xs
xsm
sm
md
lg

อเมริกันชักเสียวไส้!! กังวล ‘คอร์รัปชันในยูเครน’ โผล่หัวขึ้นมาอีก ขณะสงครามกับรัสเซียยังยืดเยื้อ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: สำนักข่าวเอพี ***


ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ขณะเข้าร่วมการหารือกับพวกนายทหาร ระหว่างไปตรวจเยี่ยมพื้นที่ซึ่งได้รับผลกระทบจากสงครามเมื่อวันที่ 8 ก.ค.2022 (ภาพเผยแพร่โดยสำนักงานสารนิเทศ ทำเนียบประธานาธิบดียูเครน)
Ukraine graft concerns resurface as Russia war goes on
By MATTHEW LEE and NOMAAN MERCHANT, Associated Press
20/07/2022

หลังจากสงครามในยูเครนระเบิดขึ้น คณะบริหารไบเดน ก็รณรงค์จัดส่งความช่วยเหลือมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์ไปให้เคียฟ พร้อมกับเพิกเฉยละเลยประเด็นปัญหาการทุจริตคอร์รัปชันที่ฝังแน่นในยูเครนมาอย่างยาวนาน รวมทั้งพวก ส.ส. และ ส.ว.คนดังที่หนุนยูเครน ก็ต่างพากันใช้ท่าทีไม่วิพากษ์วิจารณ์เคียฟต่อหน้าสาธารณชน อย่างไรก็ตาม เมื่อเร็วๆ นี้ ส.ส.หญิงของสหรัฐฯ คนหนึ่งซึ่งเกิดในยูเครน ได้ทำลายการช่วยกันปิดปากเงียบอย่างไม่เป็นทางการเช่นนี้

ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน สั่งปลดเจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสหลายคนเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา [1] เรื่องนี้กำลังกลายเป็นแสงสว่างที่ชวนให้รู้สึกไม่สบายใจ สาดส่องใส่ประเด็นปัญหาประการหนึ่งซึ่งคณะบริหารโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ ละเลยเพิกเฉยเสียเป็นส่วนใหญ่นับตั้งแต่สงครามกับรัสเซียระเบิดขึ้นมา นั่นก็คือ ประวัติของยูเครนที่ฉาวโฉ่ในเรื่องการทุจริตคอร์รัปชันอย่างดุเดือด และการมีธรรมาภิบาลที่ง่อนแง่น

ขณะที่คณะบริหารไบเดน เร่งผลักดัน [2] ให้มีความคืบหน้าในการจัดหาจัดส่งความช่วยเหลือมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์ ทั้งในรูปความสนับสนุนทางการทหาร เศรษฐกิจ และการอุดหนุนทางการเงินโดยตรงไปให้แก่ยูเครน รวมทั้งกระตุ้นส่งเสริมพวกชาติพันธมิตรของอเมริกาให้กระทำตามด้วยนั้น มาถึงตอนนี้พวกเขากำลังเผชิญแรงกดดันให้ต้องหวนกลับมาพิจารณาอีกครั้งถึงความกังวลใจที่มีกันมานานแล้ว [3] ที่ว่ายูเครนเหมาะสมมากน้อยแค่ไหนจะเป็นผู้รับความช่วยเหลืออเมริกันซึ่งทะลักหลั่งไหลเข้าไปอย่างมหาศาลเช่นนี้

ประเด็นปัญหาเหล่านี้สามารถสาวย้อนกลับไปเป็นเวลาหลายทศวรรษ อีกทั้งไม่ได้เป็นส่วนที่ไร้ความสำคัญเลยเมื่อตอนที่รัฐสภาสหรัฐฯ ดำเนินการพิจารณาเพื่อถอดถอนอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ หนแรก [4] ทว่าได้ถูกผลักไสให้อยู่ไกลหูไกลตาเสียเป็นส่วนใหญ่ ในช่วงเวลาที่รัสเซียกำลังจะเปิดการรุกรานอยู่รอมร่อ รวมทั้งในระหว่างเดือนแรกๆ ของการสู้รบขัดแย้งคราวนี้ ขณะที่สหรัฐฯ และพวกหุ้นส่วนของตนเร่งรณรงค์ป่าวร้องให้ช่วยเหลือการป้องกันตัวของยูเครน

