จีนพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นในหลายเมืองทั่วประเทศ รวมถึงที่นครเซี่ยงไฮ้ซึ่งมีการระดมตรวจเชื้อประชากรหลายล้านคน ขณะที่นครซีอาน ต้องงัดมาตรการคุมเข้มกลับมาใช้อีกครั้ง
แม้ยอดผู้ติดเชื้อใหม่ทั่วประเทศจีนจะเพิ่มขึ้นเพียงวันละ 300 คนเศษ ซึ่งถือว่าค่อนข้างต่ำตามมาตรฐานโลก แต่ด้วยนโยบาย “คุมโควิดเป็นศูนย์แบบไดนามิก” ของจีนคาดว่าจะทำให้ภาครัฐต้องรื้อฟื้นข้อจำกัดต่างๆ ซึ่งอาจบั่นทอนความเชื่อมั่นในการฟื้นฟูเศรษฐกิจจีน
นครเซี่ยงไฮ้ซึ่งเพิ่งจะสิ้นสุดมาตรการล็อกดาวน์ไปเมื่อต้นเดือน มิ.ย. ได้สั่งให้มีการตรวจเชื้อในประชากร 9 เขตจากทั้งหมด 16 เขต ระหว่างวันอังคาร (5 ก.ค.) จนถึงพฤหัสบดี (7) และได้สั่งปิดบาร์คาราโอเกะชั่วคราวหลังจากที่พบคลัสเตอร์โควิดที่เชื่อมโยงกับสถานบันเทิงจำพวก KTV เหล่านี้
ด้าน “ซีอาน” ซึ่งเป็นเมืองประวัติศาสตร์ที่มีผู้อยู่อาศัย 13 ล้านคน และเคยอยู่ภายใต้คำสั่งล็อกดาวน์นานถึง 1 เดือนเต็มเมื่อปลายปีที่แล้ว ล่าสุด มีการนำ “มาตรการควบคุมชั่วคราว” กลับมาใช้อีกครั้ง หลังพบผู้ติดเชื้อใหม่รวม 29 รายตั้งแต่วันเสาร์ (2) ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพนักงานรีไซเคิลขยะ
สถานบันเทิงจำพวกผับ อินเทอร์เน็ตคาเฟ่ และบาร์คาราโอเกะในเมืองซีอานถูกสั่งปิดตั้งแต่เที่ยงคืนวันพุธ (6) ขณะที่สื่อจีนเผยภาพชาวเมืองซีอานไปเข้าคิวรอตรวจหาเชื้อโควิด-19 กันจนถึงเที่ยงคืนวานนี้ (5) แต่ย้ำว่าไม่ได้มีการประกาศ “ล็อกดาวน์” แต่อย่างใด
เจ้าหน้าที่ซีอานระบุว่า การระบาดระลอกนี้เกิดจากเชื้อโอมิครอนสายพันธุ์ย่อย BA.5.2 ซึ่งแพร่กระจายได้เร็ว และหลบหลีกภูมิคุ้มกันได้ดีขึ้น
“เคสใหม่ทั้งหมดที่พบเกิดจากสายพันธุ์ย่อย BA.5.2 ทั้งสิ้น และเราได้มีการเฝ้าติดตามทางระบาดวิทยาอย่างเต็มที่” หม่า เฉาเฟิง เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเมืองซีอาน แถลงต่อสื่อมวลชน
แนวโน้มการระบาดซ้ำของโควิด-19 กลายเป็นวิกฤตท้าทายสำหรับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ซึ่งประกาศกร้าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าจีนจะยังยึดนโยบายคุมโควิดเป็นศูนย์ต่อไป ไม่ว่าจะต้องจ่ายราคาทางเศรษฐกิจแพงแค่ไหนก็ตามที
บริษัท โนมูระ ซึ่งเป็นวาณิชธนกิจและโบรกเกอร์รายใหญ่ของญี่ปุ่นประเมินว่า ณ วันจันทร์ที่ 4 ก.ค. ยังคงมีชาวจีนไม่ต่ำกว่า 114.8 ล้านคนที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ภายใต้คำสั่งล็อกดาวน์เต็มรูปแบบหรือบางส่วน เพิ่มขึ้นจากตัวเลข 66.7 ล้านคนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
จีนพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นกว่า 1,000 คนในมณฑลอานฮุยทางตอนกลาง และยังพบเคสใหม่อีกหลายสิบที่มณฑลเจียงซูซึ่งอยู่ติดกับเซี่ยงไฮ้ ทำให้เกรงกันว่าโควิดระลอกนี้อาจส่งผลกระทบต่อพื้นที่เขตเศรษฐกิจสามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซี
ที่มา : รอยเตอร์, เอเอฟพี