กองกำลังขีปนาวุธรัสเซียเปิดฉากยิงถล่มเมืองท่าโอเดสซาของยูเครนเมื่อวันศุกร์ (1 ก.ค.) เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากที่สั่งถอนทหารออกจากเกาะงู (Snake Island) ในทะเลดำ โดยปฏิบัติการโจมตีครั้งนี้ทำให้อพาร์ตเมนต์หลังหนึ่งพังเสียหายและมีผู้เสียชีวิตไม่ต่ำกว่า 21 คน
ประชาชนในหมู่บ้านเซอร์ฮีฟกา (Serhiivka) เข้าไปช่วยขุดค้นซากปรักหักพังของอพาร์ตเมนต์ซึ่งพังทลายลงมาบางส่วนหลังโดนขีปนาวุธยิงถล่มเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ (1) ขณะที่อพาร์ตเมนต์สูง 14 ชั้นที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ กันก็โดนคลื่นแรงระเบิดจนกำแพงและหน้าต่างแตกกระจาย
เซอร์ฮีย์ บราตชุก โฆษกฝ่ายบริหารเมืองโอเดสซา ยืนยันว่ามีผู้เสียชีวิตจากเหตุโจมตีครั้งนี้อย่างน้อย 21 คน ซึ่งรวมถึงเด็กอายุเพียง 12 ปี และลูกจ้างประจำศูนย์ฟื้นฟูเด็ก (Children's Rehabilitation Center) ที่ได้รับการสนับสนุนโดยรัฐบาลมอลโดวา
ผู้ว่าการประจำภูมิภาคระบุว่า ขีปนาวุธเหล่านี้ถูกยิงมาจากทิศทางทะเลดำ ในขณะที่ทำเนียบเครมลินออกมาปฏิเสธเสียงแข็งเช่นเคยว่าไม่มีการล็อกเป้าโจมตีพลเรือน
“ผมขอย้ำสิ่งที่ท่านประธานาธิบดีได้เคยแถลงไปแล้วว่า กองทัพรัสเซียไม่เคยกำหนดเป้าหมายโจมตีที่เป็นพลเรือน” ดมิตรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลหมีขาว ให้สัมภาษณ์
ประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครนได้มีถ้อยแถลงผ่านคลิปวิดีโอเมื่อคืนวันศุกร์ (1) โดยกล่าวประณามเหตุโจมตีครั้งนี้ว่าเป็น “การก่อการร้ายโดยเจตนา และไม่ใช่การยิงขีปนาวุธพลาดเป้า”
การยิงถล่มหมู่บ้านเซอร์ฮีฟกาเกิดขึ้นเพียงไม่นานหลังจากที่รัสเซียสั่งถอนทหารออกจากเกาะงู เกาะเล็กๆ ในทะเลดำซึ่งถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญ และตั้งอยู่ห่างจากโอเดสซาไปทางตะวันออกเฉียงใต้ราว 140 กิโลเมตร
กองกำลังรัสเซียเคยใช้เกาะงูเป็นฐานในการควบคุมทะเลดำฝั่งตะวันตกเฉียงเหนือ และปิดกั้นการส่งออกสินค้าของยูเครนซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ส่งออกธัญพืชรายใหญ่ที่สุดของโลก
วาเลรี ซาลุซนี (Valeriy Zaluzhny) ประธานเสนาธิการทหารยูเครน ออกมากล่าวหารัสเซียว่า “ผิดคำพูด” ที่เคยบอกไว้ว่าจะถอนทหารออกจากเกาะงู “เพื่อแสดงเจตนารมณ์ที่ดี” ในการเปิดทางส่งออกผลิตผลทางการเกษตรของยูเครน โดยเขาอ้างว่ามีเครื่องบินรบรัสเซีย 2 ลำเดินทางออกจากฐานทัพในไครเมียเข้าไปทิ้งระเบิดโจมตีเป้าหมายบนเกาะงูเมื่อเช้าวันศุกร์ (1) พร้อมกับโพสต์คลิปภาพการโจมตีด้วย ซึ่งผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นของจริงหรือไม่ และยังไม่มีคำแถลงตอบโต้จากฝั่งรัสเซียในประเด็นนี้
เมื่อช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา รัสเซียได้ยิงโจมตีห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งที่ใจกลางประเทศยูเครน ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปอย่างน้อย 19 คน
รัฐบาลเคียฟกล่าวหามอสโกว่ามีการใช้ขีปนาวุธพิสัยไกลโจมตีพลเรือนซึ่งอยู่ห่างจากแนวรบเข้ามามาก ขณะที่มอสโกยืนยันว่าพวกเขาเลือกโจมตีเฉพาะ “ เป้าหมายทางทหาร” เท่านั้น
ปูติน ได้พบกับประธานาธิบดี โจโก วิโดโด แห่งอินโดนีเซียที่กรุงมอสโกเมื่อวันพฤหัสบดี (30 มิ.ย.) และได้คุยโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี แห่งอินเดียในวันศุกร์ (1) โดยเขารับปากผู้นำทั้งสองว่ารัสเซียจะยังคงส่งออกธัญพืชป้อนความต้องการของตลาดอย่างเพียงพอ
ยูเครนร้องเรียนว่ารัสเซีย “ขโมย” ผลผลิตธัญพืชไปจากดินแดนที่พวกเขาบุกยึดไว้ตั้งแต่สงครามเริ่มขึ้นเมื่อ 4 เดือนที่แล้ว แต่เครมลินยืนกรานปฏิเสธ
ที่มา : รอยเตอร์
