เอเจนซีส์ - กลายเป็นข่าวดังไปทั่วอเมริกาที่คำพิพากษาการกลับคดี โร วี.เวด (Roe v.Wade) ของศาลสูงสุดสหรัฐฯ ส่งผลทำให้เด็กหญิงวัย 10 ปี จากรัฐโอไฮโอต้องเดินทางข้ามรัฐไปคลินิกในรัฐอินเดียนาเพื่อทำแท้งหลังถูกชายวัย 27 ปี ข่มขืน หมอสูตินรีเวช เคทลิน เบอร์นาร์ด ที่ช่วยยุติการตั้งครรภ์ระดมทุนเกือบ 180,000 ดอลลาร์ค่ำวานนี้ (16 ก.ค.) เพื่อสู้คดีความกฎหมายในยุคอเมริกาไร้เสรีภาพสำหรับสตรี แม้แต่เหยื่อข่มขืนหรือถูกล่วงละเมิดทางเพศโดยพ่อแท้ๆ ยังห้ามทำแท้ง
หนังสือพิมพ์ยูเอสเอทูเดย์ของสหรัฐฯ รายงานวานนี้ (16 ก.ค.) ว่า แพทย์ทั่วสหรัฐฯ ช่วยเหลือระดมทุนได้กว่า 180,000 ดอลลาร์สำหรับแพทย์สูตินรีเวชมหาวิทยาลัยอินเดียนารายหนึ่ง เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสู้คดีทางกฎหมาย หลังตกเป็นข่าวดังไปทั่วอเมริกาที่ช่วยเหลือเหยื่อข่มขืนวัย 10 ปี ต้องเดินทางข้ามจากรัฐโอไฮโอเพื่อขอช่วยให้ยุติตั้งครรภ์หลังรัฐของตัวเองออกกฎห้ามยุติตั้งครรภ์หลังอายุครรภ์เกิน 6 สัปดาห์ไปแล้วไม่สนว่าจะถูกข่มขืน หรือโดนล่วงละเมิดจากคนในครอบครัวหรือไม่
มหากาพย์เริ่มเมื่อต้นเดือนนี้ เมื่อแพทย์หญิง เคทลิน เบอร์นาร์ด (Dr.Caitlin Bernard) เปิดเผยกับสื่ออินเดียนาโปลิส สตาร์ ว่าเธอได้ให้การช่วยเหลือคนไข้เด็กผู้หญิงวัย 10 ปี ที่เดินทางข้ามรัฐจากรัฐโอไฮโอเมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา หลังศาลสูงสหรัฐฯ กลับคำตัดสินคดีโร วี.เวด (Roe v.Wade) ปี 1973 ไม่ให้การยุติการตั้งครรภ์เป็นสิทธิตามกฎหมายรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ อีกต่อไป และส่งผลทำให้กฎหมายรัฐโอไฮโอห้ามการยุติการตั้งครรภ์เริ่มทำงาน
หนังสือพิมพ์โคลัมบัส ดิสแพทช์ (Columbus Dispatch) รายงานเมื่อวันพุธ (13) ที่ผ่านมาว่า เกอร์สัน ฟูเอ็นเตส (Gerson Fuentes) วัย 27 ปี คนลงมือข่มขืนหนูน้อยถูกจับกุมได้วันอังคาร (12) หลังยอมรับสารภาพข่มขืนเด็กไม่ต่ำกว่า 2 ครั้ง
ตำรวจเมืองโคลัมบัส (Columbus) รัฐโอไฮโอรู้ถึงการตั้งครรภ์ของเหยื่อหลังรับเรื่องจากแผนกบริการเด็กแฟรงกลิน เคาน์ตี (Franklin County Children Services) ที่แจ้งโดยแม่ของเหยื่อวัย 10 ปี เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.