แต่จากการที่ เซเลนสกี สั่งปลดอัยการสูงสุด หัวหน้าหน่วยข่าวกรอง (ผู้อำนวยการของสำนักงานความมั่นคง SBU) และเจ้าหน้าที่อาวุโสคนอื่นๆ เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ความน่ากังวลเหล่านี้กลับโผล่ขึ้นมาให้เห็นกันใหม่ รวมทั้งอาจจะช่วยเพิ่มความสนใจอย่างไม่ได้เจตนาให้แก่ข้อกล่าวหาของสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ ผู้หนึ่งซึ่งกล้าเปิดปากพูดในสิ่งที่คนอื่นๆ ไม่อยากแตะต้อง ในเรื่องที่ว่ามีการทุจริตคอร์รัปชันในหมู่เจ้าหน้าที่ระดับสูงในกรุงเคียฟ

เรื่องนี้เป็นประเด็นปัญหาที่ละเอียดอ่อนสำหรับคณะบริหารไบเดน ขณะที่ความช่วยเหลือเป็นพันล้านหมื่นล้านดอลลาร์กำลังหลั่งไหลไปยังยูเครนอยู่นี้ ทำเนียบขาวยังคงออกโรงอย่างไม่หยุดหย่อนต่อไป เรียกร้องให้สาธารณชนชาวอเมริกันช่วยกันสนับสนุนรัฐบาลของเซเลนสกี ในขณะชาวอเมริกันเองให้ความใส่ใจมากขึ้นเรื่อยๆ กับพวกประเด็นปัญหาภายในประเทศ อย่างเช่น ราคาน้ำมันเบนซินแพงลิ่ว และอัตราเงินเฟ้อพุ่งทะยาน [5] ทั้งนี้ พวกคนดังๆ ที่เป็นผู้สนับสนุนยูเครนทั้งในพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกัน ต่างต้องการหลีกเลี่ยงแรงสะท้อนกลับในทางลบซึ่งอาจทำให้เป็นเรื่องลำบากมากขึ้นในการอนุมัติผ่านแพกเกจช่วยเหลือก้อนต่อๆ ไปในอนาคต

พวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ พากันรีบออกมาแถลงว่า เซเลนสกี กระทำตามสิทธิอันชอบธรรมที่เขามีอยู่ ในการแต่งตั้งใครก็ตามซึ่งเขาต้องการให้เข้าดำรงตำแหน่งระดับอาวุโส รวมไปถึงตำแหน่งอัยการสูงสุด และปลดใครก็ตามที่เขาเห็นว่ากำลังสมคบร่วมมือกับรัสเซีย

อย่างไรก็ดี กระทั่งตอนที่กองทหารรัสเซียกำลังชุมพลกันอยู่ใกล้ๆ พรมแดนยูเครนเมื่อปลายปีที่แล้ว คณะบริหารไบเดน ยังเคยเรียกร้องผลักดันเซเลนสกีให้ทำอะไรมากขึ้นในเรื่องการจัดการกับการทุจริตคอร์รัปชัน –และนี่ก็เป็นสิ่งซึ่งสหรัฐฯ เรียกร้องมานมนานแล้วโดยสามารถย้อนกลับไปถึงวันเวลาที่ยูเครนเพิ่งได้เอกราชใหม่ๆ หลังจากสหภาพโซเวียตล่มสลาย

“ในความสัมพันธ์ที่เรามีกับชาติอื่นๆ ทั้งหลายทั้งปวง รวมทั้งในความสัมพันธ์นี้ด้วย สิ่งที่เราลงทุนลงไปนั้นไม่ใช่ที่ส่วนตัวบุคคล เราลงทุนในสถาบันต่างๆ และประธานาธิบดีเซเลนสกีเองก็ได้พูดแล้ว เกี่ยวกับหลักเหตุผลของเขาที่ทำการโยกย้ายบุคลากรเหล่านี้” เน็ด ไพรซ์ (Ned Price) โฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ บอกกับพวกผู้สื่อข่าวในวันจันทร์ (18 ก.ค.)

