อังกฤษเผชิญอุณหภูมิร้อนจัดเป็นประวัติการณ์ โดยทะลุขีด 40 องศาเซลเซียสเมื่อวันอังคาร (19 ก.ค.) ขณะที่พื้นผิวรันเวย์สนามบินแห่งหนึ่งร้อนจัดจนละลาย สำหรับฝรั่งเศสต้องสู้รบควบคุมไฟป่าขนาดมหึมาทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ ขณะที่คลื่นความร้อนกำลังแผ่จากยุโรปใต้เข้าสู่ยุโรปตะวันตก
ภาคใต้และภาคตะวันตกของเยอรมนี และเบลเยียม ก็เจอกับอุณหภูมิขึ้นสูงเป็นสถิติใหม่เช่นกัน โดยที่คลื่นความร้อนซึ่งพวกนักวิทยาศาสตร์ระบุว่า มีสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากความเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศของโลก แผ่กระจายสู่ทางเหนือและตะวันออก
ที่อังกฤษ หลังจากผ่านพ้นช่วงคืนวันจันทร์ที่ถือว่าเป็นคืนซึ่งอุณหภูมิสูงสุดเท่าที่ประเทศเกาะแห่งนี้เคยบันทึกเอาไว้แล้ว สำนักงานอุตุนิยมวิทยาแจ้งว่า เวลาเลยเที่ยงวันของวันอังคาร ที่ท่าอากาศยานฮีธโรว์ ทางด้านตะวันตกของกรุงลอนดอน สามารถวัดอุณหภูมิได้ 40.2 องศาเซลเซียส ทั้งนี้ ยังถือเป็นสถิติชั่วคราวโดยต้องรอการยืนยันเพิ่มเติมเพื่อรับรองให้เป็นสถิติร้อนที่สุดใหม่ของอังกฤษอย่างเป็นทางการ
อุณหภูมิร้อนที่สุดเป็นประวัตการณ์ของอังกฤษก่อนหน้านี้คือ 38.7 องศาเซลเซียส ซึ่งวัดได้ที่เมืองเคมบริดจ์ ทางด้านตะวันออกของแคว้นอิงแลนด์ในปี 2019 แต่อันที่จริงสถิตินี้ได้ถูกทำลายไปเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ช่วงก่อนเที่ยงของวันอังคาร
ดร.นิคอส คริสติดิส นักวิจัยของสำนักงานอุตุนิยมวิทยาอังกฤษชี้ว่า การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศที่เกิดขึ้นมาแล้วในปัจจุบัน ทำให้มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นถึง 10 เท่าตัวที่อุณหภูมิในอังกฤษจะอยู่ที่ระดับ 40 องศานานหลายวัน เมื่อเทียบกับสภาพภูมิอากาศที่ไม่ได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของมนุษย์
จากการที่อุณหภูมิสูงขึ้นมาเช่นนี้ บริษัทรถไฟในอังกฤษระงับการให้บริการแล้ว และโรงเรียนบางแห่งปิด เจ้าหน้าที่เรียกร้องให้ประชาชนอยู่บ้าน และรัฐบาลออกประกาศเตือน “ภาวะฉุกเฉินแห่งชาติ”
นอกจากนั้น ความร้อนยังทำให้พื้นผิวรันเวย์ในฐานทัพอากาศไบรซ์ นอร์ตัน ในเมืองลูตันของอังกฤษถึงกับละลาย และมีรายงานว่า ยอดขายพัดลม เครื่องปรับอากาศ และสปริงเกอร์เพิ่มขึ้นอย่างมาก
สำหรับที่ฝรั่งเศส ไฟป่าในเขตจิรองด์ทางตะวันตกเฉียงใต้ ได้เผาผลาญพื้นที่รวมอาณาเขต 14,800 เฮกตาร์ (37,000 เอเคอร์) ประชาชนกว่า 14,000 คนต้องอพยพออกจากพื้นที่ดังกล่าว และฝรั่งเศสออกประกาศเตือนสีแดงซึ่งเป็นระดับสูงสุดในหลายเขต และเรียกร้องให้ประชาชน “ระมัดระวังอย่างยิ่ง”
ด้านอิตาลี เกิดไฟป่าขนาดเล็ก และมีการคาดการณ์ว่า อุณหภูมิจะทะลุ 40 องศาเซลเซียสในหลายเขตในอีกไม่กี่วันนี้
สวิตเซอร์แลนด์เผชิญผลกระทบจากคลื่นร้อนเช่นเดียวกัน โดย แอ็กซ์โป ผู้ให้บริการโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ เบซโน เผยเมื่อวันจันทร์ว่า ต้องลดกำลังผลิตเพื่อไม่ให้น้ำในแม่น้ำแอรีที่โรงงานสูบน้ำขึ้นมาใช้หล่อเย็นต้องร้อนเกินไป
สำหรับที่สเปน มีรายงานก่อนหน้านี้ว่า ไฟป่าเผาผลาญทุ่งและรถขุดใกล้เมืองทาบารา ทางภาคเหนือ ทำให้คนขับต้องกระโดดลงจากรถหนีตายในสภาพเสื้อผ้าด้านหลังติดไฟ
ส่วนที่โปรตุเกส ครึ่งหนึ่งของเทศบาลเมืองเมอร์กา ถูกเผาวอดวาย และพบร่างสามีภรรยาสูงวัยพยายามหนีอยู่ในซากรถที่ไหม้เกรียมทั้งคัน
อย่างไรก็ตาม มีสัญญาณบางอย่างบ่งชี้ว่า สถานการณ์ทางภาคใต้ของยุโรปอย่างสเปนและโปรตุเกส เริ่มผ่อนคลาย และคลื่นร้อนกำลังเคลื่อนตัวไปทางด้านเหนือของยุโรป หลังจากทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคนและพื้นที่ชนบทแห้งแล้งอันตราย ทั้งนี้ สเปนระบุว่า คลื่นความร้อนที่เล่นงานประเทศนี้มากว่าสัปดาห์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปกว่า 510 คน
สำหรับโปรตุเกส อุณหภูมิเริ่มลดลงในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่สถาบันอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า ความเสี่ยงไฟป่ายังสูงมาก
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงราว 1,000 คน ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรถ 284 คัน และเครื่องบิน 18 ลำ ต่อสู้กับไฟป่า 10 จุด ส่วนใหญ่อยู่ทางด้านเหนือของประเทศ
สหภาพยุโรป (อียู) ส่งเครื่องบินดับเพลิงไปช่วยสโลวีเนียในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากก่อนหน้านี้เพิ่งส่งไปช่วยฝรั่งเศสและโปรตุเกส
บาลาซ ยูวารี โฆษกสำนักงานจัดการวิกฤตของอียู แถลงว่า บรัสเซลส์ยังคงติดตามสถานการณ์ในช่วงที่เกิดคลื่นร้อนแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนนี้ และจะยังคงให้การสนับสนุนที่จำเป็นต่อไป นอกจากนั้น อียูยังอยู่ระหว่างการหารือกับผู้ผลิตเพื่อจัดซื้อเครื่องบินดับเพลิงเพิ่ม
(ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี)