนักงานของผู้นำ

เอพีชี้ว่า มอร์ริสันออกมาอ้างว่า การมีอำนาจร่วมในกระทรวงต่างๆ เพื่อเป็นมาตรการป้องกันสำหรับวิกฤตโควิด-19 แต่กลับพบว่าอดีตผู้นำออสเตรเลียไม่ได้ใช้อำนาจไปเพื่อโควิด-19 เพราะมอร์ริสันได้กลับการตัดสินใจของอดีตเจ้ากระทรวง คีธ พิตต์ (Keith Pitt) ที่อนุญาตโปรเจกต์การสำรวจก๊าซธรรมชาติทางเหนือของเมืองซิดนีย์ที่จะส่งผลร้ายต่อโอกาสการได้รับเลือกตั้งกลับเข้ามาของกลุ่มการเมืองของเขา


กำลังโหลดความคิดเห็น