เอเจนซีส์ - ศูนย์ต่อต้านก่อการร้ายแห่งชาติสหรัฐฯ (National Counterterrorism Center) ออกรายงานประเมิน 2 วันก่อนทำเนียบขาวแถลงการเยือนตะวันออกกลางของประธานาธิบดีไบเดน ว่า อิหร่านอาจพยายามมีเป้าหมายจ้องลอบสังหารอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ไมค์ พอมเพโอ อดีตผู้บัญชาการกองบัญชาการกลางสหรัฐฯ CENTCOM พล.อ.เคนเนธ แม็คเคนซี เพื่อแก้แค้นที่สหรัฐฯ เคยใช้โดรนลอบสังหารอดีตผู้บัญชาการกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิหร่านหน่วยคุดส์ พล.ต.กัสเซ็ม โซเลมานี เมื่อมกราคมปี 2020
เดลีเมล สื่ออังกฤษ รายงานวันนี้ (14 ก.ค.) ว่า รายงานการประเมินศูนย์ต่อต้านก่อการร้ายแห่งชาติสหรัฐฯ NCTC (National Counterterrorism Center) ที่ลงวันที่ 16 มิ.ย. หรือ 2 วันก่อนทำเนียบขาวแถลงการเยือนตะวันออกกลางของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ที่กำลังเกิดขึ้นในเวลานี้ระบุชัดเจนว่า อิหร่านอาจมีความพยายามสังหารบุคคลสำคัญของสหรัฐฯ เพื่อแก้แค้นที่วอชิงตันเคยใช้โดรนลอบสังหารอดีตผู้บัญชาการกองพิทักษ์ปฏิวัติอิสลามหน่วยคุดส์ พล.ต.กัสเซ็ม โซเลมานี (Maj.Gen.Qassem Soleimani)
ยาฮูนิวส์ซึ่งเป็นผู้ออกรายงานพิเศษนี้ระบุว่า ในเวลานี้ผู้นำสหรัฐฯ คนปัจจุบันกำลังอยู่ในตะวันออกกลางโดยเริ่มการเยือนอิสราเอลมาตั้งแต่วันพุธ (13) และรัฐบาลสหรัฐฯ เชื่อว่าภัยคุกคามการโจมตียังคงอยู่ในระดับสูง
รายงานฉบับเดือนมิถุนายนกล่าวว่า “รัฐบาลอิหร่านกำลังทำแคมเปญหลายด้านพร้อมกันที่รวมไปถึงปฏิบัติการเอาชีวิต การเคลื่อนไหวทางกฎหมายระหว่างประเทศ การออกหมายจับจากอิหร่าน รวมไปถึงการคว่ำบาตรต่อเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ในกลุ่มเป้าหมายเพื่อการแก้แค้นต่อการเสียชีวิตของอดีตผู้บัญชาการกองพิทักษ์ปฏิวัติอิสลามหน่วยคุดส์ (IRGC-QF) พล.ต.กัสเซ็ม โซไลมานี ในเดือนมกราคมปี 2020 ส่งผลภัยคุกคามทั้งภายในประเทศและต่างแดนต่อกลุ่มคนที่อิหร่านมองว่ามีความรับผิดชอบต่อการสังหาร”
ทั้งนี้ IRGC เป็นส่วนหนึ่งของกองทัพอิหร่าน อัลญะซีเราะฮ์รายงานว่า ไบเดนให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์อิสราเอลช่อง 12 ที่ทำการสัมภาษณ์ที่กรุงวอชิงตันก่อนหน้า แต่นำมาออกอากาศในวันอังคาร (12) ยืนยันว่า เขาต้องการให้กองพิทักษ์ปฏิวัติอิสลาม IRGC ยังคงอยู่ในบัญชีองค์กรก่อการร้ายของสหรัฐฯ ต่อไปถึงแม้ว่าจะทำให้ข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านต้องล้ม
รายงานลับศูนย์ต่อต้านก่อการร้าย NCTC ล่าสุดนี้โดนประทับตราห้ามเปิดเผยต่อสาธารณะแต่ได้รับอนุญาตให้แจกจ่ายเฉพาะภายในรัฐบาลสหรัฐฯ และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายทั่วประเทศ
การประเมินตั้งอยู่บนพื้นฐานการกระทำที่ออกมาโดยรัฐบาลเตหะราน และการอธิบายต่อการล้มแผนการลอบสังหารเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ รวมไปถึงความเคลื่อนไหวทางกฎหมายและภัยคุกคามต่อเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ที่ถูกชี้ตัว
รายงานระบุชื่อเป้าหมายระดับสูงของสหรัฐฯ ได้แก่ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ไมค์ พอมเพโอ อดีตผู้บัญชาการกองบัญชาการกลางสหรัฐฯ CENTCOM พล อ.เคนเนธ แม็คเคนซี (General Kenneth McKenzie) เป็นต้น โดยชี้ว่าเพื่อเป็นการแก้แค้นต่อการเสียชีวิตของโซเลมานี
“นับตั้งแต่มกราคมปี 2021 อิหร่านได้กล่าวอย่างเปิดเผยถึงความปรารถนาที่จะออกปฏิบัติการสังหารภายในสหรัฐฯ และได้ชี้ตัวอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ไมค์ พอมเพโอ และอดีตผู้บัญชาการกองบัญชาการกลางสหรัฐฯ CENTCOM พลใอ.เคนเนธ แม็คเคนซี เป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายระดับต้นสำหรับการเอาคืน” อ้างอิงจากรายงานศูนย์ต่อต้านก่อการร้าย NCTC
ซึ่งข่าวจากประชาคมข่าวกรองสหรัฐฯ ที่ยาฮูนิวส์ได้มานั้นดูเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในภาพกว้างของรัฐบาลไบเดนเพื่อให้ความสนใจต่อภัยคุกคามที่มาจากรัฐบาลอิหร่าน และต้องการรวบรวมการสนับสนุนจากสมาชิกสภาคองเกรสสหรัฐฯ จากทั้ง 2 พรรค และคนอื่นๆ
ที่ผ่านมา ชุมชนข่าวกรองสหรัฐฯ และหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายสหรัฐฯ ต่างตระหนักถึงความเป็นไปได้ของการตอบโต้จากเตหะราน