ทีมประดาน้ำนอกชายฝั่งอังกฤษ เชื่อว่าพวกเขาพบซากเรือพิฆาตลำหนึ่งของสหรัฐฯ ซึ่งถูกเรือดำน้ำเยอรมนียิงตอร์ปิโดใส่จนจมอยู่ก้นทะเล ระหว่างสถานการณ์ความเป็นปรปักษ์ขั้นสูงสุดในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1
กองบัญชาการประวัติศาสตร์และมรดกแห่งกองทัพเรือสหรัฐฯ แถลงเมื่อวันศุกร์ (12 ส.ค.) ว่า ดาร์คสตาร์ กลุ่มนักประดาน้ำมืออาชีพจากสหราชอาณาจักร พบเศษซากที่เชื่อว่าเป็นของเรือยูเอสเอส จาค็อบ โจนส์ นอกชายฝั่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษ
เรือลำดังกล่าวมีหน้าที่คอยลาดตระเวนและอารักขาขบวนเรือต่างๆ รอบสหราชอาณาจักร ตั้งแต่ช่วงเดือนพฤษภาคม 1917 จนกระทั่งมันอับปางลงในวันที่ 6 ธันวาคม
จากข้อมูลระบุว่า เรือพิฆาตลำนี้จมห่างจากชายฝั่งอังกฤษไปราวๆ 96 กิโลเมตร ใกล้ช่องแคบอังกฤษ หลังจากถูกตอร์ปิโดโจมตี
บรรดานักประวัติศาสตร์ระบุว่า บรรดาลูกเรือมีเวลาแค่ราวๆ 8 นาทีก่อนเรืออับปาง ทำให้มีลูกเรือไม่ถึงครึ่งหนึ่งที่สามารถขึ้นแพยางฉุกเฉินอพยพหลบหนีได้ทัน โดยเชื่อว่ามีลูกเรือเพียง 46 คน จากทั้งหมด 110 คนที่รอดชีวิตจากการโจมตีดังกล่าว
กองบัญชาการประวัติศาสตร์และมรดกแห่งกองทัพเรือสหรัฐฯ บอกว่าหลังจากอับปาง เรือดำน้ำของเยอรมนีได้พาตัว 2 เชลยศึกขึ้นจากกระแสน้ำอันหนาวเย็น และวิทยุไปยังฐานทัพอเมริกาแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้เคียง แจ้งให้ส่งกองเรือกู้ภัยเข้ามาช่วยเหลือลูกเรือของเรือพิฆาต
อย่างไรก็ตาม สืบเนื่องจากเรือพิฆาตน้ำหนักกว่า 1,000 ตันลำนี้จมสู่ก้นทะเลเร็วมาก ตำแหน่งสุดท้ายของมันจึงเป็นปริศนามานานกว่า 100 ปี
ทีมประดาน้ำสหราชอาณาจักรคาดหมายว่าเรือจมอยู่ที่ความลึกราวๆ 400 ฟุต และบอกว่าพวกเขายังไม่เคลื่อนย้ายวัตถุใดๆ ออกจากจุดที่พบซากเรือ ระหว่างการสำรวจเมื่อเร็วๆ นี้
เหล่านักประวัติศาสตร์มองเรือพิฆาตลำนี้ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะม้าใช้ และมีหน้าที่รับผิดชอบคอยช่วยบรรดาลูกเรือหลายร้อยคนจากเรือต่างๆ ที่ถูกโจมตีด้วยตอร์ปิโด ก่อนที่มันจะประสบชะตากรรมเดียวกัน
ในช่วงสุดสิ้นสงครามในเดือนพฤศจิกายน 1918 เชื่อว่าเยอรมนี ได้จมเรือพาณิชย์มากกว่า 5,000 ลำ และเรือรบราวๆ 100 ลำ
อย่างไรก็ตาม พวกนักประวัติศาสตร์บอกว่า แม้มีความพยายามดังกล่าว แต่กองกำลังเยอรมนีก็ไม่สามารถเอาชนะแสนยานุภาพทางทะเลของพันธมิตรได้
นิวยอร์กโพสต์รายงานว่าเหล่านักประดาน้ำมีความตั้งใจติดต่อและทำงานร่วมกับสถานทูตสหรัฐฯ เพื่อสรุปว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปกับเรือลำนี้
(ที่มา : นิวยอร์กโพสต์)