สายการบินอเมริกันแอร์ไลน์ส (American Airlines) ทุ่มทุนซื้อเครื่องบินโดยสารความเร็วเหนือเสียงระดับ “ซูเปอร์โซนิก” จำนวน 20 ลำ พร้อมออปชันซื้อเพิ่มอีก 40 ลำ ซึ่งจะสามารถพาผู้โดยสารเดินทางจากนิวยอร์กไปยังกรุงลอนดอนโดยใช้เวลาเพียงแค่ 3 ชั่วโมงครึ่ง
สำนักข่าว AP รายงานว่า อเมริกันแอร์ไลน์สและบริษัท Boom Supersonic ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องบิน ยังคงปฏิเสธที่จะเผยมูลค่าของสัญญาซื้อขาย ซึ่งรวมถึงวงเงิน deposit ที่ทางอเมริกันแอร์ไลน์สได้วางไว้ล่วงหน้าแบบขอคืนไม่ได้ (non-refundable)
อเมริกันแอร์ไลน์สถือเป็นสายการบินแห่งที่ 2 ของสหรัฐฯ ที่เป็นลูกค้าของ Boom ตามหลังยูไนเต็ดแอร์ไลน์ส (United Airlines) ที่ประกาศสั่งซื้อเครื่องบินเร็วเหนือเสียงจาก Boom จำนวน 15 ลำไปเมื่อปีที่แล้ว
ความเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นราวๆ 20 ปี หลังจากที่เครื่องบินโดยสารเร็วเหนือเสียง Concorde สัญชาติฝรั่งเศส-อังกฤษได้ทำการบินเที่ยวสุดท้ายเมื่อปี 2003 ก่อนจะหยุดให้บริการแบบถาวรเนื่องจากแบกรับต้นทุนที่สูงเกินไปไม่ไหว
เบลก สกอลล์ (Blake Scholl) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Boom ยืนยันว่า เครื่องบินเร็วเหนือเสียง Overture ที่บริษัทเตรียมจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการในปี 2029 จะ “แตกต่าง” จาก Concorde อย่างแน่นอน และคาดว่าตั๋วโดยสารในเส้นทางนิวยอร์ก-ลอนดอน จะอยู่ที่ประมาณ 4,000-5,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 141,000-177,000 บาท) โดยใช้เวลาเดินทาง 3 ชั่วโมงครึ่ง
Boom ระบุด้วยว่า เครื่องบินรุ่นนี้จะเดินทางด้วยความเร็วเหนือเสียง 1.7 เท่า หรือประมาณ 1,300 ไมล์ต่อชั่วโมง และสามารถรองรับผู้โดยสารได้ 65-80 คนต่อเที่ยว
อย่างไรก็ตาม นักวิจารณ์ชี้ว่ากรอบเวลาที่ Boom กำหนดไว้นั้นออกจะ “ทะเยอทะยาน” ไปสักหน่อย เพราะขนาดโบอิ้ง (Boeing) ซึ่งเป็นค่ายอากาศยานยักษ์ใหญ่ที่ได้รับความเชื่อถือ ยังต้องใช้เวลานานหลายปีกว่าจะทำให้เครื่องบินแต่ละรุ่น หรือแม้กระทั่งอุปกรณ์เสริมผ่านการรับรองความปลอดภัยจากสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติสหรัฐฯ (FAA)
ยิ่งไปกว่านั้น Boom ยังไม่ได้ข้อสรุปด้วยซ้ำว่าจะใช้เครื่องยนต์จากผู้ผลิตเจ้าไหน แม้มีรายงานว่ากำลังพูดคุยกับโรลซ์รอยซ์ (Rolls Royce) และผู้ผลิตเจ้าอื่นๆ อยู่ก็ตาม
“การจะสร้างเครื่องบินเร็วเหนือเสียง สิ่งแรกที่คุณจะต้องออกแบบคือเครื่องยนต์” ริชาร์ด อาบูลาเฟีย นักวิเคราะห์ด้านการบินและอวกาศจาก AeroDynamic Advisory ระบุ “สิ่งที่พวกเขาทำอยู่ตอนนี้ไม่ต่างอะไรกับการวาดภาพด้วยมือเปล่า จนกว่าจะมีเครื่องยนต์”
ที่มา : AP