รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - เลขาธิการใหญ่องค์การนาโต้ พล.อ.เยนส์ สต็อลเตินบาร์ก แถลงวันนี้ (4 ส.ค.) เตือนจีนว่า ไม่มีความจำเป็นต้องแสดงปฏิกิริยารุนแรงเกินเหตุตอบโต้ประธานสภาคองเกรสสหรัฐฯ เยือนไต้หวัน ด้านเครมลินแถลงสวนทันควัน จีนมีสิทธิอธิปไตยโดยชอบธรรมซ้อมรบรอบไต้หวันป้องกันตัวเองหลังโดนฝ่านสหรัฐฯ ยั่วยุ ด้านแนนซี เพโลซี ไม่สนใจเดินหน้าไปเยือนเส้น DMZ แบ่ง 2 ชาติเกาหลีระหว่างการเยือนเกาหลีใต้ ก่อนบินถึงญี่ปุ่นวันพฤหัสบดี (4 ส.ค.) จุดหมายสุดท้าย
รอยเตอร์รายงานวันนี้ (4 ส.ค.) ว่า พล.อ.เยนส์ สต็อลเตินบาร์ก (Jens Stoltenberg) เลขาธิการใหญ่องค์การนาโต้แถลงเตือนปักกิ่งวันพฤหัสบดี (4) ถึงการซ้อมรบครั้งใหญ่ของจีนรอบไต้หวันหลังการเยือนของประธานรัฐสภาสหรัฐฯ แนนซี เพโลซี
“การเยือนของประธานรัฐสภาสหรัฐฯ แนนซี เพโลซี ไม่ใช่เหตุผลสำหรับจีนในการที่ต้องแสดงปฏิกิริยาเกินกว่าเหตุหรือข่มขู่ไต้หวันหรือการใช้ถ้อยคำที่คุกคาม” สต็อลเตินบาร์ก กล่าว
และเขากล่าวต่อว่า “สหรัฐฯ และพันธมิตรชาตินาโต้อื่นๆ ได้ส่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงเยือนไต้หวันตามปกติในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลสำหรับจีนที่ต้องแสดงปฏิกิริยารุนแรงเกินกว่าเหตุ”
บลูมเบิร์กรายงานว่า ภายในวันนี้ (4) ตั้งแต่เวลาราว 13.56 น. ถึงเวลา 16.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น กระทรวงกลาโหมไต้หวันกล่าวผ่านแถลงการณ์ว่า จีนยิงมิสไซล์ตงเฟิง (Dongfeng ballistic missile) เล็งมาที่น่านน้ำไต้หวันทางเหนือ ตะวันออก และทางใต้ของไต้หวัน
และเป็นครั้งแรกที่ปักกิ่งยิงมิสไซล์ใกล้น่านน้ำไต้หวันเป็นจำนวนมากที่สุด 11 ลูก ภายในรอบหลายสิบปีของการซ้อมรบของปักกิ่ง
รอยเตอร์รายงานว่า ด้านรัสเซียออกแถลงการณ์วันเดียวกัน (4) ตอบโต้นาโต้ ชี้ปักกิ่งมีสิทธิอธิปไตยชอบธรรมในการซ้อมรบล้อมไต้หวัน อ้างเป็นการยั่วยุที่มาจากฝ่ายสหรัฐฯ ทำให้มีความตึงเครียดเพิ่มขึ้นภายในภูมิภาค
โฆษกเครมลิน ดมิตรี เพสคอฟ (Dmitry Peskov) กล่าวตอบคำถามว่า “มันสิทธิอธิปไตยชอบธรรมของจีน” และเขากล่าวต่อว่า “ความตึงเครียดในภูมิภาคและรอบไต้หวันถูกยั่วยุ...ด้วยการเยือนของประธานสภาสหรัฐฯ แนนซี เพโลซี” และเสริมต่อว่า “มันไม่มีความจำเป็นอย่างสิ้นเชิงสำหรับการเยือนและเป็นการยั่วยุที่ไม่จำเป็น”
วอชิงตันเอ็กแซมมิเนอร์ สื่อสหรัฐฯ รายงานว่า เพโลซีหลังเดินทางเข้าเกาหลีใต้ในค่ำวานนี้ (3) เธอมีกำหนดที่จะเดินทางไปเยือนเส้นลดความตึงเครียดทางการทหาร DMZ ระหว่าง 2 ชาติเกาหลี ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในจุดร้อนของภูมิภาคอินโดแปซิฟิก
อ้างอิงจากเอเอฟพี สำนักงานประธานาธิบดีเกาหลีใต้ออกแถลงการณ์วันนี้ (4) มีใจความว่า การเยือนเส้น DMZ ของเพโลซีเป็นการส่งสัญญาณการป้องปรามอย่างแข็งแกร่งระหว่างเกาหลีใต้และสหรัฐฯ ต่อต้านเกาหลีเหนือ
และการเยือนทำให้เพโลซีกลายเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงสุดของสหรัฐฯ ที่ได้ไปเยือนเส้น DMZ หลังจากครั้งสุดท้ายหลังอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ พบกับประธานาธิบดีเกาหลีเหนือ คิม จองอึน ในปี 2019
เพโลซีกล่าวกับบรรดาผู้นำเกาหลีใต้ในวันพุธ (3) มีใจความว่า “พวกเราขอกล่าวต่อพวกคุณว่า มิตรภาพและความสัมพันธ์นั้นเริ่มมาจากความเร่งด่วนและความมั่นคงเมื่อหลายปีมาก่อนและได้กลายเป็นมิตรภาพที่อบอุ่นมากที่สุด ดังนั้น พวกเราต้องการเดินหน้าทางด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ และการบริหารทางรัฐบาลผ่านทางระหว่างรัฐสภาระหว่างกัน”
วอชิงตันเอ็กแซมมิเนอร์รายงานว่า อย่างไรก็ตาม ไม่มีหมายกำหนดการเดินทางข้ามไปเยือนเกาหลีเหนือสำหรับเพโลซีที่ออกมาในช่วงสุดสัปดาห์ ซึ่งญี่ปุ่นจะเป็นประเทศสุดท้ายตามหมายกำหนดการเดินทางทัวร์เอเชียครั้งนี้