อุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นผิดปกติทำให้ธารน้ำแข็งส่วนหนึ่งบนเทือกเขาแอลป์ในอิตาลีเกิดการแตกออก และพังถล่มลงมาทับนักปีนเขาเสียชีวิตอย่างน้อย 6 คน บาดเจ็บอีก 8 คน เมื่อวันอาทิตย์ (3 ก.ค.)
ฝ่ายบริหารแคว้นเตรนตีโน-อัลโตอาดีเจ (Trentino-Alto Adige) ทางตอนเหนือของอิตาลีประกาศว่า ภารกิจกู้ภัยยังคงดำเนินอยู่หลังจากที่เกิด “น้ำแข็งถล่ม” ครั้งใหญ่ ซึ่งคาดว่าจะทำให้มีนักปีนเขาได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต “เป็นจำนวนมาก”
เหตุระทึกนี้เกิดขึ้นบริเวณยอดมาร์โมลาดา (Marmolada) ซึ่งมีความสูงกว่า 3,330 เมตร และเป็นยอดเขาสูงที่สุดของเทือกเขาโดโลไมต์ส (Dolomites) ทางด้านตะวันออกของเทือกเขาแอลป์อิตาลี ซึ่งกินพื้นที่คาบเกี่ยวระหว่างแคว้นเตรนตีโน-อัลโตอาดีเจ และแคว้นเวเนโต โดยผู้บาดเจ็บทั้งหมดได้ถูกนำส่งโรงพยาบาลต่างๆ ในเมืองใกล้เคียง
หน่วยกู้ชีพอัลไพน์ ระบุว่า ธารน้ำแข็งขนาดใหญ่ได้พังถล่มลงมาบริเวณ Punta Rocca ซึ่งเป็นเส้นทางที่นักปีนเขาส่วนใหญ่นิยมใช้เพื่อเดินทางขึ้นไปสู่ยอดเขา โดยโฆษกเตือนว่าแม้สภาพอากาศจะค่อนข้างดี แต่ยังมีความเสี่ยงที่ธารน้ำแข็งจะพังถล่มลงมาซ้ำได้
คลื่นอากาศร้อนซึ่งมาเร็วกว่าปกติในอิตาลีส่งผลให้อุณหภูมิบริเวณยอดเขามาร์โมลาดาสูงแตะ 10 องศาเซลเซียสเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (2) และอุณหภูมิที่พุ่งสูงขึ้นนี้ยังเป็นสาเหตุทำให้ธารน้ำแข็งมาร์โมลาดา และรวมถึงธารน้ำแข็งในที่อื่นๆ ทั่วโลกเกิดการละลายเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในช่วงไม่กี่สิบปีมานี้
ที่มา : รอยเตอร์