กองทัพอากาศจีนส่งฝูงบินขับไล่ และเครื่องบินทิ้งระเบิดมายังประเทศไทย สำหรับซ้อมรบร่วมกับทหารไทยในวันอาทิตย์ (14 ส.ค.) ตามรายงานของสำนักข่าวเอพี ความเคลื่อนไหวซึ่งเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สถานการณ์ความตึงเครียดในช่องแคบไต้หวันพุ่งสูง
สำนักข่าวเอพีรายงานอ้างถ้อยแถลงที่โพสต์บนเว็บไซต์กระทรวงกลาโหมจีน ระบุว่า การซ้อมรบครั้งนี้จะรวมถึงการฝึกซ้อมสนับสนุนทางอากาศ โจมตีเป้าหมายต่างๆ ทางภาคพื้น และประจำการทหารทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่
รายงานของเอพีระบุว่า ความเคลื่อนไหวของจีนในการยกระดับกิจกรรมทางทหารในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ได้ก่อความกังวลแก่สหรัฐฯ และพันธมิตร ส่วนหนึ่งของการแข่งขันทางยุทธศาสตร์และเศรษฐกิจที่หนักหน่วงขึ้น ซึ่งโหมกระพือความตึงเครียดระหว่าง 2 ชาติเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดของโลก
ลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ เพิ่งเดินทางเยือนไทยในเดือนมิถุนายน ส่วนหนึ่งในความพยายามเสริมความเข้มแข็งแก่สิ่งที่เขาเรียกว่า "เครือข่ายพันธมิตรและคู่หูของอเมริกา" ที่ไม่มีใครทัดเทียมในภูมิภาค
การฝึกผสม "ฟอลคอน สไตรก์" จะมีขึ้นที่จังหวัดอุดรธานี ใกล้ชายแดนลาว ในขณะที่ฝูงบินขับไล่และอากาศยานแจ้งเตือนล่วงหน้าจากทั้ง 2 ประเทศจะเข้าร่วมด้วยเช่นกัน
เอพีรายงานว่า ความเคลื่อนไหวฝึกซ้อมครั้งนี้ มีขึ้นในขณะที่อีกด้านหนึ่งสหรัฐฯ จัดการซ้อมรบในอินโดนีเซีย กับอินโดนีเซีย ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น และสิงคโปร์ ในการซ้อมรบประจำปี Super Garuda Shield ครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เริ่มต้นมาในปี 2009
นอกจากนี้ มันยังมีขึ้นตามหลังเหตุการณ์จีน ส่งกองเรือรบ อากาศยาน และยิงขีปนาวุธเข้าสู่น่านน้ำและน่านฟ้าแถวๆ ไต้หวัน ในปฏิบัติการข่มขู่ ตอบโต้กรณีนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เดินทางเยือนเกาะปกครองตนเองแห่งนี้ ที่จีนอ้างว่าเป็นส่วนหนึ่งของดินแดน
เคิร์ท แคมป์เบลล์ ที่ปรึกษาของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ด้านอินโด-แปซิฟิก บอกเมื่อวันศุกร์ (12 ส.ค.) ว่าสหรัฐฯ จะใช้ก้าวย่างที่แน่วแน่ในการสนับสนุนไต้หวัน ในนั้นรวมถึงส่งเรือรบ และเครื่องบินผ่านช่องแคบที่มีความกว้าง 160 กิโลเมตร ซึ่งกั้นกลางระหว่างไต้หวันกับจีน
"เราจะยังคงบิน ล่องเรือและปฏิบัติการต่างๆ ตามที่กฎหมายระหว่างประเทศอนุญาต สอดคล้องกับพันธสัญญาที่มีมานานของเราต่อเสรีภาพแห่งการล่องเรือ ในนั้นรวมถึงการบินตามมาตรฐานและล่องเรือผ่านช่องแคบไต้หวัน ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า" แคมป์เบลล์ กล่าว
(ที่มา : เอพี)