xs
xsm
sm
md
lg

เดินเกมสลายมหามิตร! ผอ.นาซาให้สัมภาษณ์สื่อเยอรมนีโจมตี “ปักกิ่ง” จ้องยึดดวงจันทร์ หว่านล้อม “มอสโก” ต้องใช้ทั้งอเมริกัน-รัสเซียร่วมใจควบคุมสถานีอวกาศ ISS

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอเจนซีส์/รอยเตอร์/MGRออนไลน์ - ผู้อำนวยการนาซา บิล เนลสัน (Bill Nelson) ให้สัมภาษณ์สื่อเยอรมนีทั้ง Bild และ Der Spiegal ติดๆ กันอ้าง ปักกิ่งมีแผนจ้องยึดดวงจันทร์เป็นของตัวเองแต่ฝ่ายเดียว สร้างความฉุนเฉียวให้จีนจนออกมาตอบโต้ ขณะเดียวกัน กลับส่งสารไปยังเครมลิมยันทั้งอเมริกันและรัสเซียต้องร่วมมือกันในการควบคุมสถานีอวกาศนานาชาติ ISS ขาดใครไปไม่ได้ทั้งนั้น สุดฮือฮา รัฐมนตรีต่างประเทศจีนวันจันทร์ (4 ก.ค.) เชิญชวนประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวม "ไทย" เข้าร่วมโครงการสถานีวิจัยดวงจันทร์ ILRS

เดลีเมล สื่ออังกฤษรายงานวันจันทร์ (4 ก.ค.) ว่า กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตไปทั่วเมื่อผู้อำนวยการองค์การบริหารอวกาศนาซาของสหรัฐฯ เดินเกมสลายมิตรอย่างแยบยลให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ Bild ของเยอรมนี ตีพิมพ์วันเสาร์ (2) ว่า ปักกิ่งกำลังมีแผนการเข้ายึดครองดวงจันทร์ไว้เป็นสมบัติของตัวเองแต่ฝ่ายเดียว ส่วนหนึ่งของโครงการอวกาศทางการทหารของปักกิ่ง

แต่ในวันจันทร์ (4) เขาเดินหน้าให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์รายปักษ์ของเยอรมนี Der Spiegal ชี้ว่าทั้งสหรัฐฯ และรัสเซียต้องร่วมมือร่วมใจกันในการควบคุมสถานีอวกาศนานาชาติ ISS ในการปกป้องเหตุผลนาซาต้องการร่วมมือกับรัสเซียทางอวกาศต่อ

ทั้งนี้ สหรัฐฯ กำลังเดินหน้าเต็มตัวในโครงการอาร์เทมิส (Artemis program) ที่มาจากคำสั่งของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ และทำให้นาซามีแผนต้องการส่งนักบินอวกาศกลับไปยังวงโคจรดวงจันทร์ในปี 2024 และนักบินอวกาศที่เป็นครั้งแรกจะมีนักบินอวกาศหญิงเดินทางไปด้วยจะลงไปสำรวจพื้นผิวดวงจันทร์ที่บริเวณขั้วใต้ของดวงจันทร์ภายในปี 2025

ขณะเดียวกัน จีนที่ได้มีการลงนามความร่วมมือทางอวกาศกับรัสเซียก่อนหน้ามีแผนจะส่งยานอวกาศแบบไม่มีนักบินอวกาศไปเยือนขั้วใต้ของดวงจันทร์ภายใน 10 ปีนี้

เดลีเมลชี้ว่า ในการให้สัมภาษณ์กับ Bild เนลสันยอมรับอย่างตรงไปตรงมาว่า สหรัฐฯ กำลังแข่งขันทางอวกาศกับจีน และสหรัฐฯ ดูเหมือนรู้สึกถูกคุกคามจากการที่จีนกระโดดเข้าร่วมในการแข่งขันทางอวกาศครั้งนี้

