ประธานาธิบดีโกตาพญา ราชปักษา แห่งศรีลังกา ยื่นหนังสือลาออกแล้วในวันพฤหัสบดี (14 ก.ค.) จากการเปิดเผยของโฆษกประธานรัฐสภา ไม่กี่ชั่วโมงหลังเขาหลบหนีไปยังสิงคโปร์ ท่ามกลางการประท้วงใหญ่ ประชาชนระบายความคับแค้นใจหลังเศรษฐกิจของประเทศล่มสลาย
คำแถลงลาออกโหมกระพือความยินดีปรีดาในย่านกลางกรุงโคลัมโบ จุดที่ประชาชนขัดขืนคำสั่งเคอร์ฟิว ออกมารวมตัวกันบริเวณด้านนอกทำเนียบประธานาธิบดี โดยในพื้นที่ชุมนุมพบเห็นฝูงชนจุดพลุไฟ ตะโกนคำขวัญต่างๆ และร้องเพลงเต้นรำอย่างสนุกสนาน
โฆษกประธานรัฐสภาเปิดเผยว่า ราชปักษา ยื่นใบลาออกผ่านทางอีเมลในช่วงค่ำวันพฤหัสบดี (14 ก.ค.) และมันจะมีผลอย่างเป็นทางการในวันศุกร์ (15 ก.ค.) เมื่อเอกสารผ่านการตรวจสอบทางกฎหมายแล้ว
ราชปักษา หลบหนีไปยังมัลดิฟส์เมื่อวันพุธ (13 ก.ค.) จากนั้นมุ่งหน้าต่อไปยังสิงคโปร์ในวันพฤหัสบดี (14 ก.ค.) ด้วยเครื่องบินของสายการบินซาอุดี อาราเบียน แอร์ไลน์
รัฐบาลมัลดิฟส์ยืนยันในช่วงเย็นวันพฤหัสบดี (14 ก.ค.) ว่าประเทศอนุมัติ diplomatic clearance (การขออนุญาตเข้าอาณาเขตโดยเหตุผลทางการทูต) แก่เครื่องบินกองทัพอากาศศรีลังกาลำหนึ่ง ที่บรรทุกประธานาธิบดีโกตาพญา ราชปักษา และภรรยา ในการเดินทางเข้าประเทศเพื่อรอต่อเครื่อง
ผู้โดยสารคนหนึ่งบนเที่ยวบินซาอุดี อาราเบียน แอร์ไลน์ ซึ่งไม่ประสงค์เอ่ยนาม เปิดเผยกับรอยเตอร์ว่า พบเห็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยกลุ่มหนึ่งมารอรับ ราชปักษา และเห็นเขาเดินทางออกจากพื้นที่วีไอพีของสนามบินด้วยขบวนรถสีดำ
กระทรวงการต่างประเทศสิงคโปร์บอกว่าราชปักษา เดินทางเข้าประเทศเป็นการส่วนตัวและยังไม่ได้ยื่นขอลี้ภัย
การตัดสินใจของ ราชปักษา ในวันพุธ (14 ก.ค.) เพื่อให้นายกรัฐมนตรีรานิล วิกรมสิงเห พันธมิตรของเขาเป็นผู้รักษาการตำแหน่งประธานาธิบดีแทน ได้กระตุ้นให้ประชาชนไม่พอใจและออกมาประท้วงมากขึ้น โดยฝูงชนกรูเข้าสู่อาคารรัฐสภาและสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อเรียกร้องให้วิกรมสิงเห ลาออกอีกคน
ตอนเช้าวันพฤหัสบดี (15 ก.ค.) ยังมีชาวศรีลังกาเข้าไปเตร็ดเตร่ชมทำเนียบที่พักประธานาธิบดี ซึ่งฝูงชนกรูเข้าไปยึดไว้ตั้งแต่สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่สถานที่ซึ่งใช้เป็นจุดประท้วงต่างๆ อยู่ในความเงียบสงบ และพอถึงตอนค่ำ พวกผู้จัดการประท้วงได้ส่งมอบทำเนียบที่พำนักของประธานาธิบดีและของนายกรัฐมนตรีคืนให้แก่ทางการ โดยพวกแกนนำได้นำผู้ประท้วงออกไปจากสถานที่เหล่านี้
กระนั้นยังมีแกนนำคนอื่นๆ เช่น คาลัม อมราตังกะ เชื่อว่า รัฐบาลอาจลงมือปราบปรามผู้ประท้วงเร็วๆ นี้ หลังจากวิกรมสิงเห เรียกผู้ประท้วงบางคนว่า “ฟาสซิสต์” ระหว่างการปราศรัยเมื่อค่ำวันพุธ (13 ก.ค.)
รัฐฐบาลประกาศเคอร์ฟิวในกรุงโคลัมโบตั้งแต่เที่ยงวันพฤหัสบดี (14 ก.ค.) จนถึงเช้าวันศุกร์ (15 ก.ค.) ด้วยเหตุผลว่าเพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์วุ่นวายลุกลาม โดยสื่อท้องถิ่นเผยภาพยานยนต์หุ้มเกราะพร้อมทหารลาดตระเวนตามถนนสายต่างๆ ในเมืองหลวง
ขณะเดียวกัน ตำรวจเผยว่า มีผู้ประท้วงเสียชีวิต 1 คน เป็นชายวัย 26 ปี และบาดเจ็บ 84 คนจากการปะทะกันระหว่างผู้ประท้วงกับตำรวจปราบจลาจลเมื่อวันพุธใกล้อาคารรัฐสภา และสำนักนายกรัฐมนตรี
ทางด้านกองทัพแถลงว่า ทหาร 2 นายบาดเจ็บสาหัสจากการโจมตีของผู้ประท้วงใกล้อาคารรัฐสภาเมื่อค่ำวันพุธ และอาวุธและซองกระสุนปืนยังถูกชิงไปด้วย
การประท้วงต่อต้านวิกฤตเศรษฐกิจคุกรุ่นมานานหลายเดือน และปะทุจุดเดือดเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา เมื่อประชาชนหลายหมื่นคนบุกยึดอาคารราชการต่างๆ ในกรุงโคลัมโบ กล่าวโทษตระกูลราชปักษา และคนใกล้ชิด สำหรับเงินเฟ้อที่พุ่งทะยาน ขาดแคลนสินค้าพื้นฐานและคอร์รัปชัน
ศรีลังกาได้เริ่มพูดคุยในเบื้องต้นไปแล้วกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการกู้ยืมเงิน แต่การพูดคุยดังกล่าวต้องสะดุดลง สืบเนื่องจากความยุ่งเหยิงในรัฐบาลล่าสุด
โฆษกของไอเอ็มเอฟระบุในวันพฤหัสบดี (14 ก.ค.) ว่าเจ้าหน้าที่ของกองทุนยังคงติดต่อกับเจ้าหน้าที่ระดับเทคนิคของทางรัฐบาล และได้แต่หวังว่าจะหวนคืนสู่การเจรจาระดับสูงอย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
(ที่มา : รอยเตอร์)