xs
xsm
sm
md
lg

มุ่งสู่อินโดแปซิฟิก!! เป็นครั้งแรก "ฝูงบินรบขับไล่เยอรมนี" บินมาราธอน 24 ชม.จากบ้านถึงสิงคโปร์ ว่าที่นายกฯ แดนลอดช่องคนใหม่เตือนระวังวิกฤตความขัดแย้งจีน-สหรัฐฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอพี/เอเจนซีส์ - เป็นครั้งแรกที่ฝูงเครื่องบินขับไล่กองทัพอากาศเยอรมนีบินไกลมาราธอนร่วม 12,800 กิโลเมตร จากบ้านมาถึงสิงคโปร์วันนี้ (16 ส.ค.) ด้วยเวลาแค่ 24 ชั่วโมง เพื่อร่วมการซ้อมรบกับออสเตรเลีย ท่ามกลางสหภาพยุโรปส่งสัญญาณเพิ่มความสัมพันธ์ทางการค้า การเมือง ความมั่นคงในอินโดแปซิฟิก ว่าที่นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์คนใหม่ ลอเรนซ์ หว่อง (Lawrence Wong) เตือนให้ระวังความขัดแย้งจีน-สหรัฐฯ ที่อาจจะเดินละเมอสะดุดจนกลายเป็นสงคราม

อัลญะซีเราะฮ์ สื่อกาตาร์รายงานวันนี้ (16 ส.ค.) ว่า การส่งฝูงเครื่องบินรบเยอรมัฃนีที่ต้องการแสดงให้เห็นความสามารถของชาติยุโรปที่สามารถเคลื่อนกำลังทางอากาศเข้าในภูมิภาคอินโดแปซิฟิกได้อย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ พบว่าฝูงเครื่องบินรบที่เอพีรายงานว่ามีทั้งหมด 6 ลำ มีกำหนดถึงสิงคโปร์หลังจากบินตรงจากฐานทัพในเยอรมนีเป็นระยะทาง 12,800 กิโลเมตร โดยใช้เวลาแค่ 24 ชั่วโมง

สื่อกาตาร์ชี้ว่า การบินตรงจากยุโรปมาถึงสิงคโปร์ใช้เวลาแค่ 24 ชั่วโมง เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสามารถของเยอรมนีในการเคลื่อนขุมกำลังทางอากาศเข้ามาในภูมิภาคท่ามกลางความตึงเครียดที่เกิดขึ้นอย่างสูงรอบบริเวณช่องแคบไต้หวัน ซึ่งปักกิ่งสั่งซ้อมรบรอบใหม่รับการมาเยือนของคณะสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ ล่าสุดอีกครั้ง

เมื่อกันยายนปีที่ผ่านมา สหภาพยุโรปตั้งแผนยุทธศาสตร์ใหม่มุ่งหน้าสู่ภูมิภาคอินโดแปซิฟิกเพื่อเพิ่มความสัมพันธ์ทางการค้า การเมือง ความมั่นคงภายในภูมิภาค

รัฐมนตรีกลาโหมเยอรมนี คริสตีน ลัมเบรชต์ (Christine Lambrecht) กล่าวว่า ถึงแม้เยอรมนีเวลานี้จำเป็นต้องให้ความสนใจไปที่สงครามในยูเครนก่อน แต่ทว่าภารกิจยูโรไฟเตอร์ (Eurofighter mission) ยังคงย้ำว่า “เอเชียจะไม่ถูกลืม”

“พวกเราอยู่ข้างของผู้ที่ยืนหยัดในคุณค่าของเรา เช่น ประชาธิปไตย เสรีภาพ และความมั่นคง และยังคงมีความปราถนาที่จะสนับสนุน” เธอกล่าวระหว่างเครื่องบินรบขับไล่เยอรมนีกำลังออกเดินทางจาก Neuberg an der Donau เยอรมนี วันจันทร์ (14) dpa news ของเยอรมนีรายงาน

เอพีชี้ว่า บางส่วนของยุทธศาสตร์ใหม่ในเอเชีย-แปซิฟิกของสหภาพยุโรปนั้นมีเป้าหมายไปที่การพัฒนาความมั่นคงทางน้ำและทำให้การเดินทางทางทะเลมีความปลอดภัย ซึ่งมีไม่กี่ชาติในยุโรปได้ส่งเรือรบของตัวเองเข้ามาในภูมิภาค

