แอปเปิล (Apple) ได้แจ้งไปยังซัปพลายเออร์ในไต้หวันให้ติดฉลากบนผลิตภัณฑ์ที่จะส่งไปจำหน่ายในจีนแผ่นดินใหญ่ว่า ‘ผลิตในประเทศจีน’ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหากับด่านศุลกากรจีน หลังการไปเยือนไทเปของประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ทำให้ประเด็นข้อพิพาทไต้หวันกลับมาร้อนระอุหนัก
หนังสือพิมพ์นิกเกอิของญี่ปุ่นรายงานว่า แอปเปิล ได้แจ้งกำชับไปยังซัปพลายเออร์ในไต้หวันให้ปฏิบัติตามระเบียบของจีนอย่างเคร่งครัด โดยระบุแหล่งผลิตสินค้าที่จะส่งไปจีนว่ามาจาก 'Chinese Taipei’ หรือ ‘Taiwan, China’ เนื่องจากการติดฉลาก ‘Made in Taiwan’ นั้นอาจจะทำให้สินค้าถูกกัก ถูกสั่งปรับ หรือแม้กระทั่งถูกปฏิเสธการนำเข้าจีน
ในส่วนของไต้หวันเองนั้นกำหนดให้ผู้ส่งออกสินค้าระบุแหล่งผลิตว่ามาจาก ‘Taiwan’ หรือ ‘Republic of China’ ซึ่งเป็นชื่อทางการของเกาะแห่งนี้
นโยบายล่าสุดของแอปเปิลเรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์มากพอสมควร โดย GreatFire.org ซึ่งรณรงค์ต่อต้านมาตรการเซ็นเซอร์สื่อออนไลน์ของจีน ระบุว่า แอปเปิลใช้มาตรการที่หนักข้อขึ้นเรื่อยๆ โดยก่อนหน้านี้ก็เคยเอา emoji รูปธงไต้หวันออกจากคีย์บอร์ดสำหรับผู้ใช้สินค้าแอปเปิลในจีนและฮ่องกงมาแล้ว
“อีกหน่อยแอปเปิลก็คงถอดทุกแอปพลิเคชันที่มีตัวอักษรคำว่าไต้หวัน แต่ไม่ระบุว่าเป็นมณฑลของจีน” องค์กรดังกล่าวระบุ
นักวิเคราะห์มองว่า แอปเปิลเองมีทางเลือกไม่มากนักที่จะปฏิบัติตามนโยบายของจีน เนื่องจากซัปพลายเออร์หลายเจ้ากำลังเตรียมชิ้นส่วนต่างๆ สำหรับกระบวนการผลิต ‘ไอโฟน 14’ และผลิตภัณฑ์ใหม่อื่นๆ ของแอปเปิลที่มีแผนจะเปิดตัวในฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ ซึ่งหากเกิดปัญหาในด้านการขนส่งและนำเข้าจีนย่อมจะก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมหาศาล
ทั้งนี้ การระบุแหล่งผลิตว่า Made In Taiwan บนหนังสือแจ้งการนำเข้า หรือบนกล่องบรรจุสินค้าอาจจะทำให้สินค้าถูกสั่งกักเพื่อตรวจสอบอย่างเข้มงวดโดยกรมศุลกากรจีน ซึ่งโทษของการละเมิดกฎคือปรับไม่เกิน 4,000 หยวน (ราว 21,000 บาท) หรือในกรณีร้ายแรงที่สุดคือสินค้าอาจถูกปฏิเสธการนำเข้าและถูกตีกลับ
ที่มา : The Guardian, Nikkei Asia