xs
xsm
sm
md
lg

อนามัยโลกจัดประชุมผู้เชี่ยวชาญรอบ 2 หลังฝีดาษลิงระบาดหนักกลุ่มชายรักชาย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเจนซีส์ - อนามัยโลกจัดประชุมคณะกรรมการโรคฝีดาษลิงอีกครั้งในวันพฤหัสบดี (21 ก.ค.) เพื่อตัดสินใจว่า การระบาดระลอกใหม่เข้าข่ายสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสุขภาพระดับโลกหรือไม่ ซึ่งจะถือเป็นการเตือนภัยระดับสูงสุด

การประชุมคณะกรรมการฉุกเฉินขององค์การอนามัยโลก (WHO) เกี่ยวกับโรคฝีดาษลิง ครั้งที่ 2 จะจัดขึ้นเพื่อตรวจสอบหลักฐานเกี่ยวกับสถานการณ์เลวร้ายที่สุดที่พบผู้ติดเชื้อที่ได้รับการรายงานเกือบ 14,000 คนในกว่า 70 ประเทศ

ทั้งนี้ มีการรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มมากขึ้นต่อเนื่องนับจากต้นเดือนพฤษภาคมนอกประเทศแอฟริกากลางและตะวันตก ซึ่งโรคนี้เป็นโรคประจำถิ่น

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน อนามัยโลกเคยประชุมคณะผู้เชี่ยวชาญฉุกเฉินไปแล้ว เพื่อตัดสินใจว่า โรคฝีดาษลิงเข้าข่ายภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ (พีเอชอีไอซี) ซึ่งเป็นการเตือนภัยระดับสูงสุดของอนามัยโลกหรือไม่

ในครั้งนั้นผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่แนะนำเทดรอส แอดฮานอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการอนามัยโลกว่า สถานการณ์ยังไม่เข้าเกณฑ์พีเอชอีไอซี แต่การประชุมรอบ 2 ในวันพฤหัสบดี จำนวนผู้ติดเชื้อยังคงเพิ่มขึ้น แค่เฉพาะสัปดาห์ที่ผ่านมาก็พบใน 6 ประเทศใหม่

ถ้าหากครั้งนี้คณะกรรมการแนะนำ เทดรอส ว่าการระบาดเข้าข่ายพีเอชอีไอซี จะมีการเสนอคำแนะนำฉุกเฉินเกี่ยวกับวิธีป้องกันและลดการระบาดที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมทั้งการจัดการการรับมือของระบบสาธารณสุขทั่วโลก แต่ยังไม่มีกำหนดเวลาที่อนามัยโลกจะเปิดเผยผลการประชุม

โรซามุนด์ ลูอิส หัวหน้าฝ่ายเทคนิคด้านโรคฝีดาษลิงของอนามัยโลก แถลงเมื่อวันพุธ (20 ก.ค.) ว่า 98% ของผู้ติดเชื้อที่ได้รับการรายงานคือกลุ่มชายรักชาย (เอ็มเอสเอ็ม) และผู้ที่มีคู่นอนหลายคน คนเหล่านี้มักเป็นหนุ่มสาวและส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในเมือง

คณะกรรมการฉุกเฉินจะพิจารณาแนวโน้มและข้อมูลล่าสุด มาตรการรับมือมีประสิทธิภาพเพียงใด และให้คำแนะนำว่าประเทศและชุมชนใดควรลงมือจัดการกับการระบาดของโรคฝีดาษลิง

เทดรอส แถลงว่า ไม่ว่าคณะกรรมการจะตัดสินใจอย่างไร อนามัยโลกจะยังคงทำทุกอย่างที่ทำได้เพื่อสนับสนุนประเทศต่างๆ ในการหยุดยั้งการระบาดและรักษาชีวิตผู้คน และเสริมว่า อนามัยโลกได้ตรวจสอบ จัดซื้อ และส่งชุดตรวจไปยังหลายประเทศ ก่อนสำทับว่า หนึ่งในเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดในการต่อสู้กับโรคฝีดาษลิงคือข้อมูล ดังนั้นอนามัยโลกจึงยังคงทำงานร่วมกับผู้ป่วยและชุมชน เพื่อแนะนำในการพัฒนาและให้ข้อมูลที่เฉพาะเจาะจงสำหรับชุมชนที่ได้รับผลกระทบ

ไมเคิล ไรอัน ผู้อำนวยการฝ่ายสถานการณ์ฉุกเฉินของอนามัยโลก เสริมว่า กลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศเป็นหนึ่งในชุมชนที่มีส่วนร่วมและมีความรับผิดชอบมากที่สุด และต่อสู้กับเอชไอวีตลอดหลายทศวรรษที่ผ่านมา ดังนั้น อนามัยโลกจึงมั่นใจเต็มเปี่ยมว่า ชุมชนนี้สามารถและจะมีส่วนร่วมต่อสู้กับโรคฝีดาษลิงอย่างใกล้ชิดต่อไป

โรคฝีดาษลิง ซึ่งเป็นการติดเชื้อไวรัสที่คล้ายโรคฝีดาษและพบในมนุษย์ครั้งแรกในปี 1970 อันตรายและแพร่ระบาดได้น้อยกว่าโรคฝีดาษซึ่งถูกกำจัดหมดสิ้นในปี 1980

ศูนย์เพื่อการป้องกันและควบคุมโรคแห่งยุโรปเผยว่า จนถึงวันจันทร์ที่ผ่านมา (18 ก.ค.) พบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิงที่ได้รับการยืนยันใน 27 ประเทศของเขตเศรษฐกิจยุโรป 7,896 คน

ประเทศที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือสเปน (2,835 คน) เยอรมนี (1,924 คน) ฝรั่งเศส (912 คน) เนเธอร์แลนด์ (656 คน) และโปรตุเกส (515 คน)

ปัจจุบัน บาวาเรียน นอร์ดิกของเดนมาร์ก ซึ่งเป็นผู้ผลิตวัคซีนโรคฝีดาษลิงที่ได้รับใบอนุญาตเพียงแห่งเดียว ประสบปัญหาวัคซีนขาดแคลน

ที่นิวยอร์ก ซึ่งเป็นศูนย์กลางการระบาดในอเมริกาด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อกว่า 460 คน จัดการฉีดหรือกำหนดการฉีดวัคซีน 21,500 โดสจนถึงวันอาทิตย์ (17 ก.ค.) โดยมีผู้ชายอายุ 20-40 ปีเข้าคิวยาวเหยียด

ลอยซ์ เพซ ผู้ช่วยรัฐมนตรีกิจการสาธารณะทั่วโลกของอเมริกา กล่าวว่า เป็นเรื่องยากมากที่โลกจะจัดการโรคฝีดาษลิงเพิ่มเติมจากที่ต้องจัดการโควิด-19 และวิกฤตสุขภาพอื่นๆ

อย่างไรก็ตาม เพซทิ้งท้ายว่า ขณะนี้มีข้อมูลเกี่ยวกับโรคนี้มากขึ้น ทำให้สามารถหยุดยั้งการระบาดก่อนหน้านี้ อีกทั้งยังมีมาตรการรับมือและเครื่องมืออื่นๆ
กำลังโหลดความคิดเห็น