ออสเตรเลียกำลังประสบปัญหาขาดแคลนพนักงานทำความสะอาด ซึ่งทำให้บางบริษัทยอมจ่ายเงินค่าจ้างสูงเกือบ 125,000 ดอลลาร์ออสเตรเลียต่อปี หรือกว่า 3 ล้านบาท เพื่อดึงดูดคนเข้าสู่สายอาชีพนี้
จอย เวสส์ กรรมการผู้จัดการบริษัท Absolute Domestics ซึ่งมีฐานในนครซิดนีย์ยอมรับว่า บริษัทของเธอต้องยอมปรับขึ้นค่าแรงเพื่อกระตุ้นให้คนมาสมัครเป็นพนักงานทำความสะอาดเพิ่มขึ้น โดยเรตค่าจ้างในตอนนี้อยู่ที่ 45 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง (ประมาณ 1,100 บาท) ซึ่งหมายความว่าพนักงานทำความสะอาดที่แม้จะไม่มีประสบการณ์มาก่อน แต่หากทำงานวันละ 8 ชั่วโมงเพียง 5 วันต่อสัปดาห์ จะมีรายได้สูงถึง 93,600 ดอลลาร์ต่อปี (ราว 2.29 ล้านบาท)
“เราเริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลงบ้างแล้ว และมีคนเข้ามาสมัครงานเยอะขึ้น” เวสส์ ให้สัมภาษณ์กับ Daily Telegraph
“ตั้งแต่กลางปี 2021 ฉันหาพนักงานทำความสะอาดได้ไม่พอกับธุรกิจของเรา และในบางพื้นที่ เช่น แถวๆ บอนได (Bondi) หรือแมนลีย์ (Manly) ฉันจะไม่ลงโฆษณาเลย เพราะแถวนั้นไม่มีใครมาสมัครแน่ๆ”
“เมื่อ 9 เดือนก่อนฉันให้ค่าจ้างเอาไว้ที่ 35 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง แต่เมื่อ 3 สัปดาห์ที่แล้วฉันตัดสินใจปรับขึ้นเป็น 45 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง”
แต่ถึงจะขึ้นค่าจ้างให้แล้ว เวสส์ ยังบ่นว่าหาคนทำงานยากอยู่ดี โดยเฉพาะในบางย่านของนครซิดนีย์ และเธอเรียกร้องให้รัฐบาลออสเตรเลียอนุญาตให้นักศึกษาต่างชาติเพิ่มชั่วโมงทำงานได้มากขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหานี้
นอกจากบริษัทของ เวสส์ แล้ว ยังมีเจ้าของธุรกิจทำความสะอาดบางรายที่ให้ค่าแรงสูงยิ่งกว่านั้นอีก เช่น บริษัท Urban Company ที่จ่ายค่าจ้างพนักงานทำความสะอาดอยู่ที่ชั่วโมงละ 40-54.99 ดอลลาร์ออสเตรเลีย แถมโฆษกบริษัทยังโฆษณาว่าสามารถเพิ่มค่าแรงให้ได้ถึง 60 ดอลลาร์ต่อชั่วโมง (1,470 บาท) ขึ้นอยู่กับความเร็วในการทำงาน นั่นแปลว่าพนักงานความสะอาดแบบ full-time ของที่นี่อาจจะมีรายได้สูงถึง 124,800 ดอลลาร์ต่อปี (ราว 3.05 ล้านบาท) เลยทีเดียว
ที่มา : Daily Mail