วอชิงตันไทม์สรายงานคำพูดของผู้อำนวยการนาซาที่ให้สัมภาษณ์ในวันเสาร์ (2) กับหนังสือพิมพ์เยอรมันว่า “พวกเราต้องตระหนักให้มากว่า จีนกำลังลงบนดวงจันทร์แล้ว (ฝ่ายจีน) ประกาศออกมาว่า “มันเป็นของพวกเราแล้วในเวลานี้ พวกคุณออกไปให้พ้น”

เนลสันกล่าวอีกว่า หัวใจสำคัญของโครงการอวกาศปักกิ่งนั้นเป็นโครงการอวกาศทางการทหารของกองทัพจีน PLA เขาย้ำว่า “จีนนั้นมีความเก่งกาจ แต่ทว่าความเก่งกาจของจีนมาจากการขโมยความคิดและเทคโนโลยีของคนอื่นๆ”

บลูมเบิร์กกล่าวว่า เนลสันออกมากล่าวแสดงความเห็นเพื่อเตือนชาติอื่นๆ ในโลกว่า จีนอาจกำลังต้องการยึดครองดวงจันทร์และห้ามชาติอื่นๆ เข้าไปสำรวจ พร้อมกันนี้ในการให้สัมภาษณ์เขายังอ้างต่อว่า ขณะนี้ปักกิ่งกำลังเรียนรู้ต้องการทำลายดาวเทียมที่ถูกยิงขึ้นไปโดยชาติอื่นๆ

โดยเดลีเมลกล่าวว่า นักบินอวกาศจีนถูกฝึกให้ทำลายดาวเทียมของชาติอื่น

บีบีซีรายงานในปีที่ผ่านมาว่า รัสเซียกลายเป็นชาติแรกที่ประสบความสำเร็จในการใช้มิสไซล์ต่อต้านดาวเทียมทดสอบยิงดาวเทียมเก่าของตัวเองเพื่อทำลายทิ้งเมื่อช่วงปลายปี 2021 กลายเป็นที่ฮือฮาไปทั่วโลก

เดลีเมลชี้ว่า ปักกิ่งในวันจันทร์ (4) ออกมาตอบโต้คำกล่าวหาจากเนลสันอย่างรุนแรงและโกรธจัด โดยโฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนกล่าวผ่านแถลงการณ์มีใจความว่า “นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่หัวหน้าสำนักงานบริหารการบินอวกาศแห่งชาติสหรัฐฯ NASA เพิกเฉยต่อข้อเท็จจริงและกล่าวอย่างไร้ความผิดชอบต่อจีน”

และเสริมต่อว่า “ฝ่ายสหรัฐฯ นั้นมักจะป้ายสีต่อโครงการสำรวจอวกาศของจีนที่เป็นปกติและสมเหตุสมผลและจีนขอออกมาต่อต้านต่อการแสดงความเห็นที่ไร้ความรับผิดชอบ”

โฆษกกระทรวงต่างประเทศจีนยืนยันว่า โครงการอวกาศปักกิ่งมีขึ้นเพื่อสันติและต่อต้านการใช้โครงการเป็นเสมือนอาวุธทางการทหาร

เขากล่าวว่า การพัฒนาโครงการสำรวจอวกาศของจีนนั้นตั้งอยู่บนพื้นฐานความเป็นเอกเทศและการพึ่งพาตัวเอง และสิทธิและความสำเร็จของโครงการอวกาศจีนนั้นไม่สามารถถูกทำให้เสียหายหรือหมิ่นได้

บลูมเบิร์กรายงานว่า รัฐมนตรีต่างประเทศจีน หวัง ยี ในวันจันทร์ (4) ระหว่างการประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่จากประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้แก่ พม่า กัมพูชา ลาว เวียดนาม  รวม "ไทย" เขาได้ออกปากเชื้อเชิญให้ประเทศเหล่านี้เข้าร่วมสถานีการวิจัยอวกาศนานาชาติลูนาร์ ILRS ที่สร้างร่วมกันระหว่างจีนและรัสเซีย