ตัวไพรซ์เองหลีกเลี่ยงไม่ให้ความเห็นใดๆ ต่อไปอีกเกี่ยวกับการให้เหตุผลของเซเลนสกี ในการปลดเจ้าหน้าที่อาวุโส รวมทั้งไม่ขอพูดเจาะจงใดๆ แต่ย้ำว่ารัสเซียนั้นกำลังพยายามที่จะแทรกแซงเข้าไปในยูเครน เรื่องนี้ไม่มีข้อสงสัยเลย

“มอสโกเที่ยวหาทางมานานแล้วที่จะล้มล้าง ที่จะสั่นคลอนเสถียรภาพรัฐบาลยูเครน” ไพรซ์บอก “นับตั้งแต่ที่ยูเครนเลือกเส้นทางแห่งประชาธิปไตย และทิศทางที่จะเดินไปในทางตะวันตกเป็นต้นมา นี่คือสิ่งที่มอสโกเที่ยวหาทางล้มล้างมาโดยตลอด”

กระนั้นก็ตาม ในเดือนตุลาคม 2021 และอีกครั้งหนึ่งในเดือนธันวาคมปีเดียวกัน ตอนที่สหรัฐฯ และชาติอื่นๆ เตือนถึงความเป็นไปได้ที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ เรื่องรัสเซียจะรุกราน คณะบริหารไบเดน ยังคงออกมาเรียกร้องเอากับรัฐบาลเซเลนสกี ในเรื่องที่เคียฟไม่มีปฏิบัติการอะไรเกี่ยวกับเรื่องทุจริตคอร์รัปชัน ถึงแม้เรื่องนี้แทบไม่มีหรือกระทั่งไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับรัสเซียเลย

“ทั้งอียู และสหรัฐฯ รู้สึกผิดหวังเป็นอย่างยิ่งจากความล่าช้าอย่างไม่มีคำอธิบายและอย่างไม่มีเหตุผลชอบธรรม เกี่ยวกับการคัดสรรผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าของสำนักงานอัยการชำนาญการคดีปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชัน (Head of the Specialized Anti-Corruption Prosecutor Office) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งยวดในการต่อสู้ปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชันในระดับสูง” สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ในกรุงเคียฟ ระบุเอาไว้เช่นนี้เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม

“เรารบเร้าคณะกรรมการคัดเลือกให้กลับมาทำงานของตนอีกครั้งโดยไม่ชักช้า ความล้มเหลวที่จะเดินหน้ากระบวนการคัดสรรเช่นนี้ กำลังบ่อนทำลายผลงานของพวกหน่วยงานต่อสู้ทุจริตคอร์รัปชันทั้งหลาย ซึ่งก่อตั้งขึ้นมาโดยยูเครนและพวกหุ้นส่วนระหว่างประเทศของประเทศนี้” สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ บอก ทั้งนี้ ในที่สุดแล้วผู้ที่จะดำรงตำแหน่งอัยการพิเศษดังที่กล่าวถึงนี้ได้มีการคัดเลือกขึ้นมาเมื่อปลายเดือนธันวาคม ทว่ากลับยังไม่เคยได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ และถึงแม้มีข้อบ่งชี้หลายอย่างแสดงว่าจะมีคำสั่งแต่งตั้งออกมาในเร็วๆ นี้ก็ตาม แต่การปลดอัยการสูงสุดไปคราวนี้มีความเป็นไปได้ที่อาจสร้างความยุ่งยากให้แก่เรื่องนี้

ชิ้นส่วนสำหรับลูกปืนใหญ่ขนาด 155 มม. ซึ่งสหรัฐฯ จัดส่งไปให้แก่ยูเครน ถูกลำเลียงขึ้นเครื่องบินบรรทุกสินค้าแบบ C-17 ที่ฐานทัพอากาศโดเวอร์ รัฐเดลาแวร์ เมื่อวันที่ 29 เม.ย.2022
ตั้งแต่ที่รัสเซียรุกรานยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทั้งคณะบริหารไบเดนและพวกสมาชิกรัฐสภาคนดังๆ ต่างหลีกเลี่ยงไม่วิพากษ์วิจารณ์ยูเครนต่อหน้าสาธารณชน สหรัฐฯ กำลังเพิ่มการจัดส่งอาวุธและข่าวกรองให้แก่ยูเครนขึ้นมาอย่างมากมาย [6] ถึงแม้ในตอนแรกๆ มีความกังวลเกี่ยวกับการที่รัสเซียแทรกซึมวางเส้นสายอยู่ในรัฐบาลยูเครน รวมทั้งมีความวิตกเกี่ยวกับการทุจริตคอร์รัปชัน

