xs
xsm
sm
md
lg

จีนประณามสหรัฐฯ-ไต้หวัน ระบุต้องรับผิดชอบที่สร้างความขัดแย้งและทำลายสันติภาพ ขณะที่ปักกิ่งสั่งซ้อมรบด้วยกระสุนจริงเฉียดใกล้ไต้หวัน ตอบโต้ ‘เพโลซี’ไปไทเป

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ แนนซี เปโลซี (บนสุด) และคณะ โบกมือขณะเตรียมตัวเดินทางออกจากนครไทเป, ไต้หวัน ในวันพุธ (3 ส.ค.) (ภาพเผยแพร่โดยกระทรวงการต่างประเทศไต้หวัน)
ไช่ อิงเหวิน ผู้นำไต้หวัน อ้าแขนรับการเยือนของประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ แนนซี เพโลซี ในวันพุธ (3 ส.ค.) เมินปฏิกิริยาตอบโต้ที่เกรี้ยวกราดขั้นสุดของจีน ซึ่งทั้งประกาศซ้อมรบเฉียดใกล้ชายฝั่งไต้หวัน เรียกเอกอัครราชทูตอเมริกันประจำปักกิ่งเข้าพบ และสั่งระงับการนำเข้าสินค้าเกษตรของไทเป ด้านโฆษกสำนักงานกิจการไต้หวันของแดนมังกร ประณามไทเปและวอชิงตัน ต้องรับผิดชอบในการสร้างความขัดแย้ง และเป็น “นักทำลายสันติภาพ” ในช่องแคบไต้หวัน

เพโลซี เดินทางถึงสนามบินในนครไทเปเมื่อคืนวันอังคาร (2) โดยไม่สนคำเตือนของจีน ซ้ำบอกกับประธานาธิบดีไช่ ของไต้หวันระหว่างพบกันในวันพุธ (3) ว่า การเยือนครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่อยืนยันว่า อเมริกาจะไม่ทอดทิ้งไต้หวัน

ด้านผู้นำไต้หวันประกาศว่า ท่ามกลางการคุกคามทางทหารที่เข้มข้นขึ้น ไต้หวันจะไม่ยอมจำนน และจะมุ่งมั่นปกป้องประชาธิปไตยต่อไป นอกจากนั้น ไช่ยังขอบคุณเพโลซีที่แสดงการสนับสนุนไต้หวันอย่างเป็นรูปธรรมในช่วงเวลาวิกฤตนี้

เพโลซีที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับจีนมานาน โดยเฉพาะในประเด็นสิทธิมนุษยชน ยังพบกับอดีตผู้นำนักเคลื่อนไหวในเหตุการณ์การประท้วงที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน เจ้าของร้านหนังสือในฮ่องกงที่เคยถูกจีนควบคุมตัว และนักเคลื่อนไหวไต้หวันที่จีนเพิ่งปล่อยออกมาเมื่อไม่นานมานี้

ประธานสภาล่างสหรัฐฯขึ้นเครื่องบินทหารอเมริกันออกจากไต้หวันแล้วในตอนบ่ายวันพุธ (3) โดยมุ่งไปยังเกาหลีใต้และญี่ปุ่น ตามแผนการเยือนเอเชียของเธอ

เพโลซี ไม่ใช่เป็นประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯคนแรกที่เยือนไต้หวัน ซึ่งทำให้ปักกิ่งเดือดดาลเห็นว่าเป็นการละเมิดหลักการ “จีนเดียว” ที่เป็นพื้นฐานของความสัมพันธ์ระหว่างปักกิ่งกับวอชิงตัน ทั้งนี้ นิวต์ กิงกริช เคยทำเช่นนี้มาแล้วเมื่อปี 1997 ขณะเขามีตำแหน่งเป็นประธานสภาล่างของอเมริกา ซึ่งตามรัฐธรรมนูญระบุว่า จะได้ขึ้นเป็นประธานาธิบดี หากประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีไม่สามารถปฏิบัติหนาที่ได้

ทว่า การเยือนของเพโลซีมีขึ้นขณะที่สัมพันธ์จีน-อเมริกาบาดหมางร้าวลึก นอกจากนั้นในช่วง 25 ปีที่ผ่านมา จีนยังปลุกปั้นตัวเองขึ้นเป็นมหาอำนาจท้าทายสหรัฐฯทั้งด้านเศรษฐกิจ การทหาร และภูมิรัฐศาสตร์

สำหรับปฏิกิริยาตอบโต้ของปักกิ่งต่อการเยือนไต้หวันของ เพโลซี คราวนี้ กรม ศุลกากรจีนได้ประกาศเมื่อวันพุธระงับการนำเข้าผลไม้และปลาจากไต้หวัน โดยอ้างว่า ตรวจพบยาฆ่าแมลงตกค้างและปนเปื้อนไวรัสโคโรนา ขณะที่กระทรวงพาณิชย์ก็สั่งระงับการส่งออกทราย ให้ไต้หวัน

