สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส เสด็จฯ เยือนแคนาดา และทรงขออภัยต่อ “ความเลวร้าย” ที่ได้เกิดขึ้นต่อบรรดาชนพื้นเมืองเมื่อหลายสิบปีที่แล้ว หลังจากมีการพบศพเด็กชนพื้นเมืองนับพันๆ ร่างถูกฝังอยู่ในที่ดินของอดีตโรงเรียนประจำที่บริหารงานโดยโบสถ์คาทอลิก
คำขออภัยจากประมุขคริสตจักรคาทอลิกเรียกเสียงปรบมือกึกก้องจากผู้แทนสมาคมชนพื้นเมือง First Nations, Metis และ Inuit ในเมืองมัสก์วาซิส รัฐแอลเบอร์ตา ซึ่งบางคนเคยถูกโรงเรียนประจำพรากไปจากครอบครัวตั้งแต่ยังเล็กๆ ซึ่งถือเป็นแนวปฏิบัติที่เข้าข่ายล้างเผ่าพันธุ์ทางวัฒนธรรม (cultural genocide)
“ข้าพเจ้ารู้สึกเสียใจ” โป๊ปในวัย 85 พรรษาตรัส “ข้าพเจ้าวิงวอนขอการอภัยในความชั่วร้ายที่ชาวคริสต์จำนวนมากได้เคยกระทำต่อชนพื้นเมือง”
พระองค์ยังอ้างถึง “การทำลายล้างทางวัฒนธรรม” และ “การล่วงละเมิดทั้งทางร่างกาย วาจา จิตใจ และจิตวิญญาณ” ที่โรงเรียนประจำเหล่านั้นได้กระทำต่อเด็กๆ ชนพื้นเมืองมาเป็นเวลาหลายสิบปี และทรงยอมรับว่า “รู้สึกเจ็บปวด และสำนึกผิด” ที่สมาชิกของโบสถ์คาทอลิกมีส่วนร่วมในการล่วงละเมิด
ประชาชนหลายร้อยคนในชุดพื้นเมือง รวมถึงนายกรัฐมนตรี จัสติน ทรูโด และแมรี ไซมอน ผู้สำเร็จราชการแคนาดาคนแรกที่เป็นชนพื้นเมือง ได้เข้าร่วมกิจกรรมรำลึกซึ่งจัดขึ้นบริเวณที่ตั้งของอดีตโรงเรียนประจำ Ermineskin residential school ที่ปิดตัวไปเมื่อปี 1975 โดยบรรดาผู้นำชนพื้นเมืองยังได้นำผ้าโพกศีรษะที่ทำจากขนนกมาสวมให้โป๊ปด้วย
ตั้งแต่ช่วงปี 1800 เศษๆ เรื่อยมาจนจนถึงทศวรรษ 1990 รัฐบาลแคนาดาได้ส่งเด็กชนพื้นเมืองประมาณ 150,000 คนไปเข้าโรงเรียนประจำ 139 แห่งที่บริหารจัดการโดยโบสถ์คาทอลิก ซึ่งเด็กๆ เหล่านั้นจะถูกตัดขาดจากครอบครัว ภาษา และวัฒนธรรมดั้งเดิมของตัวเอง
เด็กๆ เหล่านี้ยังเผชิญการล่วงละเมิดหลายอย่างขณะที่ใช้ชีวิตอยู่ในโรงเรียน ทั้งการทำร้ายร่างกาย ข่มขืน ภาวะทุพโภชนาการ และความรุนแรงอื่นๆ
ตั้งแต่เดือน พ.ค. ปี 2021 เป็นต้นมา มีการค้นพบหลุมฝังศพนิรนามมากกว่า 1,300 ร่างในบริเวณที่ตั้งของอดีตโรงเรียนประจำเหล่านี้ ซึ่งกลายเป็นข่าวดังที่สร้างความตกตะลึงไปทั่วแคนาดา และนำมาซึ่งการสอบสวนหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความเลวร้ายที่เคยเกิดขึ้นในหน้าประวัติศาสตร์ของประเทศ
ที่มา : เอเอฟพี
