รัฐบาลญี่ปุ่นประกาศกำหนดการจัดรัฐพิธีศพ (state funeral) ให้แก่อดีตนายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ ในวันที่ 27 ก.ย. ในขณะที่ชาวญี่ปุ่นบางกลุ่มเริ่มออกมาเคลื่อนไหว “คัดค้าน” ว่ารัฐไม่ควรจะนำเงินภาษีประชาชนไปใช้จัดงานศพให้แก่อดีตนายกฯ ผู้มีทั้งคนรักและคนชัง
อาเบะ เคยดำรงตำแหน่งผู้นำญี่ปุ่น 2 สมัย รวมระยะเวลายาวนานกว่า 8 ปี และยังคงเป็นนักการเมืองที่มีอิทธิพลอย่างสูงในพรรคเสรีประชาธิปไตย (แอลดีพี) เรื่อยมา แม้จะสละเก้าอี้นายกฯ ด้วยเหตุผลด้านสุขภาพเมื่อปี 2020
เขาถูกชายวัย 41 ปี ใช้ปืนประดิษฐ์จ่อยิงจากทางด้านหลัง ขณะกำลังปราศรัยหาเสียงที่จังหวัดนาระ ของญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา นับเป็นเหตุลอบสังหารบุคคลสำคัญระดับประเทศที่ทำเอาคนญี่ปุ่นช็อกไปตามๆ กัน
ครอบครัวของอาเบะ ได้จัดพิธีศพเป็นการภายในไปแล้ว แต่ล่าสุดคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้ลงมติเห็นชอบในวันนี้ (22) ว่าจะมีการจัดรัฐพิธีศพเพื่อเป็นเกียรติให้แก่ อาเบะ ในวันที่ 27 ก.ย. ณ สนามกีฬาในร่ม Nippon Budokan ใจกลางกรุงโตเกียว
“รัฐบาลได้ตัดสินใจเช่นนี้ เนื่องจากคุณ อาเบะ เป็นอดีตนายกรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ และตลอดระยะเวลาการทำงาน ท่านได้ใช้ทักษะความเป็นผู้นำที่โดดเด่นแบกรับภาระรับผิดชอบอันใหญ่หลวงในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ทั้งในประเทศ และระดับนานาชาติ” ฮิโรคาซุ มัตสึโนะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น แถลงต่อสื่อมวลชน พร้อมระบุว่า ค่าใช้จ่ายในการจัดงานทั้งหมดคาดว่าจะมาจาก “งบสำรอง” ของรัฐบาล
อย่างไรก็ดี ทันทีรัฐบาลออกมาเสนอแผนดังกล่าวก็เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ทันควัน โดยสำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า มีประชาชนราว 200 คนไปรวมตัวประท้วงที่หน้าสำนักงานของนายกฯ ญี่ปุ่นในกรุงโตเกียว ขณะที่ชาวเน็ตบางส่วนบอกว่าไม่เห็นด้วยที่รัฐจะนำเงินภาษีไปใช้ และบ้างก็ว่ารัฐบาลกำลังฉกฉวยผลประโยชน์จากการตายของ อาเบะ เพื่อที่จะสานต่อนโยบายที่เป็นมรดกทางการเมืองของเขา
เมื่อวานนี้ (21) ยังมีชาวญี่ปุ่น 50 คนไปยื่นคำร้องต่อศาลโตเกียวเพื่อขอให้ศาลสั่งห้ามนำเงินสาธารณะไปใช้จัดงานศพอาเบะ โดยพวกเขาให้เหตุผลว่า ควรจะต้องมีการปรึกษาหารือกันมากกว่านี้
ผลสำรวจความคิดเห็นโดยสถานีโทรทัศน์ NHK พบว่า มีชาวญี่ปุ่นเพียง 49% ที่สนับสนุนการจัดรัฐพิธีศพให้อาเบะ
ชาวเน็ตญี่ปุ่นยังตั้งข้อถกเถียงเรื่องรัฐพิธีศพอดีตนายกฯ จนกลายเป็นเทรนด์ฮิตในสื่อสังคมออนไลน์วันนี้ (22) โดยผู้ใช้ทวิตเตอร์คนหนึ่งตั้งคำถามว่า “คิชิดะ พูดเสมอว่าฟังเสียงประชาชน ทำไมคราวนี้ไม่ฟัง?” ขณะที่บางคนหยิบยกเรื่องนี้มาเปรียบเทียบกับมาตรการจัดการโควิด-19 ที่ล่าช้า และขอให้รัฐบาลนำเงินที่จะใช้จัดงานศพ อาเบะ ไป “ทำอะไรสักอย่าง” เพื่อให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายวันในญี่ปุ่นที่กลับมาพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ลดลงจะดีกว่า
ที่มา : รอยเตอร์