นักวิเคราะห์คาดการซ้อมรบของจีนรอบเกาะไต้หวันจะขัดขวางหนึ่งในบริเวณที่มีการขนส่งสินค้าพลุกพล่านที่สุดของโลก จึงไม่เพียงส่งผลต่อไต้หวันเท่านั้น แต่ยังจะกระทบทั่วโลก ขณะเดียวกัน แม้อาจมีศักยภาพในการปิดเกาะแห่งนี้ทั้งเกาะ แต่ด้วยปัญหาเศรษฐกิจปัจจุบัน การกระทำนี้อาจส่งผลร้ายต่อเศรษฐกิจจีนเอง ดังนั้น จึงขึ้นอยู่กับผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ในปักกิ่งว่า ยินดีรับความเสี่ยงทางการเมืองและเศรษฐกิจมากน้อยแค่ไหน
การซ้อมรบคราวนี้ซึ่งถือเป็นครั้งใหญ่ที่สุดที่จีนจัดขึ้นรอบเกาะไต้หวัน เป็นการแสดงแสนยานุภาพภายหลัง แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ สร้างความเดือดดาลยิ่งยวดแก่ปักกิ่งด้วยการเยือนไทเปเมื่อคืนวันอังคาร (2 ส.ค.) จนถึงบ่ายวันพุธ (3)
การซ้อมรบเริ่มต้นขึ้นในวันพฤหัสฯ (4) และจัดขึ้นในบางส่วนของเส้นทางขนส่งสินค้าที่พลุกพล่านที่สุดของโลก ซึ่งใช้ขนส่งเซมิคอนดักเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ผลิตในฮับการผลิตในเอเชียตะวันออกไปยังตลาดโลก อีกทั้งยังเป็นเส้นทางสำคัญในการขนส่งก๊าซธรรมชาติอีกด้วย
จากข้อมูลของบลูมเบิร์ก ในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้เรือคอนเทนเนอร์เกือบครึ่งของโลกแล่นผ่านช่องแคบไต้หวันที่แบ่งแยกเกาะไต้หวันกับจีนแผ่นดินใหญ่
เจมส์ ชาร์ นักวิจัยผู้ช่วย ของวิทยาลัยราชารัตนัมเพื่อการระหว่างประเทศศึกษา ในสิงคโปร์ ชี้ว่า จากข้อเท็จจริงดังกล่าว การซ้อมรบของจีนย่อมทำให้ห่วงโซ่อุปทานโลกชะงักงันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้เนื่องจากต้องมีการเปลี่ยนเส้นทางใหม่
ทั้งนี้ แม้แต่การชะงักงันเพียงเล็กน้อยในห่วงโซ่อุปทานโลกซึ่งอยู่ในสภาพได้รับผลกระทบกระเทือนอยู่ก่อนแล้วจากการระบาดของโควิด-19 และสงครามยูเครน ก็อาจทำให้เกิดการสูญเสียมหาศาล
ขณะที่ นิก มาร์โร หัวหน้านักวิเคราะห์ด้านการค้าโลกของ อิโคโนมิสต์ อินเทลลิเจนซ์ ยูนิต ระบุว่า แผนการซ้อมรบด้วยกระสุนจริงของจีนกำลังเกิดขึ้นในน่านน้ำที่พลุกพล่านที่สุด และการปิดเส้นทางขนส่งเหล่านี้แม้เพียงชั่วคราว จะส่งผลไม่เฉพาะกับไต้หวันเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการไหลเวียนทางการค้าไปยังญี่ปุ่นและเกาหลีใต้
ความไม่แน่นอนนี้ฉุดดัชนีไท่เอ็กซ์ ซึ่งติดตามราคาหุ้นกลุ่มชิปปิ้งและสายการบินของไต้หวัน ร่วงลง 1.05% ในวันพฤหัสฯ และลดลงรวม 4.6% นับจากต้นสัปดาห์
ขณะที่กรมเจ้าท่าไต้หวันออกประกาศเตือนเรือให้หลีกเลี่ยงพื้นที่ทางตอนเหนือ ตะวันออก และใต้ของเกาะ ซึ่งจีนประกาศว่าเป็นบริเวณซ้อมรบ