แต่แล้วเมื่อเร็วๆ นี้ ส.ส.หญิงของสหรัฐฯ ผู้หนึ่งซึ่งเกิดในยูเครน และมีความสำคัญขึ้นมามากในตอนต้นๆ ของสงครามครั้งนี้ ได้ทำลายการช่วยกันปิดปากเงียบอย่างไม่เป็นทางการเช่นนี้

ส.ส.วิกตอเรีย สปาร์ตซ์ (Victoria Spartz) สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสมัยแรก สังกัดพรรครีพับลิกัน จากรัฐอินดีแอนา ได้เดินทางไปเยือนยูเครนมาแล้ว 5-6 เที่ยวตั้งแต่สงครามเริ่มต้นขึ้นมา เธอยังได้รับเชิญให้ไปยังทำเนียบขาวในเดือนพฤษภาคม [7] และได้รับปากกาด้ามหนึ่งซึ่งประธานาธิบดีโจ ไบเดน ใช้ในการลงนามประกาศใช้กฎหมายแพกเกจความช่วยเหลือยูเครน ถึงแม้ว่าหลังจากนั้นเธอวิพากษ์วิจารณ์ไบเดนอย่างกราดเกรี้ยวว่ายังไม่ได้ให้ความช่วยเหลือมากเพียงพอ

แต่ช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา สปาร์ตซ์ กล่าวหา เซเลนสกีว่า “กำลังเล่นการเมือง” และกล่าวหา อันดรีย์ เยียร์มัค (Andriy Yermak) ผู้ช่วยระดับท็อปของเซเลนสกี ว่า บ่อนทำลายการป้องกันของยูเครนในการต่อสู้กับรัสเซีย

เธอยังเรียกร้องครั้งแล้วครั้งเล่าให้ยูเครนประกาศชื่ออัยการชำนาญพิเศษคดีปราบปรามทุจริตคอร์รัปชัน โดยประณาม เยียร์มัค ว่าเป็นตัวการทำให้เกิดความล่าช้า

พวกเจ้าหน้าที่ยูเครนได้ตอบโต้กลับ คำแถลงฉบับหนึ่งจากกระทรวงการต่างประเทศยูเครนกล่าวหา สปาร์ตซ์ ว่ากำลังเผยแพร่ “โฆษณาชวนเชื่อของรัสเซีย” และต้องการให้เธอ “ยุติความพยายามในการหาทุนทางการเมืองอย่างเป็นพิเศษเพิ่มเติมขึ้นมา ด้วยการใช้ข่าวลือคาดเดาที่ไม่มีมูลความจริง”

สำหรับพวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ได้ให้เวลา สปาร์ตซ์ ในการบรรยายสรุปแบบปิดลับเป็นเวลา 2 ชั่วโมงเมื่อวันศุกร์ (15 ก.ค.) ด้วยความหวังว่าจะสามารถช่วยคลี่คลายความกังวลสนใจของเธอ และกระตุ้นเรียกร้องให้เธอจำกัดการออกมาวิพากษ์วิจารณ์ต่อสาธารณชน ภายหลังการบรรยายสรุปคราวนี้แล้ว เธอไม่ขอพูดถึงรายละเอียด เพียงแต่บอกกับสำนักข่าวเอพีว่า “การสนทนากันและการขบคิดพิจารณากันอย่างมีสุขภาพดี คือสิ่งที่ดีสำหรับรัฐสภา”

“เราไม่ได้มาที่นี่เพื่อเอาอกเอาใจใคร” เธอกล่าว “มันเป็นเรื่องดีที่จะต้องขบคิดพิจารณากัน”

อีกหลายชั่วโมงต่อมา สปาร์ตซ ให้สัมภาษณ์เป็นภาษายูเครน เผยแพร่ออกอากาศทางยูทูบ ซึ่งเธอเรียกร้องอีกครั้งให้มีการแต่งตั้งอัยการที่เป็นอิสระขึ้นมา

“ประเด็นปัญหานี้สมควรที่จะได้รับการแก้ไขโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้” เธอกล่าวในการให้สัมภาษณ์คราวนี้ “นี่เป็นปัญหาใหญ่มหึมาสำหรับฝ่ายตะวันตก ดังนั้นดิฉันคิดว่าประธานาธิบดีของพวกคุณสมควรแก้ไขประเด็นปัญหานี้ในเร็วๆ นี้”