เอพีรายงานว่า เครื่องบินรบขับไล่ยูโรไฟเตอร์ 6 ลำ ที่เกี่ยวข้องในการฝึกซ้อมรบปัจจุบันมาพร้อมกับเครื่องบินลำเลียง 4 ลำ และเครื่องบินเติมน้ำมันอีก 3 ลำ และมีการฝึกเติมน้ำมันกลางอากาศระหว่างการเดินทาง และยังมีการแวะหยุดพักระหว่างการเดินทางเพื่อการเติมเชื้อเพลิง การตรวจสภาพ และการผลัดเปลี่ยนนักบิน

ซึ่งระหว่างการแวะจอดที่ฐานทัพใกล้อาบูดาบี สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ วันนี้ (16) Luftwaffe กองทัพอากาศเยอรมนีกล่าวว่า พบว่ามีเครื่องบินยูโรไฟเตอร์ 2 ลำเกิดปัญหาขัดข้องทางเทคนิค โดยหนึ่งลำสามารถซ่อมได้ แต่ทว่าอีกลำพบมีปัญหาระบบไฮดรอลิกขัดข้องจึงถูกส่งกลับเยอรมนี

Luftwaffe แถลงว่าเจ้าหน้าที่ทหารถูกส่งมาจากเยอรมนีเพื่อซ่อมให้เครื่องบินเหล่านี้สามารถเดินหน้าเตรียมพร้อมสำหรับการฝึกซ้อมรบร่วมในออสเตรเลียซึ่งเป็นจุดหมายปลายทางหลังจากออกเดินทางจากสิงคโปร์

DW สื่อเยอรมนีรายงานเพิ่มเติมว่า ปฏิบัติการซ้อมรบ "Pitch Black 2022" ที่ออสเตรเลียเป็นเจ้าภาพนั้นเบอร์ลินจัดส่งฝูงบินรบใหญ่ถึง 13 ลำเพื่อเข้าร่วมการฝึก โดยเครื่องบินยูโรไฟเตอร์ 6 ลำ ออกเดินทางจากเยอรมนีในวันจันทร์ (14) จากแคว้นบาวาเรีย ขณะที่เครื่องบินเติมน้ำมัน A330 จำนวน 3 ลำ และเครื่องบินลำเลียง A400 อีก 4 ลำออกเดินทางจากเมืองโคโลญจน์ 30 นาทีก่อนหน้า

อ้างอิงจากสื่อ airforce-technology พบว่าปฏิบัติการซ้อมรบ Pitch Black 2022 จะเกิดขึ้นในช่วงระหว่างวันที่ 19 ส.ค.ถึงวันที่ 8 ก.ย.ที่จะถึงนี้ และมี 17 ชาติเข้าร่วมที่นอกเหนือจากออสเตรเลีย เยอรมนี แล้วยังรวมไปถึงอังกฤษ ฝรั่งเศส แคนาดา เนเธอร์แลนด์ เกาหลีใต้ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ อินเดีย ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย และมีไทย รวมอยู่ในนั้นด้วย เป้าหมายเพื่อทดสอบการพัฒนาการรวมตัวกองกำลังรบนานาชาติและการแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อย่างแข็งแกร่งของออสเตรเลียต่อภูมิภาคอินโดแปซิฟิก

ด้านว่ารัฐมนตรีการคลังสิงคโปร์ที่กำลังจะขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีแดนลอดช่องคนใหม่ ลอว์เรนซ์ หว่อง (Lawrence Wong) ออกโรงเตือนในวันจันทร์ (15) ให้ระวังความขัดแย้งที่จีน-สหรัฐฯ อาจเผลอเป็นพวกเดินละเมอเข้าสู่ความขัดแย้งโดยไม่รู้ตัว เกิดขึ้นหลังจากประธานรัฐสภาสหรัฐฯ แนนซี เพโลซี เดินทางเยือนไต้หวันเป็นทางการจนทำให้ปักกิ่งสั่งเปิดฉากซ้อมรบรอบไต้หวันครั้งใหญ่

ทั้งนี้ บลูมเบิร์กรายงานว่า ในการให้สัมภาษณ์ในตอนหนึ่งเขาว่า “เราเริ่มต้นที่จะได้เห็นการตัดสินใจที่ออกมาเป็นชุดจากทั้ง 2 ประเทศที่จะนำเราไปสู่ดินแดนที่มีความเป็นอันตรายเพิ่มมากขึ้น” และเสริมต่อว่า “เหมือนที่พวกเขากล่าว ไม่มีใครจงใจต้องการเดินเข้าสู่สมรภูมิรบ แต่พวกเราเดินละเมอเข้าสู่ความขัดแย้ง” และชี้ว่า “นั่นเป็นปัญหาใหญ่สุดและอันตราย”


กำลังโหลดความคิดเห็น