กระนั้น บริษัทสายการเดินเรือพาณิชย์หลายแห่งที่เอเอฟพีติดต่อสอบถาม เผยว่า จะรอดูผลกระทบจากการซ้อมรบก่อนที่จะเปลี่ยนเส้นทางใหม่ ขณะที่บางแห่งบอกว่า ฤดูลมมรสุมที่ยังไม่จบทำให้เสี่ยงมากขึ้นถ้าจะเปลี่ยนเส้นทางเดินเรือรอบชายฝั่งด้านตะวันออกของไต้หวันผ่านทางทะเลฟิลิปปินส์ ส่วนบางแห่ง เช่น เมอร์สก์ ไชน่า ยืนยันว่าจะใช้เส้นทางเดิม
การซ้อมรบยังส่งผลต่อเส้นทางบินเช่นกัน โดยในช่วง 2 วันที่ผ่านมามีการยกเลิกเที่ยวบินกว่า 400 เที่ยวในสนามบินหลักหลายแห่งในมณฑลฝู่เจี้ยนของจีน ซึ่งเป็นมณฑลที่อยู่ใกล้ไต้หวันมากที่สุด ส่งสัญญาณว่า กองทัพจีนอาจซ้อมรบในบริเวณดังกล่าว
ขณะเดียวกัน คณะรัฐมนตรีของไต้หวันเผยว่า การซ้อมรบของจีนขัดขวางเส้นทางบินระหว่างประเทศ 18 เส้นทาง
ทั้งนี้ ระหว่างวิกฤตช่องแคบไต้หวันในทศวรรษ 1990 นั้น จีนเคยซ้อมรบนานหลายเดือน ซึ่งรวมถึงการยิงขีปนาวุธไปตกนอกชายฝั่งไต้หวัน และมีการซ้อมปฏิบัติการสะเทินน้ำสะเทินบกจู่โจมขึ้นเกาะ
บอนนี่ เกลเซอร์ ผู้อำนวยการโครงการเอเชียของกลุ่มคลังสมองเยอรมัน มาร์แชล ฟันด์ ซึ่งตั้งอยู่ในอเมริกา มองว่า ไม่ต้องสงสัยเลยว่า จีนต้องการแสดงแสนยานุภาพชัดเจนยิ่งกว่าเมื่อปี 1996 เสียอีก
ด้านหนังสือพิมพ์โกลบัลไทมส์ของทางการจีนรายงานเมื่อวันพุธ (3) ว่า การซ้อมรบมีเป้าหมายเพื่อแสดงให้เห็นว่า กองทัพจีนสามารถปิดกั้นเกาะทั้งเกาะได้
อย่างไรก็ตาม ชาร์จากวิทยาลัยราชารัตนัม ตั้งข้อสังเกตว่า การปิดกั้นช่องแคบไต้หวันเป็นเวลานานจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจจีนที่มีปัญหาค้างคาอยู่แล้วเช่นเดียวกัน
นาตาชา แคสซัม จากสถาบันโลวี กลุ่มคลังสมองในออสเตรเลีย เห็นด้วยในประเด็นนี้ โดยชี้ว่า จีนคงไม่อยากทำให้การเดินทางของพลเรือนและการค้าในภูมิภาคหยุดชะงัก
กระนั้น ยังต้องรอดูกันต่อไปว่า จีนจะตอบโต้การเยือนไต้หวันของเพโลซีที่อาจออกมาในรูปการสำแดงแสนยานุภาพทางทหาร การโจมตีทางไซเบอร์ การแซงก์ชันทางเศรษฐกิจ จะดุเด็ดแค่ไหน
โทมัส ชูการ์ต ผู้เชี่ยวชาญของเซ็นเตอร์ ฟอร์ อะ นิว อเมริกัน โซไซตี้ กลุ่มคลังสมองของอเมริกา กล่าวว่า เมื่อพิจารณาจากความก้าวหน้าทางการทหาร มีแนวโน้มสูงมากที่จีนจะมีศักยภาพในการปิดกั้นการเดินทางทางอากาศและทะเลของไต้หวัน โดยจีนจะเลือกทำสิ่งนี้หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับว่าผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีนยินดีรับความเสี่ยงทางการเมืองและเศรษฐกิจมากน้อยเพียงใด
(ที่มา : เอเอฟพี)