เอเจนซีส์ – มหาเศรษฐีจอมเนิร์ดแห่งอังกฤษเจ้าของบริษัทสำรวจอวกาศ เวอร์จิน กาแลกติกที่โด่งดัง เซอร์ ริชาร์ด แบรนสัน บินด่วนเข้ายูเครนวันพุธ(29 มิ.ย)เสนอตัวให้ความช่วยเหลือประธานาธิบดียูเครน โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ระหว่างการเยือนบุกเข้าสนามบินอันโตนอฟ( Antonov)ที่มีเครื่องบินคาร์โกยุคโซเวียตลำใหญ่ที่สุดในโลกถูกทำลายเสนอตัวช่วยซ่อมแซมสนามบินและสร้างเครื่องบินAn-225 มริยาแห่งความฝันขึ้นมาใหม่
บิสซิเนสอินไซเดอร์ รายงานวันนี้(30 มิ.ย)ว่า เซอร์ ริชาร์ด แบรนสัน (Sir. Richard Branson) เจ้าของกลุ่มธุรกิจเวอร์จิน กรุ๊ปชื่อดังและผู้ก่อตั้งบริษัทสำรวจอวกาศ เวอร์จิน กาแลกติก เจ้าของฉายาฟิวเจอริสต์แห่งอังกฤษเนิร์ดไม่แพ้ อีลอน มัสค์ ของสหรัฐฯเดินทางเข้ายูเครนในวันพุธ(29) เสนอตัวจากฝ่ายภาคธุรกิจเข้าช่วยเหลือเคียฟในยามลำบาก
ในส่วนหนึ่งของการเดินทางพบว่าแบรนสันเดินทางไปที่สนามบินอันโตนอฟ (Antonov airport) ซึ่งเป็นที่ตั้งของเครื่องบินคาร์โกลำใหญ่ที่สุดในโลกชื่อ "มริยา" (Mriya) ถูกทำลายโดยฝีมือรัสเซีย
ทั้งนี้พบว่า เครื่องบิน An-225 นั้นถูกสร้างโดยบริษัทอากาศยานยูเครน อันโตนอฟ และได้เริ่มเปิดตัวเมื่อปี 1988 โดยเป็นเครื่องที่มีขนาดใหญ่กว่า 50 % กว่าเครื่องบินใดๆที่เคยเห็นมาในโลก
An-225 ถูกออกแบบมาเพื่อบรรทุกอากาศยานบูราน(Buran)ในสมัยอดีตสหภาพโซเวีตแต่เมื่อสหภาพโซเวียตเกิดล่มสลายลง เครื่องบินลำนี้ถูกซื้อไว้โดยบริษัทอันโตนอฟและตั้งชื่อมันว่า "มริยา" ที่แปลว่าความฝัน
บิสเนสอินไซเดอร์ชี้ว่า เดวิด อราคาเมีย (Davyd Arakhamia) นักการเมืองท้องถิ่นพรรคปาร์ตีของรัฐบาลยูเครนได้กล่าวแถลงผ่านเทเลแกรมว่า แบรนสัน ผู้ก่อตั้งบริษัทสำรวจอวกาศ เวอร์จิน กาแลกติก(Virgin Galactic)และผู้ก่อตั้งกลุ่มธุรกิจเวอร์จิน กรุ๊ปที่รู้จักกันดีตั้งแต่สายการบินไปถึงบริษัทเอนเตอร์เทนเมนท์ เสนอตัวเข้าให้ความช่วยเหลือ โดยเขาโพสต์ภาพระหว่างการเดินสำรวจสนามบินของแบรนสัน
อราคาเมียกล่าวว่า แบรนสันแสดงความพร้อมในการช่วยเหลือทั้งในการซ่อมแซมสนามบินอันโตนอฟและสร้างเครื่องบินคาร์โก An-225 มริยา ขึ้นมาใหม่อีกครั้งหลังจากถูกทำลายระหว่างถูกฝ่ายรัสเซียโจมตีเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์
อราคาเมียกล่าวผ่านแถลงการณ์วันพุธ(29)ว่า “ผู้บุกรุกรัสเซียได้แต่ทำลายทุกสิ่งแต่ไม่สามารถทำลายความฝันได้” และเสริมต่อว่า “พวกเราพร้อมสำหรับการทำงานร่วมกันในโปรเจกต์เพื่อสร้างเครื่องบินขึ้นมาใหม่” พร้อมกับเสริมว่า ฟิวเจอริสต์อังกฤษนั้นออกอาการตกตลึงต่อการมองโลกในแง่ดีของพวกเราเป็นอย่างมาก