ทางด้าน ส.ส.เจสัน โครว์ (Jason Crow) สังกัดพรรคเดโมแครต จากรัฐโคโลราโด ซึ่งนั่งเป็นกรรมาธิการ ทั้งในคณะกรรมาธิการการทหาร และในคณะกรรมาธิการข่าวกรองของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ให้ความเห็นว่า เขาไม่ได้เห็นหลักฐานใดๆ เลยซึ่งสนับสนุนข้อกล่าวหาที่ว่า พวกคนวงในของเซเลนสกีกำลังพยายามช่วยเหลือรัสเซีย แต่เขาก็บอกด้วยว่า ขณะที่สงครามกำลังดำเนินอยู่เช่นนี้ ส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ระยะยาวของฝ่ายอเมริกัน จะต้องรวมไปถึงการจัดการแก้ไขพวกความสิ้นเปลืองและการบริหารจัดการทรัพยากรต่างๆ ที่ไม่ถูกต้อง

“ไม่มีสงครามครั้งใดๆ ในประวัติศาสตร์ของโลกหรอกที่จะมีภูมิคุ้มกันจนปลอดจากการทุจริตคอร์รัปชัน และจากพวกคนที่พยายามฉวยใช้เอาประโยชน์จากสงคราม” โครว์ กล่าว “ถ้าหากมีเรื่องที่ควรกังวลใจเกิดขึ้นมา เราก็จะเข้าจัดการแก้ไข”

ขณะที่ อีกอร์ โนวิคอฟ (Igor Novikov) อดีตที่ปรึกษาคนหนึ่งของเซเลนสกี ซึ่งปัจจุบันตั้งฐานอยู่ในกรุงเคียฟ เรียกข้ออ้างต่างๆ จำนวนมากของ สปาร์ตซ์ ว่า เป็นการผสมผเสของ “ข่าวลือและพวกเรื่องเล่าขานต่อๆ กันมา” โดยเฉพาะอย่างยิ่งข้อกล่าวหาต่อ เยียร์มัค นั้น มีการแพร่กระจายออกมาเป็นปีๆ แล้ว ย้อนหลังไปถึงตอนที่เขามีปฏิสัมพันธ์กับพวกพันธมิตรของทรัมป์ ซึ่งเที่ยวมองหาข้อมูลข่าวสารในทางลบที่สามารถนำใช้มาเล่นงาน ฮันเตอร์ (Hunter) บุตรชายของ ไบเดน ได้

“เมื่อคำนึงว่าเรากำลังอยู่ในสถานะสงคราม เราจึงจำเป็นที่จะต้องยกประโยชน์จากการเกิดความระแวงสงสัยต่างๆ เช่นนี้ให้แก่ประธานาธิบดีเซเลนสกี และทีมงานของเขา” โนวิคอฟ บอก “จนกระทั่งเราชนะสงครามคราวนี้แล้วนั่นแหละ ไม่ยังงั้นเราก็ยังมีความจำเป็นที่จะต้องไว้วางใจประธานาธิบดีคนนี้ซึ่งยืนหยัดและต่อสู้อยู่กับประชาชน”

เชิงอรรถ
[1] https://apnews.com/article/russia-ukraine-moscow-black-sea-moldova-3c4521b4371c07c852534d03cf62ab88
[2] https://apnews.com/article/russia-ukraine-moscow-government-and-politics-4bff4beeecc6067b6f4e3aa8584de108
[3] https://apnews.com/article/europe-kiev-b126f24a720a4978af37d1aa29b2bf64
[4] https://apnews.com/article/ap-fact-check-donald-trump-ap-top-news-politics-trump-impeachment-7f739ca3fc8fa462fb9d8a3dcc82d67c
[5] https://apnews.com/article/2022-midterm-elections-inflation-race-and-ethnicity-racial-injustice-economy-8702782d77505f711272f5f9d988d73f
[6] https://apnews.com/article/russia-ukraine-putin-biden-united-states-europe-b12831d7c6990c1b76802b16845b75a2
[7] https://apnews.com/article/russia-ukraine-putin-biden-eastern-europe-congress-3bb64d255cfef354947bf10be33b99a4


กำลังโหลดความคิดเห็น