ขณะที่ทางการทหารนั้น หลังจากเพโลซีเดินทางถึงไทเปไม่นาน กองทัพจีนประกาศเตรียมพร้อมในระดับสูง พร้อมประกาศจัดการซ้อมรบร่วมทางอากาศและทะเล “ที่จำเป็นและเหมาะสม” ใกล้ๆ ไต้หวัน รวมทั้งทดสอบขีปนาวุธตามแบบในทะเลด้านตะวันออกของไต้หวัน ซึ่งสำนักข่าวซินหัวของทางการจีนระบุว่า เป็นการซ้อมรบด้วยกระสุนจริงในช่องแคบไต้หวัน และยังมีการซ้อมรบอื่นๆ รอบเกาะไต้หวันตั้งแต่วันพฤหัสฯ (4) ถึงวันอาทิตย์ (7)

จากการเปิดเผยของกองทัพจีน บางจุดที่จะทำการซ้อมรบจะอยู่ในระยะ 20 กิโลเมตรจากชายฝั่งไต้หวัน ขณะที่โฆษกกระทรวงกลาโหมไต้หวันแถลงว่า พื้นที่ซ้อมรบบางส่วนของจีนรุกล้ำน่านน้ำไต้หวันและถือเป็นการท้าทายระเบียบโลก

สำหรับกองทัพไต้หวันก็ประกาศยกระดับการเตรียมพร้อม ส่วนกระทรวงมหาดไทยเผยว่า เครื่องบินจีนจำนวน 21 ลำรุกล้ำเขตแสดงตนเพื่อการป้องกันภัยทางอากาศเมื่อวันอังคาร และจีนยังพยายามคุกคามท่าเรือและเมืองสำคัญด้วยการซ้อมรบในน่านน้ำรอบไต้หวัน

เจ้าหน้าที่อาวุโสที่รับรู้การวางแผนด้านความมั่นคงของไต้หวันเปิดเผยกับรอยเตอร์เมื่อวันพุธว่า การซ้อมรบของจีนอยู่ภายในบริเวณที่ถือเป็นเส้นทางสัญจรระหว่างประเทศที่มีการใช้งานมากที่สุดในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ทำให้ตีความได้ว่า จีนไม่ต้องการให้ช่องแคบไต้หวันเป็นน่านน้ำสากล รวมทั้งทำให้น่านน้ำด้านตะวันตกของแนวเกาะเส้นแรกทั้งหมดในแปซิฟิกตะวันตกเป็นเขตอิทธิพลของตนเอง

ทว่า กระทรวงการต่างประเทศจีนแถลงตอบโต้ว่า ไม่เห็นว่า การซ้อมรบของกองทัพจีนรอบไต้หวันจะส่งผลต่อเสรีภาพในการเดินเรือแต่อย่างใด

กระทรวงแถลงด้วยว่า การเยือนของเพโลซีทำลายสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวันอย่างรุนแรง และมีผลกระทบอย่างมากต่อรากฐานทางการเมืองของความสัมพันธ์จีน-อเมริกา อีกทั้งยังละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของจีนอย่างร้ายแรง

ทางด้าน หม่า เสี่ยวกวง โฆษกของสำนักกิจการไต้หวัน ในคณะรัฐมนตรีจีน ประณามคณะผู้นำใมนไทเปและสหรัฐฯว่าต้องรับผิดชอบสำหรับการสร้างความขัดแย้งขึ้นมาระหว่างสองฝ่ายของช่องแคบไต้หวัน

ประธานาธิบดีไช่ ของไต้หวัน และพรรคเดโมเครติก โปรเกรสสีฟ ปาร์ตี้ (ดีพีพี) ของเธอ “กำลังพึ่งพาอาศัยความสนับสนุนภายนอก ยินดีที่จะรับบทบาทเป็นตัวเบี้ย และยกระดับการยั่วยุ ในการเรียกร้องเพื่อแยกตัวเป็นเอกราช” หม่า กล่าวในวันอังคาร (2)

สำหรับ “สหรัฐฯได้เพิ่มความพยายามของพวกเขาในความพยายามที่จะเล่นไพ่ไต้หวัน ยังคงเติมเชื้อเพลิงเข้าไปในกองไฟอย่างต่อเนื่อง กำลังดำเนินแผนการที่จะปิดล้อมจีนโดยผ่านไต้หวัน” เขากล่าว

ไทเป กับ วอชิงตัน จะไม่สามารถฟอกตัวพวกเขาให้ขาวสะอาดขึ้นมาได้ ไม่ว่าพวกจะใช้ “เล่ห์” อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก “พวกเขาเป็นผู้สร้างวามขัดแย้งระหว่างสองฟากฝั่งช่องแคบไต้หวันขึ้นมา เป็นนักทำลายสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไตหวัน”

หม่าบอกว่า แผนการต่างๆ ของคณะผู้นำไต้หวันที่จะ “พึ่งพาอาศัยสหรัฐฯเพื่อให้ตนเองเป็นเอกราช” มีแต่จะต้องล้มเหลว และมายาภาพของ “การหาทางให้ได้เป็นเอกราชด้วยการใช้กำลัง” ก็มีแต่จะยังเร่งให้ ไช่ และพรรคดีพีพี ล่มสลาย ขณะเดียวกันก็ทำให้ไต้หวันจมลงสู่ห้วงเหวแห่งหายนะ

(ที่มา: รอยเตอร์, เอเอฟพี, เอพี, อาร์ที)


กำลังโหลดความคิดเห็น