โคลัมบัส ดิสแพทช์ ชี้ว่า ดีเอ็นเอจากคลินิกรัฐอินเดียนาที่ช่วยยุติตั้งครรภ์ให้หนูน้อยถูกตรวจเทียบหาเพื่อชี้ตัวฟูเอ็นเตส
ข่าวเด็กหญิง 10 ขวบเดินทางข้ามรัฐเพื่อทำแท้งกลายเป็นที่สะเทือนใจไปทั่วสหรัฐฯ ที่ในเวลานี้ในอเมริกาเสรีภาพสตรีถูกคุกคามขั้นร้ายแรงไม่ต่างจากสมัยยุคกลางของยุโรป การเมืองฝ่ายขวาพรรครีพับลิกัน และฝ่ายพรรคเดโมแครตต่างออกมาสาดโคลนใส่กันโดยฝ่ายพรรครีพับลิกันชี้ว่า ทำแท้งเท่ากับการฆ่าเด็ก
สื่อนิวส์ 1 ของสหรัฐฯ รายงานวันเสาร์ (16) ว่า รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ กมลา แฮร์ริส แวะที่เมืองออร์ลานโด (Orlando) รัฐฟอลริดาที่เคยมีเหตุกราดยิงในไนต์คลับเกย์ปี 2016 จากผู้สวามิภักดิ์ก่อการร้าย ISIS สังหารไป 49 คน ออกมาเรียกร้องสิทธิการยุติการตั้งครรภ์ หลังก่อนหน้ารัฐฟลอริดาเพิ่งอนุมัติกฎหมายห้ามยุติการตั้งครรภ์หลังตั้งครรภ์นานกว่า 15 สัปดาห์ ไม่ยกเว้นว่าจะถูกข่มขืนหรือโดนคนในครอบครัวล่วงละเมิดทางเพศหรือไม่
ยูเอสเอทูเดย์รายงานว่า ในวันศุกร์ (15) บรรดาผู้สนับสนุนต่างเริ่มรณรงค์การระดมทุนช่วยเหลือทางคดีและด้านความปลอดภัยให้แพทย์หญิงเบอร์นาร์ด ที่คาดว่าอาจจะเกิดขึ้นหลังถูกสาธารณะตรวจสอบ
โดยกลุ่มแพทย์สูตินรีอเมริกันทั่วสหรัฐฯ เปิดเพจโกฟันมี (GoFundMe) และได้รับบริจาคเกือบ 180,000 ดอลลาร์จากผู้บริจาค 2,400 คนในค่ำวันเสาร์ (16)
นอกเหนือจากนี้พบว่า องค์กร Planned Parenthood จากหลายรัฐประกาศจะสนับสนุนเธอทั้งด้านคดีความ และความปลอดภัยหลังพบลูกสาววัย 10 ขวบ ของเบอร์นาร์ด ถูกคุกคาม
ค่ำวันศุกร์ (15) เบอร์นาร์ดได้ทวีตแสดงความขอบคุณต่อการแสดงความขอบคุณอย่างกล้าหาญที่หลั่งไหลมาให้เธอ “มันเป็นสัปดาห์ที่ยากลำบาก แต่ทั้งเพื่อนร่วมงานและดิฉันจะยังคงให้บริการทางการแพทย์อย่างถือความเป็นธรรม ห่วงใย และกล้าหาญในทุกวัน”
และเธอกล่าวต่อว่า “ขอขอบคุณต่อนักข่าวที่ทำงานอย่างไม่เหน็ดเหนื่อยและขยันขันแข็งเพื่อบอกกล่าวเรื่องนี้ต่อสาธารณะเกี่ยวกับเรื่องสำคัญนี้และความจริง”
เบอร์นาร์ด กล่าวต่อว่า “ดิฉันหวังว่าจะสามารถแชร์เรื่องราวของตัวเองได้ในเร็ววันนี้”
ยูเอสเอทูเดย์รายงานว่า อย่างไรก็ตามอัยการประจำรัฐอินเดียนา ท็อดด์ โรกิตา (Todd Rokita) ออกมาแสดงการข่มขู่โดยชี้ว่า เบอร์นาร์ด อาจละเมิดกฎหมายรัฐอินเดียหรือไม่ที่ไม่ได้แจ้งการยุติการตั้งครรภ์และเด็กถูกล่วงละเมิดทางเพศต่อรัฐ แต่ทว่าสื่อ อินดี้สตาร์ (IndyStar) เปิดเผยว่า พบเอกสารที่บ่งชี้ว่า แพทย์หญิงเคทลิน เบอร์นาร์ด รายงานการยุติการตั้งครรภ์และเด็กถูกละเมิดในเวลาที่กำหนด