ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ในวันจันทร์ (11 ก.ค.) ออกกฤษฎีกาฉบับหนึ่ง มอบสิทธิความเป็นพลเมืองแบบเร่งด่วนแก่ชาวยูเครนทุกคน ท่ามกลางปฏิบัติการทางทหารรุกรานยูเครนที่ยืดเยื้อมานานกว่า 4 เดือนแล้ว
กฤษฎีกาฉบับนี้ระบุว่า "พลเมืองยูเครนทุกคนได้รับสิทธิยื่นคำร้องสำหรับเข้าเป็นพลเมืองของสหพันธรัฐรัสเซีย ในวิธีการแบบรวบรัด"
กฤษฎีกาล่าสุดเป็นการเพิ่มเติมจากคำสั่งต่างๆ ก่อนหน้านี้ ในนั้นรวมถึงที่ประกาศออกมาในช่วงต้นของการรุกราน เปิดทางให้พลเมืองยูเครนที่ใช้ชีวิตอยู่ในดินแดนต่างๆ ที่อยู่ภายใต้การยึดครองของมอสโก ได้รับพาสปอร์ตรัสเซียง่ายขึ้น
ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนพฤษภาคม ปูติน ได้ลงนามในกฤษฎีกาฉบับหนึ่งมอบสิทธิความเป็นพลเมืองแบบเร่งด่วนแก่พลเมืองใน 2 แคว้นของยูเครน ประกอบด้วย แคว้นเคอร์ซอน ทางภาคใต้ ซึ่งอยู่ภายใต้การควบคุมของทหารรัสเซียเกือบทั้งหมด และแคว้นซาปอริซเซีย ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของมอสโกเป็นบางส่วน
ในปี 2019 ได้มีการออกกฤษฎีกาคล้ายกัน เปิดทางขั้นตอนมอบสิทธิความเป็นพลเมืองแบบรวบรัดแบบเดียวกัน สำหรับพลเมืองในดินแดนที่อ้างตนเองว่าเป็นสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสก์และสาธารณรัฐประชาชนลูฮันสก์ 2 แคว้นแบ่งแยกดินแดนทางภาคตะวันออกของยูเครน
เจ้าหน้าที่มอสโกและเจ้าหน้าที่ของกบฏฝักใฝ่มอสโก ในพื้นที่ต่างๆ ที่อยู่ภายใต้การควบคุมของทหารเครมลิน ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าพวกเขาจะกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย
ยูเครนในวันจันทร์ (11 ก.ค.) รุดออกมาประณามกฤษฎีกาล่าสุดของปูตินในทันที โดยกระทรวงการต่างประเทศของเคียฟระบุว่า "กฤษฎีกาที่กล่าวถึงกันนั้น เป็นอีกหนึ่งการละเมิดอำนาจอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของยูเครน ขัดแย้งกับบรรทัดฐานและหลักการของกฎหมายระหว่างประเทศ"
"ชาวยูเครนไม่ต้องการสิทธิความเป็นพลเมืองของปูติน และความพยายามกำหนดมันผ่านการใช้กำลังถึงคราวล้มเหลว" ดมิทรี คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครนระบุ พร้อมเรียกกฤษฎีภาของปูตินที่ประกาศในวันจันทร์ (11 ก.ค.) ว่า "ไร้ค่า" และพิสูจน์ชัดถึงความกระหายรุกรานของปูติน
(ที่มา : เอเอฟพี)