นักธุรกิจทรงอิทธิพลของรัสเซียขึ้นศาลขอให้อียูยกเลิกการแซงก์ชันตนเอง บางคนฟ้องเรียกค่าเสียหายเชิงสัญลักษณ์ ขณะที่นักกฎหมายของอียูยอมรับว่า บางคำร้องที่มหาเศรษฐีเหล่านี้ยื่นอาจมีความชอบธรรม และมาตรการลงโทษเล่นงานของบรัสเซลส์อิงกับหลักฐานที่อ่อน ล้าสมัย และผิดพลาดอย่างชัดเจน
หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัล รายงานเมื่อวันอาทิตย์ (17 ก.ค.) ว่า โรมัน อับราโมวิช เศรษฐีพันล้าน อดีตเจ้าของสโมสรฟุตบอลเชลซี พร้อมนักธุรกิจระดับท็อปอีกหลายคนของรัสเซียที่ตกเป็นเป้าหมายการแซงก์ชันของสหภาพยุโรป (อียู) กำลังท้าทายมาตรการลงโทษเหล่านี้ในศาลยุโรป โดยนักธุรกิจเหล่านี้ที่ตะวันตกเรียกว่า “ออลิการ์ค” กล่าวหาว่า สิทธิอันชอบธรรมของพวกเขาถูกล่วงละเมิดโดยการแซงก์ชันดังกล่าว
อับราโมวิช อดีตเจ้าของสโมสรฟุตบอลเชลซีในอังกฤษ อลิสเชอร์ อุสมานอฟ ผู้ประกอบการโลหะและเหมืองแร่ ตลอดจนถึงมิคาอิล ฟริดแมน และพีทร์ อาเวน นายใหญ่อัลฟา แบงก์ หนึ่งในธนาคารใหญ่ที่สุดของรัสเซีย ต่างแยกกันฟ้องร้องต่อศาลกลางของอียู เพื่อขอให้ยกเลิกมาตรการแซงก์ชันที่ละเมิดสิทธิของตน และยังโต้แย้งเรื่องที่ถูกกล่าวหาว่า มีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับเครมลิน
ตัวอย่างเช่น อับราโมวิช ที่อ้างสิทธิการเป็นพลเมืองโปรตุเกสในการฟ้องร้อง โดยอ้างว่า มาตรการแซงก์ชันของบรัสเซลส์ละเมิดสิทธิพื้นฐานที่ได้รับการคุ้มครองจากอียู
ออลิการ์คบางคนยังเรียกร้องค่าเสียหายจากอียู อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนเป็นการดำเนินการเชิงสัญลักษณ์เท่านั้น เช่น อับราโมวิช เรียกร้องให้คณะมนตรียุโรปจ่ายเงินแค่ 1 ล้านดอลลาร์ให้มูลนิธิการกุศลแห่งหนึ่งที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อนำรายได้จากการขายสโมสรเชลซีไปดำเนินการด้านการกุศล
อุสมานอฟ และน้องสาว กัลบาคอร์ อิสมาอิโลวา ที่ถูกกล่าวหาว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับความขัดแย้งในยูเครน เรียกร้องให้อียูจ่ายค่าเสียหาย 20,000 ดอลลาร์ โดยในเอกสารฟ้องร้อง อุสมานอฟอ้างว่า ข้อจำกัดจากการแซงก์ชันของอียูทำให้ข้อตกลงธุรกิจมากมายของตนล้มเหลว และบริษัทอย่างน้อย 3 แห่งใกล้ล้มละลาย อีกทั้งยังส่งผลกระทบต่อพนักงานและครอบครัว
อย่างไรก็ดี มีรายงานว่าการฟ้องร้องนี้ถูกศาลเพิกถอนไปเมื่อเดือนที่แล้ว
ต้นสัปดาห์นี้ บลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า อียูกำลังพิจารณายกเลิกข้อจำกัดที่พุ่งเป้าที่พลเมืองรัสเซียบางคน รายงานระบุว่า มีชาวรัสเซียราว 40 คนกำลังพยายามเพื่อให้ถอดถอนชื่อของตนออกจากรายชื่อผู้ที่ถูกแซงก์ชัน โดย 30 คนในจำนวนนี้เลือกพึ่งศาล และอีก 10 คนร้องเรียนกับอียูโดยตรง
นักกฎหมายของอียูยอมรับว่า บางคำร้องที่ชาวรัสเซียยื่นอาจมีความชอบธรรม และข้อจำกัดที่ใช้เลนงานคนเหล่านั้นอิงกับหลักฐานที่อ่อน ล้าสมัย และผิดพลาดอย่างชัดเจน
ทั้งนี้ ช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา อียูพุ่งเป้าแซงก์ชันบุคคลสำคัญของรัสเซียนับร้อย ซึ่งรวมถึงเจ้าหน้าที่ระดับสูง ผู้นำธุรกิจและสมาชิกครอบครัว โดยอ้างอิงข้อกล่าวหาว่าบุคคลเหล่านั้นมีบทบาทเกี่ยวข้องในสงครามยูเครน และมาตรการจำกัดดังกล่าวนี้มักรวมถึงการอายัดทรัพย์สิน และแบนการเดินทาง
(ที่มา : วอลล์สตรีทเจอร์นัล, อาร์ที)