ด้วยปฏิบัติการรุกรานยูเครนยืดเยื้อเข้าสู่เดือนที่ 6 รัสเซียยังคงถูกโดดเดี่ยวจากประชาคมนานาชาติ แบรนด์ข้ามชาติต่างๆ ยังคงบอยคอตต์ประเทศแห่งนี้ ในขณะสายการบินทั้งหลายและประเทศต่างกำหนดมาตรการแบนเที่ยวบินและคว่ำบาตรเล่นงานมอสโก
อย่างไรก็ตาม ล่าสุดมีสายการบินหนึ่งที่ตัดสินใจกลับมาเปิดบริการเที่ยวบินมุ่งหน้าสู่รัสเซีย ซึ่งทางบริษัทบอกว่าเป็นการตอบสนองต่ออุปสงค์ของบรรดาผู้โดยสาร
วิซ แอร์ อาบูดาบี ประกาศว่าทางสายการบินจะกลับมาให้บริการเที่ยวบินจากอาบูดาบีสู่มอสโก และจะเริ่มขายตั๋วตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคมเป็นต้นไป
โฆษกของ วิซ แอร์ ระบุในถ้อยแถลงว่า "วิซ แอร์ อาบูดาบี เป็นสายการบินสัญชาติสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่ปฏิบัติการตามกรอบกฎระเบียบและนโยบายแห่งชาติของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สายการบินกำลังกลับมาเปิดปฏิบัติการเที่ยวบินสู่มอสโก เพื่อรองรับอุปสงค์ด้านการเดินทางของบรรดาผู้โดยสาร ที่ปราศจากบินเข้าและออกจากรัสเซีย จากเมืองหลวงของยูเออี ทุกสายการบินสัญชาติยูเออีปัจจุบันกำลังปฏิบัติการเที่ยวบินตรงสู่รัสเซีย"
อย่างไรก็ตาม ถ้อยแถลงระบุต่อว่า "วิซ แอร์ ฮังการี และวิซ แอร์ สหราชอาณาจักร เวลานี้ไม่ได้ปฏิบัติการเที่ยวบินมุ่งหน้าสู่รัสเซีย เที่ยวบินจากสหราชอาณาจักรและอียู สู่รัสเซีย ยังคงถูกแบน"
สายการบินเอติฮัด สายการบินเอมิเรตส์และสายการบินฟลายดูไบ เป็นหนึ่งในบรรดาสายการบินที่ปฏิบัติการเที่ยวบินจากยูเออีมุ่งหน้าสู่รัสเซีย ส่วน วิซ เพิ่งเปิดเส้นทางดังกล่าวในเดือนธันวาคม 2021 ก่อนตัดสินใจระงับปฏิบัติการ หลังจากรัสเซียรุกรานยูเครน
ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าบรรดาผู้โดยสารจะเข้าใจจุดยืนที่แตกต่างของสายการบินหรือไม่ อย่างไรก็ตาม ทาง มาร์ค บอร์คอฟสกี ที่ปรึกษาด้านการประชาสัมพันธ์ในช่วงเวลาวิกฤต ให้ความเห็นกับซีเอ็นเอ็นว่า การตัดสินใจของสายการบินแห่งนี้อาจเป็นสิ่งผิดพลาดก็ได้ และบอกว่าบรรดาคู่แข่งของ วิซ จะจับตามองอย่างใกล้ชิด
"เวลานี้เรากำลังพบเห็นแบรนด์จำนวนหนึ่งกำลังเริ่มทดสอบความแน่วแน่ของตนเอง ในขณะที่เหตุการณ์ต่างๆ ลากยาว การส่งสัญญาณทางคุณธรรมจะแสดงให้เห็นถึงเจตจำนงทางการค้า" เขากล่าว
"ผมคาดว่าการตัดสินใจนี้จะได้รับการจับตามองด้วยความสนใจอย่างมาก มันอาจเป็นหายนะ อย่างไรก็ตาม ประเด็นใหญ่กว่าคือความอ่อนแรง แน่นอนว่าผลประโยชน์ทางพาณิชย์จะมีความสำคัญกว่า แต่กระนั้นมันเป็นความเคลื่อนไหวที่เสี่ยง ที่อาจแปรเปลี่ยนเป็นการประชาสัมพันธ์ทำร้ายตัวเอง" บอร์คอฟสกี ระบุ
(ที่มา : ซีเอ็นเอ็น)