ศาลสูงกรุงลอนดอนปฏิเสธคำร้องของประธานาธิบดี นิโคลัส มาดูโร แห่งเวเนซุเอลา ที่ขอเบิกทองคำสำรองมูลค่ากว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐที่ฝากไว้ในอุโมงค์ใต้ดินของแบงก์ชาติอังกฤษ โดยชี้ว่าคำตัดสินของศาลสูงสุดเวเนฯ ซึ่งมีองค์คณะผู้พิพากษาเป็นพวกพ้องของมาดูโร ถือเป็นการลิดรอนอำนาจของ “ฮวน กวยโด” ผู้นำฝ่ายค้าน ซึ่งอังกฤษถือว่าเป็นผู้นำเวเนฯ ที่มีอำนาจชอบธรรมตัวจริง
คำตัดสินของศาลสูงลอนดอนวานนี้ (29 ก.ค.) ถือเป็นการหยิบยื่นชัยชนะทางกฎหมายอีกครั้งให้แก่ กวยโด ซึ่งสาบานตนเป็นประธานาธิบดีรักษาการของเวเนซุเอลามาตั้งแต่ต้นปี 2019 และได้รับการรับรองจากสหรัฐฯ และอีกหลายชาติมหาอำนาจในยุโรป
ทั้ง มาดูโร และกวยโด ต่างก็แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารธนาคารกลางแห่งเวเนซุเอลา (BCV) ของตนเองขึ้นมา และได้ออกคำสั่งที่ขัดแย้งกันเองเกี่ยวกับการเบิกจ่ายทองคำสำรองที่ฝากไว้ในต่างประเทศ
ทนายความของบอร์ด BCV ฝ่าย มาดูโร ประกาศไม่ยอมรับคำพิพากษาของศาลสูงลอนดอน และเตรียมที่จะยื่นอุทธรณ์ ในขณะที่ กวยโด ซึ่งเสียงสนับสนุนจากนานาชาติเริ่มแผ่วลงในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมา ยืนยันว่านี่คือ “ชัยชนะครั้งใหญ่”
เดลซี โรดริเกวซ รองประธานาธิบดีและรัฐมนตรีกระทรวงการคลังเวเนซุเอลา ได้ออกคำแถลงผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ ระบุว่า “ความเสียหายที่เกิดกับประชาชนชาวเวเนฯ นั้นใหญ่หลวง” และศาลอังกฤษควรที่จะแก้ไขคำพิพากษาเสียใหม่
ทีมกฎหมายของ มาดูโร ระบุว่า ประธานาธิบดีต้องการเบิกทองคำสำรอง 31 ตันออกมาจำหน่าย เพื่อนำเงินมาเป็นทุนตอบสนองโรคระบาดโควิด-19 และพัฒนาระบบสาธารณสุขของประเทศที่เผชิญพิษเศรษฐกิจเรื้อรังมานานหลายปี
ทางฝั่งของ กวยโด อ้างว่ารัฐบาล มาดูโร กำลังอยู่ในภาวะ “ถังแตก” และต้องการขายทองคำเพื่อเงินไปจ่ายให้พันธมิตรต่างชาติที่ยังคงสนับสนุนเขาอยู่
อังกฤษเป็นหนึ่งในสิบกว่าประเทศทั่วโลกที่ให้การรับรอง กวยโด เป็นผู้นำรัฐบาลเวเนฯ หลังจากที่เขาตั้งตนขึ้นเป็นประธานาธิบดีรักษาการในปี 2019 และอ้างว่าชัยชนะของ มาดูโร ในศึกเลือกตั้งปี 2018 นั้นมาจากการโกง
กวยโด เรียกร้องให้ธนาคารกลางอังกฤษ (Bank of England) ปฏิเสธความพยายามของ มาดูโร ที่จะเข้าถึงทองคำสำรองของเวเนซุเอลา ซึ่งทำให้ BCV ยื่นฟ้องศาลเพื่อเรียกสิทธิในการควบคุมทองคำกลับคืนมา และอ้างว่าสิ่งที่ BoE ทำนั้นเป็นการปิดกั้นไม่ให้ BCV เข้าถึงแหล่งทุนที่จะนำไปใช้ตอบสนองวิกฤตโควิด-19
ที่มา : รอยเตอร์