เอพี/เอเจนซีส์/รอยเตอร์ - ประธานรัฐสภาสหรัฐฯ แนนซี เพโลซี เดินทางถึงสิงคโปร์เช้าตรู่วันจันทร์ (1 ส.ค.) เริ่มต้นการเยือนเอเชียอย่างเป็นทางการท่ามกลางความสนใจพุ่งไปที่ไต้หวัน ขณะที่ผู้บัญชาการกองเรืออินโดแปซิฟิกสหรัฐฯ เปิดฉากเยือนนิวซีแลนด์ ต้องการขยายความร่วมมือทางการทหารกับแดนกีวีเพิ่มเพื่อต่อต้านการขยายอิทธิพลจากปักกิ่งภายในภูมิภาค
เอพีรายงานวันนี้ (1 ส.ค.) ว่า ประธานรัฐสภาสหรัฐฯ แนนซี เพโลซี และคณะเดินทางมาถึงสิงคโปร์แล้ว โดยเครื่องได้ลงจอดแลนดิ้งเมื่อช่วงเช้าตรู่ก่อนพระอาทิตย์ขึ้นวันจันทร์ (1) อ้างอิงจากแหล่งข่าวใกล้ชิดที่ไม่เปิดเผยชื่อ
ทั้งนี้ เพโลซีจะเรียกร้องให้ทั้งประธานาธิบดีสิงคโปร์ ฮาลีมะฮ์ ยากบ (Halimah Yacob) นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ ลี เซียน ลุง (Lee Hsien Loong) และจะพบกับสมาชิกคณะรัฐมนตรีสิงคโปร์ อ้างอิงจากโฆษกกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์
รอยเตอร์รายงานภาพการจับมือระหว่างเพโลซี และนายกรัฐมนตรีสิงคโปร์โดยที่ไม่มีใครสวมหน้ากาก
และหลังจากนั้น เพโลซีจะพบกับหลายคณะในสิงคโปร์ ทั้งหอการค้าอเมริกัน (American Chamber of Commerce) ซึ่งระหว่างการเยือนจะไม่สื่อมวลชนสามารถเข้าสัมภาษณ์เพโลซีซึ่งในช่วงสุดสัปดาห์ได้มีรายงานว่า เพโลซีมีกำหนดการเยือนสิงคโปร์ มาเลเซีย เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น แต่ในคำแถลงไม่ได้เอ่ยไปถึงไต้หวัน
การเดินทางมาถึงสิงคโปร์ของเพโลซีเกิดขึ้นในวันเดียวกันกับที่ พลมร.อ.จอห์น อากีลีโน (John Aquilino) ผู้บัญชาการกองเรือสหรัฐฯ อินโดแปซิฟิก เดินทางไปเยือนนิวซีแลนด์
หนังสือพิมพ์เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์รายงานว่า ในวันจันทร์ (1) อากีลีโนเยือนกรุงเวลลิงตัน
เขากล่าวว่า ต้องการขยายและกระชับความสัมพันธ์กับนิวซีแลนด์ ซึ่งในระหว่างการเยือนผู้บัญการอินโดแปซิฟิกสหรัฐฯ เข้าร่วมพิธีต้อนรับอย่างสมเกียรติโดยนักรบชนเผ่าเมารีซึ่งเป็นชนเผ่าพื้นเมืองนิวซีแลนด์ และยังได้วางพวงหรีดที่สวนสาธารณะอนุสรณ์รำลึกสงครามพูเคอาฮู (Pukeahu)
เอบีซีนิวส์ของออสเตรเลียรายงานว่า เกิดขึ้นท่ามกลางสหรัฐฯ เร่งกระชับความสัมพันธ์กับแดนกีวีท่ามกลางความกลัวถึงการเพิ่มขึ้นทางการทหารในเขตแปซิฟิก
ซึ่งก่อนที่จะได้ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวก่อนพบกับผู้นำระดับสูงกระทรวงกลาโหมนิวซีแลนด์และเจ้าหน้าที่นิวซีแลนด์ว่า “ความเป็นพันธมิตรของพวกเรานั้นลึกซึ้งมาก” และเสริมต่อว่า “พวกเราได้ทำอะไรอย่างมากมายร่วมกันเพื่อทำให้มั่นใจว่าสันติภาพและความมั่งคั่งของทั้งสองชาติและสำหรับชาติต่างๆ ภายในภูมิภาค”
เขาย้ำว่าเขาต้องการบ่งชี้ถึงสิ่งใหม่ๆ ที่สหรัฐฯ จะสามารถร่วมมือกับนิวซีแลนด์ และกล่าวว่า ความเป็นผู้นำของสหรัฐฯ และนิวซีแลนด์ภายในภูมิภาคนั้นสำคัญมาก
ผู้บัญชาการกองเรืออินโดแปซิฟิกสหรัฐฯ กล่าวว่า สหรัฐฯ เข้าใจประเด็นปัญหาความมั่นคงทางการเปลี่ยนแปลงทางสภาวะอากาศโลกในประเทศหมู่เกาะมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งรวมไปถึงความมั่นคงทางอาหารและความมั่นคงทางน้ำ และความสำคัญที่บรรดาประเทศหมู่เกาะจะสามารถทำการประมงได้ในเขตเศรษฐกิจจำเพาะ
ทั้งนี้ หลังจากที่จีนทำข้อตกลงทางความมั่นคงกับหมู่เกาะโซโลมอนสำเร็จ และเดินหน้าต้องการทำข้อตกลงร่วมกับประเทศหมู่เกาะทะเลแปซิฟิกอื่นๆ สร้างความตกตะลึงให้ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และสหรัฐฯ
สื่อฟอเรนโพไลซี (Foreign policy) รายงานเมื่อวันที่ 14 ก.ค.ว่า ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ได้เปิดเผยแผนการยกระดับทางการทูตและการลงทุนระหว่างประเทศในมหาสมุทรแปซิฟิกเพื่อต่อต้านอิทธิพลปักกิ่ง
ทั้งนี้ พบว่าสหรัฐฯ ได้เปิดสถานทูต 2 แห่งในตองกาและในคิริบาส (Kiribati) และยังแต่งตั้งทูตสหรัฐฯ ประจำฟอรัมประเทศหมู่เกาะแปซิฟิก PIF (Pacific Islands Forum) ซึ่งเป็นองค์กรระดับภูมิภาคของประเทศหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก
อากีลีโน กล่าวว่า “สหรัฐฯ ถือเป็นชาติแปซิฟิกมาทั้งชีวิตของพวกเรา พวกเราจะยังคงปฏิบัติการในมหาสมุทรแปซิฟิกไม่ว่าพวกคุณจะได้ยินอะไรมาบ้าง”
ทั้งนี้ การเดินทางมาถึงกรุงเวลลิงตัน นิวซีแลนด์ในวันเสาร์ (30 ก.ค.) เกิดขึ้นก่อนหน้าหลังเยือนออสเตรเลียประเทศเพื่อนบ้านของแดนกีวี โดยมีภาพผู้บัญชาการกองเรือสหรัฐฯ ประจำภูมิภาคอินโดแปซิฟิกถ่ายภาพร่วมเฟรมในวันพุธ (27 ก.ค.) กับผู้บัญชาการกองทัพออสเตรเลีย พล.อ.แองกัส แคมป์เบล (Angus Campbell) และประธานเสนาธิการร่วมสหรัฐฯ พล.อ.มาร์ก มิลลีย์ (Mark Milley)