กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีเหนือออกมาแถลงตอบโต้วานนี้ (15 ก.ค.) หลังถูกรัฐบาลยูเครนตัดสัมพันธ์การทูตสืบเนื่องจากการที่เปียงยางรับรองเอกราชให้ 2 แคว้นกบฏ โดยระบุว่าเคียฟไม่มีสิทธิอ้างเรื่อง “อธิปไตย” ในขณะที่ตัวเองยังคงช่วยสหรัฐฯ ละเมิดอธิปไตยของเกาหลีเหนืออย่าง “ไม่ชอบธรรมและผิดกฎหมาย”
คำแถลงดังกล่าวถูกเผยแพร่ หลังจากเกาหลีเหนือเป็นประเทศที่ 3 ของโลกถัดจากรัสเซีย และซีเรียที่ให้การรับรองสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์ และสาธารณรัฐประชาชนลูฮันก์ในภาคตะวันออกของยูเครนว่าเป็น “รัฐอิสระ”
รัฐบาลยูเครนประกาศตัดสัมพันธ์การทูตกับเกาหลีเหนือทันที พร้อมกล่าวหาเปียงยางว่ากำลังละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของยูเครน
อย่างไรก็ดี กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีเหนือได้ออกมาปกป้องการตัดสินใจครั้งนี้ โดยระบุว่า ยูเครนเองก็สนับสนุนสหรัฐฯ ในการคว่ำบาตรโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธของเกาหลีเหนือมาโดยตลอด
รัฐบาลโสมแดงอ้างว่ากิจกรรมนิวเคลียร์และการพัฒนาขีปนาวุธมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันตนเอง และกล่าวหาสหรัฐฯ ว่าใช้ “นโยบายก้าวร้าว” ระดมชาติพันธมิตรให้รุมคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ อีกทั้งยังเปิดซ้อมรบกับเกาหลีใต้เพื่อข่มขวัญเปียงยางอยู่เนืองๆ
“ยูเครนไม่มีสิทธิอ้างหรือคัดค้านการใช้อำนาจอธิปไตยอย่างถูกกฎหมายของเรา หลังจากที่พวกเขาเองก็ไม่ยุติธรรมต่อชาติอื่น ด้วยการร่วมมือกับสหรัฐฯ ใช้นโยบายที่ก้าวร้าวและไม่เป็นธรรมในอดีต” กระทรวงต่างประเทศโสมแดง ระบุ
“เราพร้อมจะยกระดับมิตรภาพและความร่วมมือกับทุกๆ ประเทศที่เคารพอธิปไตยของเรา และปฏิบัติต่อเราด้วยดีบนพื้นฐานของอธิปไตยที่เท่าเทียม การไม่แทรกแซงกิจการภายใน และเคารพซึ่งกันและกัน”
ที่มา : รอยเตอร์