ซึ่งปักกิ่งพยายามโปรโมตโครงการนี้ว่าเป็นคู่แข่งโครงการอาร์เทมิสของสหรัฐฯ ที่วอชิงตันประสบความสำเร็จในการชักชวนชาติต่างๆ เข้าร่วม รวมไปถึงชาติพันธมิตรนาโต้ เช่น อังกฤษ แคนาดา อิตาลี ฝรั่งเศส และยังรวมไปถึงชาตินอกนาโต้ ได้ก่ บราซิล เม็กซิโก โคลอมเบีย ที่มียูเครน และสิงคโปร์ รวมอยู่ในนั้น

แต่ทว่าสนธิสัญญาอาร์เทมิส (Artemis Accord) นี้กลับถูกจีนวิจารณ์อย่างหนักว่า "เป็นการจัดตั้งพันมิตรนาโต้นอกโลก"

ในบทบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์โกลบอลไทม์สกระบอกเสียงของจีนโจมตีผู้อำนวยการนาซาว่ายังคงมีแนวความคิดลัทธินักล่าเมืองขึ้นอยู่ในหัว

โดยได้อ้างความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญทางการทหารจีน ซ่ง ซองปิง (Song Zhongping) ให้สัมภาษณ์กับโกลบอลไทม์สว่า ในความเป็นจริงแล้ว สหรัฐฯ มีความเห็นต่อ "ดวงจันทร์ " เป็นเสมือนดินแดนอาณานิคมของตัวเอง

โกลบอลไทม์สรายงานว่า ในการให้สัมภาษณ์ของเนลสันกับ Bild เขาอ้างว่า ปักกิ่งไม่ต้องการแบ่งปันผลการสำรวจของโครงการสำรวจอวกาศให้กับชาติอื่นๆ ให้รับรู้ รวมไปถึงการยึดครองดวงจันทร์เป็นของปักกิ่งแต่ผู้เดียว โกลบอลไทม์สชี้ว่าซึ่งเป็นคำกล่าวอ้างที่ผิด แต่ในความเป็นจริงแล้วฝ่ายสหรัฐฯ เองที่มีเป้าหมายทางการทหารด้านอวกาศแต่กลับออกมาแสดงความเห็นกล่าวหาจีน

สำนักข่าวทาซ (TASS) ของรัสเซียรางานวันที่ 28 มิ.ย. ว่า ดมิตรี โรโกซิน (Dmitry Rogozin) ผู้อำนวยสำนักงานอวกาศรัสเซีย รอสคอสมอส (Roscosmos) รัสเซียและจีนใกล้ที่จะสามารถลงนามข้อตกลงความร่วมมือการสร้างสถานีวิจัยดวงจันทร์ (Lunar Research Station)

อ้างอิงจากสื่ออินเวิร์สพบว่า แผนการความร่วมมือทางอวกาศระหว่างรัสเซียและจีนดำเนินไปตามตารางถึงแม้ว่ารัสเซียกำลังอยู่ระหว่างทำสงครามกับยูเครนก็ตาม โดยการก่อสร้างสถานีวิจัยดวงจันทร์ ILRS ของจีนและรัสเซียคาดว่าจะเริ่มได้ในปี 2026-2035 และสามารถส่งมนุษย์ขึ้นไปปฏิบัติที่สถานีแห่งนี้ได้ในปี 2036 โดยโครงการ ILRS นี้ประกอบไปด้วยสถานีอวกาศระดับวงโคจรดวงจันทร์ สถานีวิจัยบนพื้นผิวดวงจันทร์ และยานสำรวจพื้นผิวดวงจันทร์ โมไบล์ โรเวอร์ (Mobile Rover) และหุ่นยนต์โฮปปิง(hopping robot) ที่ทั้งยานสำรวจและหุ่นยนต์จะประจำอยู่ที่ฐานบนดวงจันทร์แห่งนี้

