รอยเตอร์ - เรือรบจีนและไต้หวันเล่นเกมแมวจับหนูกลางทะเล ในวันอาทิตย์ (7 ส.ค.) ซึ่งเป็นวันสุดท้ายในการซ้อมรบใหญ่นาน 4 วันของจีน ที่มีขึ้นเพื่อตอบโต้การเยือนไทเปของเพโลซี
การเยือนดินแดนมังกรน้อยของแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สร้างความเดือดดาลให้จีน ซึ่งตอบโต้ด้วยการทดสอบขีปนาวุธข้ามเกาะไต้หวันเป็นครั้งแรก และปิดช่องทางการสื่อสารหลายด้านกับอเมริกา
แหล่งข่าววงในเผยว่า เรือรบจีนและไต้หวันฝั่งละราว 10 ลำเผชิญหน้ากันในช่องแคบไต้หวันในวันอาทิตย์ โดยเรือรบบางลำของจีนมีการแล่นผ่านเส้นแบ่งเขต
กระทรวงกลาโหมไต้หวันแถลงว่า เรือ เครื่องบิน และโดรนของกองทัพจีนหลายลำซ้อมรบโดยจำลองการโจมตีเกาะและกองทัพเรือไต้หวัน ซึ่งไต้หวันได้ส่งเครื่องบินและเรือรบออกไปรับมือ “อย่างเหมาะสม” รวมทั้งประกบเพื่อติดตามและขัดขวางการรุกล้ำเมื่อทำได้ ด้านแหล่งข่าวคนเดิมเสริมว่า ทั้งสองฝ่ายต่างพยายามอดกลั้นใน “เกมแมวไล่หนู” ในทะเล
ไต้หวันสำทับว่า ระบบขีปนาวุธต่อต้านเรือที่ติดตั้งบนฝั่ง และแพตทริออตซึ่งเป็นระบบขีปนาวุธจากพื้นสู่อากาศอยู่ในสถานะเตรียมพร้อมใช้งาน
สำนักข่าวซินหวาของทางการจีนรายงานเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า การซ้อมรบของจีนที่โฟกัสที่ 6 จุดรอบเกาะไต้หวันที่จีนถือเป็นดินแดนของตนนั้น เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดี (4 ส.ค.) และมีกำหนดสิ้นสุดเที่ยงวันอาทิตย์ (7 ส.ค.)
ด้านกองทัพจีนแถลงเมื่อวันเสาร์ (6 ส.ค.) ว่าการซ้อมรบทางทะเลและอากาศ ทางทิศเหนือ ตะวันตกเฉียงใต้ และตะวันออกของไต้หวัน มุ่งเน้นศักยภาพในการโจมตีภาคพื้นดินและทางทะเล
ปักกิ่งยังประกาศซ้อมรบในทะเลเหลืองที่อยู่ระหว่างจีนกับคาบสมุทรเกาหลี ซึ่งจะดำเนินต่อเนื่องจนถึงวันที่ 15 เดือนนี้
ส่วนทำเนียบขาวแถลงว่า กิจกรรมเหล่านั้นเป็นการยกระดับความพยายามของจีนในการเปลี่ยนแปลงสถานะดั้งเดิมและเป็นการยั่วยุ ไร้ความรับผิดชอบ รวมทั้งเพิ่มความเสี่ยงที่จะเกิดการคำนวณผิดพลาด
โฆษกของทำเนียบขาวสำทับว่า การดำเนินการของจีนขัดแย้งกับเป้าหมายของอเมริกาในการรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวันซึ่งเป็นสิ่งที่ทั่วโลกคาดหวัง
จีนยืนกรานว่า ความสัมพันธ์ของตนกับไต้หวันเป็นกิจการภายใน รวมทั้งสงวนสิทธิในการเข้าควบคุมเกาะแห่งนี้ด้วยกำลังหากจำเป็น นอกจากนั้น จีนยังเตือนอเมริกาไม่ให้ “บุ่มบ่าม” และทำให้วิกฤตการณ์ลุกลาม
ด้านไต้หวันปฏิเสธการอ้างสิทธิของจีน และยืนยันว่า ประชาชนไต้หวันเท่านั้นที่สามารถกำหนดอนาคตตัวเองได้
หนังสือพิมพ์พีเพิลส์ เดลี่ ของพรรคคอมมิวนิสต์จีน กล่าวว่า จีนใช้มาตรการที่มีประสิทธิภาพในการแสดงออกอย่างเต็มที่ว่าจีนมีความเด็ดขาดและสามารถปกป้องเอกภาพของประเทศ ตลอดจนถึงอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน ซึ่งหมายถึงมาตรการตอบโต้การเยือนของเพโลซี
ด้านนายกรัฐมนตรีซู เจิง-ชาง ของไต้หวัน กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ปักกิ่งใช้ปฏิบัติการทางทหารอย่าง “หยิ่งยะโส” เพื่อขัดขวางสันติภาพ พร้อมเรียกร้องจีนยุติการอวดแสนยานุภาพทางทหาร
ขณะที่กระทรวงกลาโหมไต้หวันแถลงเมื่อวันเสาร์ว่า ได้ส่งเครื่องบินขึ้นสกัดเพื่อเตือนเครื่องบินของจีน 20 ลำ ซึ่งรวมถึง 14 ลำที่ข้ามเส้นแบ่งเขต นอกจากนั้น ยังตรวจพบเรือจีน 14 ลำเคลื่อนไหวอยู่ในช่องแคบไต้หวัน
นอกจากการซ้อมรบใหญ่รอบเกาะไต้หวันแล้ว ปักกิ่งยังตอบโต้การเยือนของเพโลซีด้วยการระงับการสื่อสารหลายช่องทางกับอเมริกา ซึ่งรวมถึงระหว่างกองบัญชาการทางทหาร และการเจรจาเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวหาจีนดำเนินการอย่างไร้ความรับผิดชอบ และยุติการให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาด้วยสันติวิธีแต่หันไปใช้กำลังแทน
ทั้งนี้ เพโลซีที่เดินทางถึงไทเปเมื่อคืนวันอังคาร (2 ส.ค.) ได้ประกาศว่า โลกต้องเลือกระหว่างเผด็จการกับประชาธิปไตย และย้ำว่า การเยือนไต้หวันของตนไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงสถานะดั้งเดิมในไต้หวันหรือภูมิภาคดังกล่าว
บลิงเคนยังกล่าวระหว่างเยือนฟิลิปปินส์ว่า อเมริกาได้รับรู้ความกังวลของพันธมิตรเกี่ยวกับการดำเนินการของจีนที่เป็นอันตรายและบ่อนทำลายเสถียรภาพ แต่วอชิงตันพยายามหลีกเลี่ยงการทำให้สถานการณ์ลุกลาม และโจมตีว่า การที่จีนยุติการเจรจาฝ่ายเดียวกับอเมริกาใน 8 ด้านสำคัญถือเป็นการลงโทษทั่วโลก
หวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศจีน ออกมาตอบโต้เมื่อวันศุกร์ (5 ส.ค.) ว่าบลิงเคนกำลังปล่อย “ข้อมูลที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิด”