มีโลคาอีฟ เมืองทางภาคใต้ของยูเครน ถูกถล่มอย่างหนักในช่วงเช้าวันอาทิตย์ (31 ก.ค.) คร่าชีวิตเจ้าของบริษัทธัญพืชรายใหญ่ ในขณะที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ใช้วันกองทัพเรือของประเทศ ข่มขู่ใช้กำลังทหารกับใครก็ตามที่บ่อนทำลายอำนาจอธิปไตยและเสรีภาพของรัสเซีย
โอเล็กซานด์ร เซนเควิช นายกรัฐมนตรีมีโคลาอีฟ ระบุว่า อานุภาพของกระสุนดาวกระจายทำบานกระจกของอาคารต่างๆ แตกยับและก่อความเสียหายแก่ระเบียง "มีโคลาอีฟถูกยิงปืนใหญ่โจมตีเป็นชุดในวันนี้ บางทีอาจเป็นครั้งหนักหน่วงที่สุดเท่าที่เคยมีมา" เขากล่าวในถ้อยแถลง
ทีมข่าวของซีเอ็นเอ็นที่อยู่ในพื้นที่ เผยว่าได้ยินเสียงระเบิดของการโจมตีและพบเห็นเปลวไฟปะทุขึ้นท่ามกลางกระสุนที่ตกลงมา โดยชาวบ้านหลายคนให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็น ระบุเช่นกันว่า มันเป็นการยิงถล่มเมืองแห่งนี้ครั้งหนักหน่วงที่สุดนับตั้งแต่สงครามเริ่มต้นขึ้น
วิตาลี คิม ผู้ว่าการมีโคลาอีฟ เปิดเผยว่า โอเล็กซีย์ วาดาตูร์สกี ผู้ก่อตั้งและเจ้าของบริษัทเกษตรกรรม Nibulon และภรรยาเสียชีวิตภายในบ้านจากเหตุโจมตีครั้งนี้
ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ระบุว่าการเสียชีวิตของ วาดาตูร์สกี คือความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ของชาวยูเครนทุกคน โดยบอกว่านักธุรกิจรายนี้อยู่ระหว่างดำเนินการสร้างตลาดธัญพืชสมัยใหม่ ที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายสถานีถ่ายสินค้าและโรงเก็บธัญพืช
เซนเควิช เผยว่านอกจากผู้เสียชีวิตแล้ว ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 3 ราย พร้อมระบุมีจรวด 12 ลูกที่ตกใส่บ้านเรือนประชาชนและศูนย์การศึกษาต่างๆ
บริษัทเกษตรกรรม Nibulon มีความเชี่ยวชาญด้านการผลิตและส่งออกข้าวสาลี ข้าวข้าวบาร์เลย์และข้าวโพด มีกองเรือและอู่ต่อเรือของตนเอง และมีสำนักงานใหญ่ในมีโคลาอีฟ เมืองยุทธศาสตร์สำคัญที่ชายแดนติดกับแคว้นเคอร์ซอน ดินแดนที่อยู่ภายใต้การยึดครองของรัสเซียเป็นส่วนใหญ่
อีกด้านหนึ่งประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย กล่าวปราศรัยเนื่องในวันกองทัพเรือของรัสเซีย ในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก ไม่ได้พาดพิงใดๆ ถึงสงครามของรัสเซียในยูเครน เพียงแต่บอกว่า "สถานการณ์ปัจจุบันของประเทศเรียกร้องให้ต้องดำเนินการต่างๆ เด็ดขาดเป็นอย่างยิ่ง"
"เราจะปกป้องอย่างหนักแน่นและทุกวิถีทาง กุญแจสำคัญก็คือแสนยานุภาพของกองทัพเรือ ซึ่งสามารถตอบโต้ด้วยความเร็วสายฟ้าแลบ ใครก็ตามที่ตัดสินใจล่วงล้ำอธิปไตยและเสรีภาพของเรา" ปูตินกล่าว
ปูตินเผยว่าการส่งมอบระบบขีปนาวุธร่อนไฮเปอร์โซนิกเซอร์คอน (Zircon) จะเริ่มขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า หลังจากก่อนหน้านี้เมื่อเดือนพฤษภาคม รัสเซียประกาศว่าพวกเขาประสบความสำเร็จในการทดสอบขีปนาวุธเซอร์คอน ในพิสัยทำการ 1,000 กิโลเมตร
ในรายงานแยกกัน มีข่าวว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 3 ราย และบาดเจ็บ 8 คนในสมรภูมิรบทางภาคตะวันออกของยูเครน จากการเปิดเผยขององค์การทหาร-พลเรือนแคว้นโดเนตสก์ ซึ่งระบุว่าหมู่บ้านต่างๆ ในแคว้นแห่งนี้ตกเป็นเป้าหมายของปืนใหญ่ ขีปนาวุธแกรด และจรวดอูรากัน "อาคารพลเรือนและตึกสูง 11 แห่ง สถานีตำรวจ ตลาด ร้านอาหาร ได้รับความเสียหาย และมีทุ่งหญ้า 3 แห่งที่เกิดไฟลุกไหม้"
เสนาธิการทหารยูเครนระบุว่า กองกำลังรัสเซียโจมตีแนวหน้าในแคว้นโดเนตสก์และลูฮันสก์
ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน เมื่อวันเสาร์ (31 ก.ค.) เรียกร้องชาวบ้านที่ยังคงอยู่ในแคว้นโดเนสก์ให้อพยพออกมาอย่างเร่งด่วน ในสิ่งที่เขาเรียกว่าเป็นการตัดสินใจของทางรัฐบาล "กำลังจัดการทุกสิ่งทุกอย่าง จะให้การสนับสนุนและช่วยเหลืออย่างเต็มกำลัง ทั้งในแง่โลจิสติกส์และเงินชดเชย เรารอเพียงการตัดสินใจด้วยตนเองของประชาชน ประชาชนที่ยังไม่ได้ตัดสินใจเพื่อตนเอง"
เหตุโจมตีเรือนจำแห่งหนึ่งในดินแดนที่อยู่ภายใต้การควบคุมของกบฏแบ่งแยกดินแดนที่ฝักใฝ่รัสเซีย ทางภาคตะวันออกของยูเครนเมื่อวันศุกร์ (29 ก.ค.) ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบคน โดยเรือนจำโอเลนิฟกา ใกล้กับโดเนสตก์ ถูกใช้เป็นสถานคุมขังเชลยศึกทหารยูเครนจำนวนมากที่ยอมจำนน ณ โรงงานถลุงเหล็กอาซอฟสตัล ในเมืองมาริอูโพล เมื่อหลายเดือนก่อน
กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงในวันอาทิตย์ (31 ก.ค.) ว่าได้เชิญผู้เชี่ยวชาญของสหประชาชาติ (ยูเอ็น) และกาชาดไปตรวจพิสูจน์การเสียชีวิตของเชลยศึกเหล่านั้นเพื่อทำการสอบสวนอย่างเป็นกลาง
กระทรวงกลาโหมรัสเซียยังเผยแพร่รายชื่อเชลยศึกยูเครน 50 คนที่เสียชีวิต และบาดเจ็บอีก 73 คน จากการโจมตีทางทหารของยูเครน ด้วยระบบจรวดหลายลำกล้อง (HIMARS) ที่ได้มาจากอเมริกา
ด้านกองทัพยูเครนปฏิเสธข้อกล่าวหา และตอบโต้ว่า รัสเซียยิงจรวดใส่เรือนจำแห่งนั้นเอง เพื่อปิดบังการปฏิบัติเลวร้ายในสถานที่ดังกล่าว
(ที่มา : ซีเอ็นเอ็น/รอยเตอร์)