แม้สหรัฐฯ และพันธมิตรให้สัญญามอบแรงสนับสนุนด้านการทหารแก่ยูเครนแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่รายงานข่าวของสำนักข่าวซีบีเอสนิวส์เมื่อเร็วๆ นี้ บ่งชี้ว่าในบรรดาอาวุธที่ตะวันตกจัดหาให้นั้น มีเพียงแค่ราวๆ 30% ที่ถูกส่งถึงมือแนวหน้า ท่ามกลางข่าวลือเกี่ยวกับการถูกทิ้งไว้โดยเปล่าประโยชน์ คอร์รัปชันและนำไปขายต่อทำกำไรในตลาดมืด
สหรัฐฯ อนุมัติความช่วยเหลือทางเศรษฐกิจและทางทหารแก่ยูเครนไปแล้วมากกว่า 54,000 ล้านดอลลาร์นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ส่วนสหราชอาณาจักรสัญญามอบความช่วยเหลือด้านการทหารเกือบๆ 3,000 ล้านดอลลาร์ และอียูส่งมอบอาวุธแก่ยูเครนอีก 2,500 ล้านดอลลาร์ โดยอาวุธยุทโธปกรณ์ต่างๆ ไล่ตั้งแต่ปืนไรเฟิล ระเบิด ขีปนาวุธต่อต้านรถถีง ไปจนถึงระบบจรวดหลายลำกล้อง ถูกลำเลียงออกจากคลังแสงของตะวันตกมุ่งหน้าสู่ยูเครน เกือบทั้งหมดผ่านทางโปแลนด์
อย่างไรก็ตาม มีน้อยครั้งมากที่การส่งมอบจะเป็นไปอย่างราบรื่น รายงานของซีบีเอสนิวส์เปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว "ทั้งหมดถูกลำเลียงข้ามชายแดน และจากนั้นมีบางอย่างเกิดขึ้น มีแค่ราวๆ 30% ไปที่ถึงจุดหมายปลายทาง" โจนาส โอห์มาน ผู้ก่อตั้งองค์กรจัดหาเสบียงแก่ทหารยูเครน ที่มีฐานบัญชาการในลิทัวเนีย กล่าวกับซีบีเอสนิวส์ พร้อมระบุว่าการนำพาอาวุธไปมอบเหล่าทหารนั้น พัวพันกับเครือข่ายอันซับซ้อนของบรรดาผู้ทรงอิทธิพล ผู้มีอำนาจและผู้มีบทบาททางการเมือง
"ไม่มีข้อมูลจริงๆ ว่าอาวุธกำลังถูกส่งไปที่ไหน" โดนาเคลลา โรเวรา ที่ปรึกษาอาวุโสขององค์การนิรโทษกรรมสากลบอกกับซีบีเอสนิวส์ "มีความกังวลอย่างแท้จริงในบางประเทศ ว่าการส่งมอบอาวุธไม่เป็นไปอย่างที่คิด และพวกเขามีหน้าที่รับผิดชอบต้องกำหนดกลไกกำกับดูแลที่แข็งขันอย่างยิ่งขึ้นมา"
ยูเครน ยืนกรานว่าพวกเขาติดตามอาวุธแต่ละชิ้นและทุกชิ้นที่ข้ามเข้าสู่ชายแดนของพวกเขา โดย ยูริ ซัค ที่ปรึกษาของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม บอกกับหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์สเมื่อเดือนที่แล้ว ว่า รายงานข่าวต่างๆ ที่ขัดแย้งกัน "อาจเป็นส่วนหนึ่งของสงครามข้อมูลข่าวสารของรัสเซีย เพื่อทำให้พันธมิตรนานาชาติท้อใจ ไม่อยากมอบอาวุธแก่ยูเครน"
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่บางส่วนในตะวันตกยังคงส่งเสียงแสดงความกังวล โดยแหล่งข่าวด้านข่าวกรองของสหรัฐฯ เปิดเผยกับซีเอ็นเอ็นในเดือนเมษายน ว่า วอชิงตันแทบไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับอาวุธเหล่านั้น และให้คำจำกัดความการส่งมอบอาวุธว่าเป็น "การหย่อนลงสู่หลุมดำขนาดใหญ่" ครั้งที่อาวุธเหล่านี้ถูกส่งเข้าไปในยูเครน ส่วนแหล่งข่าวแคนาดาก็ระบุเช่นกันเมื่อเดือนที่แล้ว ว่า พวกเขาไม่รู้ว่าอาวุธที่ส่งมอบไปนั้น แท้จริงแล้วไปจบลงที่ไหน
