ข่มขู่ตักเตือน!! อเมริกาคาดปักกิ่งไม่เลิกข่มขู่ไทเป-หวั่น“คำนวณผิดพลาด” ทูตจีนเตือนอังกฤษอย่าตามก้นมะกันแทรกแซงกรณีไต้หวัน

ไต้หวัน-อเมริกาประกาศแผนเจรจาการค้าต้นฤดูใบไม้ผลิ ขณะที่นักการทูตอาวุโสของสหรัฐฯ คาดปักกิ่งจะยังคงกดดันไทเปต่อไม่เลิก ส่วนทูตจีนประจำลอนดอนเตือนการแทรกแซงกรณีไต้หวันของอังกฤษและอเมริกาอาจนำไปสู่ผลลัพธ์ร้ายแรง

ความตึงเครียดในช่องแคบไต้หวันพุ่งสูงสุดในรอบหลายปี หลังแนนซี เปโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เยือนไทเปเมื่อต้นเดือน สร้างความขุ่นเคืองยิ่งยวดต่อปักกิ่งที่ตอบโต้ด้วยการซ้อมรบครั้งใหญ่รอบเกาะไต้หวันทันที ซึ่งรวมถึงการยิงขีปนาวุธข้ามดินแดนมังกรน้อย

กระนั้น เมื่อวันพฤหัสฯ (18 ส.ค.) ไต้หวัน-อเมริกาประกาศแผนเจรจาการค้าต้นฤดูใบไม้ผลิ โดยสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ แถลงว่า การเจรจาจะครอบคลุมหลายด้าน รวมถึงเกษตรกรรม การค้าดิจิตอล แนวทางปฏิบัติด้านระเบียบข้อบังคับ และการยกเลิกอุปสรรคการค้า

ซาราห์ เบียนชี รองผู้แทนการค้าสหรัฐฯ กล่าวว่า การเจรจาจะกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนระหว่างกันลึกซึ้งขึ้น ส่งเสริมสิทธิพิเศษทางการค้าโดยอิงกับค่านิยมที่มีร่วมกัน สนับสนุนนวัตกรรมและการเติบโตทางเศรษฐกิจแบบมีส่วนร่วมสำหรับแรงงานและภาคธุรกิจของทั้งอเมริกาและไต้หวัน

ด้านกระทรวงการต่างประเทศไต้หวันทวิตว่า ยินดีสำหรับโอกาสในการกระชับความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศที่ใฝ่เสรีภาพ ควบคู่กับการกำหนดรูปแบบความร่วมมือทางการค้าใหม่ในอินโด-แปซิฟิก

อเมริกาและไต้หวันมีความสัมพันธ์ทางการค้าและการลงทุนกันมายาวนาน โดยไทเปนั้นเป็นซัปพลายเออร์สำคัญระดับโลกสำหรับเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูงสุดบางส่วนที่ใช้ในทุกสิ่งตั้งแต่โทรศัพท์มือถือไปจนถึงแล็ปท็อป รถยนต์ และขีปนาวุธ

ทว่า คู่ค้าใหญ่สุดของไต้หวันยังคงเป็นจีนที่เดือดดาลและประกาศคัดค้านการเจรจาการค้าระหว่างไทเปกับวอชิงตันทันควัน

ชู จือติง โฆษกกระทรวงพาณิชย์จีน กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันพฤหัสฯ ว่า จีนคัดค้านการแลกเปลี่ยนอย่างเป็นทางการระหว่างประเทศใดๆ ก็ตามกับไต้หวันที่เป็นดินแดนของจีน

ปักกิ่งประกาศมาตลอดว่า พร้อมใช้กำลังเข้าผนวกไต้หวันถ้าจำเป็น ขณะที่วอชิงตันนั้นแม้มีความสัมพันธ์ทางการทูตกับจีนเท่านั้น แต่มีข้อผูกพันทางกฎหมายในการสนับสนุนให้ไต้หวันป้องกันตัวเองได้ อีกทั้งยังสนับสนุนสิทธิ์ในการตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตของตัวเองของไทเป

วอชิงตันยืนยันว่า จุดยืนต่อไต้หวันยังคงเดิม และกล่าวหาจีนคุกคามสันติภาพในช่องแคบไต้หวันโดยใช้การเยือนของเปโลซีเป็นข้ออ้างในการซ้อมรบ

นอกจากนั้นเมื่อวันพฤหัสฯ แดเนียล ไครเทนบริงก์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ประจำกรมกิจการเอเชียตะวันออกและแปซิฟิก ยังกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ขณะที่นโยบายของอเมริกายังคงเดิม แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงคือการข่มขู่จากจีนที่เพิ่มมากขึ้น อันเป็นส่วนหนึ่งของแผนการเพิ่มความกดดันเพื่อคุกคามและขู่เข็ญไต้หวัน รวมทั้งบ่อนทำลายความยืดหยุ่นของไต้หวัน ซึ่งอเมริกาคาดว่า จะยังคงดำเนินต่อไปอีกหลายสัปดาห์

ไครเทนบริงก์เสริมว่า จะรับมือความก้าวร้าวของจีนด้วยขั้นตอนที่สุขุมแต่เด็ดขาดเพื่อให้ช่องแคบไต้หวันเปิดกว้างและมีสันติภาพต่อไป

ความคิดเห็นนี้มีขึ้นหลังจากเมื่อต้นสัปดาห์ ผู้บังคับบัญชาระดับสูงคนหนึ่งของกองทัพเรือสหรัฐฯเสนอแนะว่า วอชิงตันและพันธมิตรต้องต่อต้านการยิงขีปนาวุธข้ามเกาะไต้หวันของจีน ซึ่งเขาระบุว่าเป็น “ปัญหาใหญ่ยิ่งที่ถูกมองข้ามเพื่อความสะดวกสบายใจของผู้เกี่ยวข้อง”

ขณะเดียวกัน ในบทความพิเศษของเดอะ การ์เดียนของอังกฤษฉบับวันอังคาร (16) เจิ้ง เจ๋อกวง เอกอัครราชทูตจีนประจำสหราชอาณาจักร กล่าวว่า หลายปีมานี้อเมริกาใช้ไต้หวันเป็นเครื่องมือล้อมกรอบจีน ด้วยการอนุมัติการขายอาวุธให้ไทเป ยกระดับความสัมพันธ์กับรัฐบาลไต้หวัน และบ่อนทำลายหลักการจีนเดียว

เจิ้งยังเรียกร้องให้อังกฤษงดตามรอยอเมริกาซึ่งหมายถึงการเยือนไต้หวันของสมาชิกอาวุโสของรัฐสภาเมื่อเร็วๆ นี้ และตั้งข้อสังเกตว่า ไต้หวันมักเป็นประเด็นอ่อนไหวในใจกลางความสัมพันธ์อังกฤษ-จีน

อนึ่ง ตอนที่จีนซ้อมรบใหญ่รอบเกาะไต้หวันเพื่อประท้วงการเยือนของเปโลซีนั้น ลิซ ทรัสส์ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ ได้ประณามการกระทำดังกล่าวว่า เป็นการคุกคามสันติภาพและเสถียรภาพของคาบสมุทรไต้หวันแบบเดียวกับที่อเมริกาออกมาประณาม

เจิ้งกล่าวหาเช่นเดียวกันว่า ศัตรูของจีนรบกวนสันติภาพในภูมิภาคด้วยการพยายามแทรกแซงกรณีไต้หวัน และเตือนว่า ลอนดอนจะได้รับผลเลวร้ายถ้าล้ำเส้น

(ที่มา: รอยเตอร์, เอเอฟพี, อาร์ที)