เอเจนซีส์ - แผนกคุ้มครองผู้บริโภคอินเดียล่าสุดประกาศห้ามโรงแรมและภัตตาคารต่างๆ คิดค่าบริการเซอร์วิสชาร์จเพิ่มรวมในบิลอาหาร หลังประชาชนร้องเรียนเป็นจำนวนมาก
บีบีซี สื่ออังกฤษ รายงานวันนี้ (5 ก.ค.) ว่า แผนกคุ้มครองผู้บริโภคเปิดเผยว่า ความจำเป็นทำให้ทางสำนักงานต้องออกคำสั่งห้ามโรงแรมและภัตตาคารต่างๆ เรียกเก็บค่าบริการเซอร์วิสชาร์จเพิ่มเนื่องมาจากมีผู้ร้องเรียนเข้ามา
ทั้งนี้ ตามปกติภัตตาคารในอินเดียมักคิดค่าเซอร์วิสชาร์จอยู่ที่ 5-15% ถือเป็นการบวกค่าทิปพนักงานรวมอยู่ในบิลค่าอาหาร
แต่ทว่ากฎใหม่ที่ออกมาระบุห้ามบรรดาภัตตาคารแอบใช้เล่ห์กลเรียกเก็บเพิ่มภายใต้ค่าบริการใดๆ ก็ตาม หรือห้ามการปฎิเสธลูกค้าที่ไม่ยอมจ่ายค่าบริการ
ปรากฏการณ์เซอร์วิสชาร์จที่รวมอยู่ในบิลค่าอาหารนี้กลายเป็นเรื่องราวใหญ่โตที่มีลูกค้าแดนภารตะจำนวนมากต่างบ่นเสียงขรมว่าพวกเขาไม่ได้รับแจ้งล่วงหน้าในเรื่องการบวกค่าบริการเพิ่ม
สื่ออังกฤษรายงานว่า ก่อนหน้าในปี 2017 แผนกผู้บริโภครัฐบาลอินเดียออกแนวทางปฏิบัติอนุญาตให้ร้านอาหารสามารถเรียกได้เฉพาะค่าอาหารที่ปรากฏบนเมนูรวมภาษีรัฐ
และชี้ว่าผู้บริโภคสามารถใช้วิจารณญาณได้ว่าสมควรที่จะทิ้งค่าทิปสำหรับการบริการไว้ที่โต๊ะอาหารหรือไม่ และทางแผนกยังกระตุ้นให้บรรดาผู้ประกอบการต่างๆ หันมาจ่ายค่าแรงที่เป็นธรรมให้พนักงานภายในร้านและบวกส่วนต่างในราคาอาหารแทน
แต่ทว่าทางภัตตาคารต่างๆ ยังคงถือธรรมเนียมปฏิบัติเรียกเก็บค่าบริการเซอร์วิสชาร์จในบิลค่าอาหารแทนที่บางครั้งทำให้ลูกค้าตกใจ
เดือนที่ผ่านมา รัฐบาลนิวเดลีเรียกสมาพันธ์ภัตตาคารแห่งชาติอินเดีย NRAI เข้าพบพร้อมเตือนว่า ทางการได้รับเรื่องร้องเรียนเป็นจำนวนมากจากลูกค้าที่แจ้งว่า ยังคงถูกบังคับเรียกเก็บค่าบริการเซอร์วิสชาร์จที่มักเป็นอัตราที่สูง และลูกค้าถูกข่มขู่หากว่าไม่ยอมจ่ายค่าเซอร์วิสชาร์จที่ว่านี้
NRAI ที่มีสมาชิกร้านอาหารและภัตตาคารทั่วประเทศกว่าครึ่งล้านออกมาโต้ว่า เป็นการปฏิบัติที่เกิดขึ้นบางแห่งเท่านั้นและอีกทั้งการเรียกเก็บประเภทนี้ไม่ผิดกฎหมาย
สมาพันธ์กล่าวต่อว่า การเรียกค่าบริการเพิ่มจากลูกค้าเป็นการส่งเสริมช่วยรัฐในอีกทางเพราะภัตตาคารต้องจ่ายภาษีให้รัฐจากในสิ่งที่ทางผู้ประกอบการเรียกเก็บจากลูกค้า
ทั้งนี้ กฎใหม่ยังระบุว่า ผู้บริโภคสามารถยื่นเรื่องร้องเรียนทางออนไลน์หรือผ่านทางสายด่วนผู้บริโภคได้อีกทาง