บิล เนลสัน ผู้อำนวยการนาซายังออกมาให้สัมภาษณ์กับ DER SPIEGAL ในวันจันทร์ (4) ระหว่างสหรัฐฯ และรัสเซียจะยังมีความสัมพันธ์ที่เลวร้ายหลังจากสงครามยูเครน แต่เนลสันชี้ว่า มีความจำเป็นที่อเมริกันและรัสเซียต้องร่วมกันในการควบคุมสถานีอวกาศนานาชาติ ISS ที่ถือเป็นความหวังของมวลมนุษยชาติ

หนังสือพิมพ์รายสัปดาห์เยอรมนีกล่าวว่า เนลสันออกมากล่าวคล้ายกับการปกป้องการยังคงร่วมมือกับรัสเซียทางอวกาศต่อไปและความคาดหวังของการส่งชาวยุโรปไปดวงจันทร์

ซึ่งเมื่อไม่นานมานี้ นาซาได้ส่งดาวเทียมที่ยิงออกมาจากนิวซีแลนด์เพื่อสำรวจดวงจันทร์และได้สูญเสียการติดต่อไป แต่เดอะเวิร์จรายงานเมื่อวานนี้ (6) ว่า นาซ่าประสบความสำเร็จสามารถกลับมาติดต่อสื่อสารได้อีกครั้ง

นาซามีแผนต้องการวิจัยน้ำแข็งที่จับตัวบนขั้วใต้ของดวงจันทร์เพื่อเป็นการปูทางไปสู่การสำรวจดาวอังคาร

เนลสันซึ่งเป็นนักการเมืองอาชีพ และกลายเป็นสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ คนที่ 2 ที่มีโอกาสขึ้นไปยานอวกาศ โคลัมเบีย (Columbia) ในปี 1986 หรือ 10 วันก่อนเกิดโศกนาฎกรรมยานอวกาศชาเลนเจอร์เมื่อวันที่ 28 ม.ค.ปี 1986 ที่เกิดระเบิดหลังบินขึ้นไปได้แค่ 73 วินาที ช็อกไปทั่วโลกและส่งผลทำให้โครงการถูกสั่งยกเลิก

เขากล่าวในการให้สัมภาษณ์อย่างอารมณ์ดีว่า “ไม่มีข้อแก้ตัวสำหรับในสิ่งที่ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน ได้ทำลงไปต่อยูเครนสำหรับการสังหารผู้บริสุทธิ์และสำหรับการรุกรานประเทศที่มีเอกราช มันยังขัดต่อผลประโยชน์ของทั้งยุโรปและสหรัฐฯ แต่กระนั้นสถานีอวกาศที่ลอยอยู่บนนั้นในอวกาศที่ถูกควบคุมร่วมกันระหว่างอเมริกันและรัสเซีย และมันจะยังคงดำเนินต่อไปในหนทางนี้ที่สันติและมีความเป็นมืออาชีพ”

เขากล่าวยืนยันว่า กิจการอวกาศนั้นสามารถแบ่งแยกออกจากประเด็นทางการเมืองได้ โดยยกตัวอย่างไปถึงอดีตที่ครั้งหนึ่งในยุคสงครามเย็นที่สหรัฐฯ และอดีตสหภาพโซเวียตต่างหันอาวุธนิวเคลียร์เตรียมพร้อมที่จะโจมตีซึ่งกันและกันได้ตลอดเวลา

"ยานอวกาศสหรัฐฯ พบกับยานอวกาศโซเวียตในอวกาศเมื่อปี 1975 ความร่วมมือทางอวกาศอย่างสันติเกิดขึ้นหลังจากถึงแม้จะเกิดการล่มสลายของจักรวรรดิสหภาพโซเวียตไปแล้ว กระสวยอวกาศอเมริกันเชื่อมต่อเข้ากับสถานีอวกาศรัสเซีย Mir และหลังจากนั้นพวกเราทั้งคู่ตัดสินใจสร้างสถานีอวกาศนานาชาติ ISS ทั้งสองประเทศจำเป็นต้องบังคับยานอวกาศร่วมกัน ฝ่ายรัสเซียสำหรับการขับเคลื่อน (propulsion) และฝ่ายอเมริกันสำหรับพลังงาน (power) ทั้งสองฝ่ายจะยังคงมีความสัมพันธ์ในการเป็นมืออาชีพระหว่างคอสโมนอต (cosmonaut : นักบินอวกาศรัสเซีย) และแอสโตรนอต (astronaut : นักบินอวกาศสหรัฐฯ) เพื่อทำให้สถานีอวกาศแห่งนี้ยังคงมีชีวิต"

