มีผู้คนมากสูงถึง 5,000 ล้านคน หรือราวๆ 75% ของประชากรโลกที่อาจเสียชีวิตจากความอดอยากและความหิวโหย หลังสงครามนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซีย หนังสือพิมพ์ยูเอสเอทูเดย์อ้างถึงผลการศึกษาใหม่ รายงานเมื่อช่วงต้นสัปดาห์
ผลการศึกษาพบว่า การจุดชนวนระเบิดอาวุธนิวเคลียร์จะก่อลูกไฟขนาดใหญ่และปล่อยเขม่ามหาศาลขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ ขัดขวางแสงแดดไม่ให้ส่องถึงพื้นผิวและส่งผลกระทบต่อการผลิตอาหาร ซึ่งจะนำไปสู่การเสียชีวิตของผู้คนจำนวนมาก
"สัดส่วนขนาดใหญ่ของผู้คนจะอดอยาก" ความเห็นของ ลิลิ เซีย นักวิทยาศาสตร์ด้านการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ แห่งมหาวิทยาลัยรัตเกอร์ส ในรัฐนิวเจอร์ซีย์ ซึ่งเป็นแกนนำการวิจัย ระหว่างให้สัมภาษณ์กับ Nature.com. "มันเลวร้ายมาก"
เพิ่มเติมจากการวิจัยที่ผ่านมา พวกนักวิทยาศาสตร์หาทางคำนวณว่าทะเลเพลิงจากการจุดชนวนระเบิดนิวเคลียร์ จะปลดล่อยเขม่าปิดกั้นแสงอาทิตย์สาดส่องเข้าสู่ชั้นบรรยากาศมากมายมหาศาลแค่ไหน
"แสงที่ลดน้อยลง โลกเย็นลง และความเป็นไปได้ที่จะเกิดข้อจำกัดทางการค้าหลังสงครามนิวเคลียร์ จะก่อหายนะด้านความมั่นคงทางอาหารทั่วโลก" ผลการศึกษาระบุ "เราต้องขัดขวางสงครามนิวเคลียร์"
"ข้อมูลบอกกับเราอย่างหนึ่งว่า เราต้องขัดขวางไม่ให้สงครามเกิดขึ้นไปชั่วกาลนาน" อลัน โรบ็อค ศาสตราจารย์ด้านภูมิอากาศวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยรัตเกอร์ส และผู้ร่วมเขียนงานวิจัยกล่าว
ในผลการศึกษา พบว่า การจุดชนวนระเบิดอาวุธนิวเคลียร์ใดๆ ที่ก่อเขม่ามากกว่า 5 เทระกรัม (5 ล้านล้านกรัม) คาดหมายว่าจะก่อปัญหาขาดแคลนอาหารในผู้คนจำนวนมาก ในเกือบทุกประเทศทั่วโลก "ในกรณีรุนแรงสุดขั้ว ยอดผู้เสียชีวิตจะเท่ากับประชากรของสหรัฐฯ ยุโรป สหพันธรัฐรัสเซียและพันธมิตรรวมกัน และประเทศอื่นๆ อีกมากด้วย" ดีพัค เค.เรย์ ให้สัมภาษณ์กับนิตยสารนิวส์วีก
บรรดาผู้เขียนอ้างว่ามันเป็นครั้งแรกที่มีงานวิจัยในลักษณะนี้ "ไม่มีใครเคยคำนวณเช่นนี้มาก่อน" โรบ็อคกล่าว "ไม่มีใครพยายามคำนวณจำนวนประชาชนที่อาจเสียชีวิต"
ผลการศึกษาพบว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากความอดอยากอันเนื่องจากสงครามนิวเคลียร์ระหว่างอินเดียกับปากีสถาน จะอยู่ที่ราวๆ 2,500 ล้านคน ในช่วง 2 ปีหลังสงครามปะทุขึ้น แต่สำหรับความขัดแย้งทางนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐฯ กับรัสเซีย จำนวนผู้เสียชีวิตจากความอดอยากอาจพุ่งแตะระดับ 5,000 ล้านคน
Nature.com. ระบุว่าแม้ความเสี่ยงของสงครามนิวเคลียร์ดูจะน้อยกว่าช่วงระหว่างสงครามเย็น แต่ยังคงมีถึง 9 ประเทศ ที่มีหัวรบนิวเคลียร์รวมกันมากกว่า 12,000 หัวรบ
"ถ้าอาวุธนิวเคลียร์ยังคงมีอยู่ พวกเขาก็ยังคงใช้มันได้ และโลกเคยขยับเข้าใกล้สงครามนิวเคลียร์มาแล้วหลายครั้ง" โรบ็อคกล่าว "การแบนอาวุธนิวเคลียร์คือทางออกเดียวในระยะยาว"
ความตึงเครียดทางนิวเคลียร์ระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซีย มีแต่ลุกลามบานปลายมากขึ้นเรื่อยๆ ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา สืบเนื่องจากสงครามที่กำลังสู้รบกันอยู่ระหว่างรัสเซียกับยูเครน
อนึ่งผลการศึกษานี้ผ่านการทบทวนของผู้ทรงคุณวุติแล้ว และตีพิมพ์เผยแพร่ในวารสาร Nature Food ของสหราชอาณาจักร
(ที่มา : ยูเอสเอทูเดย์)