นักข่าวยูเครน อเล็กซานเดอร์ เครเบต( Alexander Khrebet) ยังเสนอรายงานการทัวร์สนามบินอันโตนอฟของแบรนสันพร้อมกับภาพประกอบทางทวิตเตอร์ แต่อย่างไรก็ตามในการทวีตของเครเบตครั้งที่ 2 เขากล่าวแก้ไขว่า มหาเศรษฐีอังกฤษสนใจต้องการซ่อมแซมสนามบินเท่านั้นไม่ใช่บูรณะเครื่องบินคาร์โกขึ้นมาใหม่ แต่ยังไม่เป็นที่แน่ชัดในเรื่องนี้
บิสซิเนสอินไซเดอร์รายงานว่า เซอร์ ริชาร์ด แบรนสันไม่ได้ออกมาแสดงความเห็นทางสาธารณะในการเดินทางเข้า โฮสโตเมล (Hostomel) ซึ่งเป็นที่ตั้งของสนามบินอันโตนอฟของเขา แต่ทว่าก่อนหน้าเมื่อช่วงต้นของวันพุธ(29)พบว่า แอกเคาน์ทางการของแบรนสันได้กล่าวถึงการเดินทางของเขาไปเยือนโปแลนด์เพื่อหารือบทบาทของภาคธุรกิจในการเข้าช่วยเหลือยูเครนและเพื่อนบ้านได้อย่างไร
นิวยอร์กโพสต์รายงานว่า แบรนสันยังปรากฏตัวร่วมหารือกับผู้นำยูเครน ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ที่ทำเนียบรัฐบาลในวันพุธ(29)
โดยในจดหมายของเขาที่เผยแพร่ผ่านเว็บไซต์ทางการของบริษัทเวอร์จิน กรุ๊ปของตัวเองพร้อมกับภาพนั่งคู่หารืออย่างเคร่งเครียดร่วมกับเซเลนสกี ระบุว่านอกจากผู้นำยูเครนที่เขามีโอกาสได้พบแล้ว เขายังได้หารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน ดมิโตร คูเบลา( Dmytro Kubela) และกลุ่มผู้นำนักธุรกิจยูเครน
โดยในจดหมายเขาแสดงความรู้สึกว่า “จุดประสงค์หลักของผมในการเดินทางมาที่กรุงเคียฟเพื่อพบและรับฟังชาวยูเครน เพื่อเข้าใจความรู้สึกกลัวและวิตกของพวกเขาและต้องการเรียนรู้ว่าภาคธุรกิจในความเป็นหุ้นส่วนกับภาคสังคมและรัฐบาลสามารถที่จะสนับสนุนยูเครนอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุดได้อย่างไร”
ในจดหมายเขายังเปิดเผยว่า พบกับประธานาธิบดียูเครนในช่วงท้ายของการเดินทางเป็นการพบกันอย่างไม่เป็นทางการและยังมีโอกาสได้พบกับสมาชิกคณะครม.ของเซเลนสกี พร้อมกันนี้เขายังกล่าวแสดงความชื่นชมประธานาธิบดีเซเลนสกีว่า ในสายตาของทั้งโลกและประชาชนยูเครน "ประธานาธิบดีเซเลนสกีกลายเป็นผู้นำในยามสงครามที่หายากยิ่ง"
และในการหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศยูเครนและกลุ่มนักธุรกิจยูเครนระหว่างการพบปะช่วงอาหารเที่ยง แบรนสันได้เรียกร้องให้ภาคธุรกิจและบุคคลที่มีชื่อเสียงคนอื่นๆจากทั่วโลกก้าวเข้ามาให้การสนับสนุนยูเครนโดยย้ำว่า “ทุกการสนับสนุนสำคัญ”