ในการให้สัมภาษณ์เนลสันทุ่มเทปกป้องสำนักงานอวกาศรัสเซียอย่างหนัก โดยชี้ว่ามีเพียง ดมิตรี โรโกซิน จากรอสคอสมอสเท่านั้นที่ออกมาแสดงความสนับสนุนสงครามบุกยูเครนทางสาธารณะ พร้อมกับกล่าวต่อว่า คนที่โรโกซินต้องการให้รับฟังในสิ่งนี้มีเพียงคนเดียวคือ “ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน” เขายังเปิดเผยต่อว่า ขณะนี้รัฐบาลรัสเซียยังไม่ได้ถอนตัวออกมาจากการร่วมมือด้านอวกาศกับสหรัฐฯ บนสถานีอวกาศนานาชาติ ISS อย่างเป็นทางการ แต่ในความเป็นจริงแล้วตรงข้ามกับสิ่งที่ออกข่าวตามหน้าสื่อทั่วไป

เขาย้ำอย่างหนักแน่นกับ DER Spiegal ว่า ทางนาซายังคงแผนการที่จะร่วมมือกับรัสเซียต่อไปท่ามกลางความวิตกจากชาติพันธมิตรต่ออายุการใช้งานของ ISS แต่ทว่าเนลสันปัดว่า สถานีอวกาศนานาชาติ ISS จะยังคงใช้งานได้ไปจนถึง 2030

ในการเปิดเผยของเนลสันเขายังกล่าวไปถึงสถานีอวกาศเกตเวย์ (Gateway) ของสหรัฐฯ ที่จะโคจรเหนือดวงจันทร์สำหรับโครงการอาร์เทมิสที่มีการลงทุนร่วมกันระหว่างสหรัฐฯ และยุโรป โดยเขาชี้ว่า ต้องการนำมนุษย์อวกาศจากชาติยุโรปขึ้นไปอยู่บนสถานีแห่งนี้แต่ยังไม่ได้มีการตัดสินใจในการนำมนุษย์อวกาศยุโรปลงบนพื้นผิวดวงจันทร์

Der Spiegal ยิงคำถามในตอนท้ายถึง "จีน" มีใจความว่า รัสเซียร่วมมือกับจีนด้านโครงการอวกาศ และจะมีความเป็นไปได้หรือไม่ที่สหรัฐฯ จะร่วมมือกับจีนในด้านนี้เช่นกัน และเขาตอบกลับมาว่า สหรัฐฯ มีความยินดีเป็นอย่างมากในการร่วมมือ แต่ที่ผ่านมาฝ่ายจีนปฎิเสธ เขาชี้ต่อไปอย่างกังขาว่า จีนนั้นมีการปกปิดความลับเป็นอย่างมากและไม่มีความโปร่งใส

พร้อมกันนี้ยังเปิดเผยว่า นาซาได้พบในปีที่ผ่านมาว่ามีชิ้นส่วนขนาดมโหฬารของจรวดมิสไซล์ของพวกเขาที่อาจตกลงมาสู่โลกในยุโรปหรือซาอุดีอาระเบีย แต่พวกเขากลับไม่ยอมให้ความร่วมมือกับเราในการให้พิกัด ไม่มีการติดต่อสื่อสารโดยสิ้นเชิง และนี่ไม่สามารถแก้ตัวได้เมื่อชีวิตมนุษย์และทรัพย์สินถูกคุกคาม


กำลังโหลดความคิดเห็น