The new CBS Reports documentary, "Arming Ukraine," explores why much of the billions of dollars of military aid that the U.S. is sending to Ukraine doesn't make it to the front lines: "Like 30% of it reaches its final destination." Stream now: https://t.co/Ob7Y3EsWkn pic.twitter.com/YgVbpYZkHn— CBS News (@CBSNews) August 5, 2022
สำนักงานตำรวจสหภาพยุโรป (ยูโรโพล) อ้างว่าอาวุธบางส่วนไปจบลงในมือขององค์การอาชญากรรมกลุ่มต่างๆ ในอียู ส่วนรัฐบาลรัสเซียเตือนว่าพวกมันกำลังไปโผล่ที่ตะวันออกกลาง ทั้งนี้จากการตรวจสอบของสำนักข่าวอาร์ทีนิวส์เมื่อเดือนมิถุนายน พบตลาดออนไลน์หลายแห่งที่มีการนำยุทโธปกรณ์ล้ำสมัยของตะวันตก อย่างเช่นจรวดเจฟลิน และระบบต่อต้านรถถัง NLAW รวมถึงโดรนสวิตช์เบลด ออกวางจำหน่ายในราคาดอลลาร์
ยูเครนติดอันดับชาติที่มีการคอร์รัปชันมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลกต่อเนื่องมาหลายปี มีคะแนน 122 เต็ม 180 ใน "ดัชนีการรับรู้การทุจริต (Corruption Perceptions Index : CPI)" ประจำปี 2021 ขององค์กรเพื่อความโปร่งใสนานาชาติ โดย 180 เป็นตัวแทนของการคอร์รัปชันมากที่สุดและ 0 เป็นตัวแทนของการคอร์รัปชันน้อยที่สุด
เหตุการณ์คล้ายกันนี้เคยเกิดขึ้นในเขตสงครามอื่นๆ ของโลกมาก่อนและมันมาพร้อมกับผลลัพธ์เลวร้าย "เราพบเห็นอาวุธมากมายไหลบ่าเข้าไป ครั้งที่กองกำลังที่นำโดยสหรัฐฯ ยกพลบุกอิรักในปี 2003" โรเวราบอกกับซีบีเอสนิวส์ "จากนั้นมันเกิดขึ้นอีกในปี 2014 เมื่อครั้งที่ไอเอสยึดพื้นที่ขนาดใหญ่ของประเทศ และยึดคลังอาวุธขนาดใหญ่ที่มีความตั้งใจมีไว้สำหรับกองกำลังอิรัก"
ขณะเดียวกัน ตอนที่กองกำลังสหรัฐฯ ยกพลบุกอัฟกานิสถานในปี 2001 พวกเขากลับต้องเผชิญหน้ากับบรรดานักรบที่ใช้อาวุธที่กองกำลังสหรัฐฯ เคยใช้ในช่วงทศวรรษ 1980 และล่าสุดตอนที่สหรัฐฯ ถอนตัวจากอัฟกานิสถานในปี 2021 ตอลิบานอ้างว่าทหารอเมริกาทิ้งอาวุธยุทโธปกรณ์มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ไว้เบื้องหลัง
ในซีเรีย อาวุธของสหรัฐฯ ที่ตั้งใจส่งมอบให้กลุ่มติดอาวุธที่เรียกวา "กบฏสายกลาง" สุดท้ายตกไปอยู่ในมือของไอเอสและพวกญิฮาดอัล-นุสรา ส่วนอาวุธที่ขายให้แก่ซาอุดีอาระเบีย ก็ถูกยึดโดยกบฏฮูตีในเยเมน
อย่างไรก็ตาม มิคาอิล โพโดยัค ที่ปรึกษาประธานาธิบดียูเครน ในวันอาทิตย์ (7 ส.ค.) อ้างไม่มีข้อพิสูจน์ว่าอาวุธที่ไหลบ่าเข้าสู่ประเทศของเขานั้นหายไป "รัสเซียกำลังหาทางดิสเครดิตยูเครนในสายตาประชาคมตะวันตก ด้วยข้อกล่าวหาเกี่ยวกับตลาดมืดอาวุธ" เขากล่าว
(ที่มา : อาร์ทีนิวส์/ซีบีเอสนิวส์)