xs
xsm
sm
md
lg

พรรคคอมมิวนิสต์จีนสั่ง จนท.ต้องรายงาน‘ธุรกิจของครอบครัว’ มุ่งคุมเข้มทุจริตคอร์รัปชั่น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: เจฟฟ์ เปา


นักเรียนโบกธงประเทศจีน และธงพรรคคอมมิวนิสต์จีน ในพิธีเฉลิมฉลองเนื่องในวาระการก่อตั้งพรรคครบรอบ 100 ปี ที่กรุงปักกิ่ง เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2021
(เก็บความจากเอเชียไทมส์ www.atimes.com)

CPC requires officials to report family businesses
By JEFF PAO
21/06/2022

สื่อของทางการจีนบอกว่า “กรณีการทุจริตคอร์รัปชั่นปกติแล้วสามารถที่จะมองเห็นร่องรอยได้จากการเปิดเผยทรัพย์สินต่างๆ ของพวกญาติใกล้ชิดกับเจ้าหน้าที่”

พรรคคอมมิวนิสต์ที่เป็นพรรคการเมืองซึ่งครองอำนาจอยู่ในประเทศจีน ออกระเบียบใหม่ซึ่งกำหนดให้พวกเจ้าหน้าที่ในระดับตั้งแต่หัวหน้าหน่วยงาน (department head) ขึ้นไป ต้องรายงานธุรกิจของครอบครัวของพวกเขาให้ทางพรรคทราบ และจะต้องหลีกเลี่ยงไม่ให้มีการใช้อำนาจไปในทางมิชอบ

เจ้าหน้าที่เหล่านี้ต้องส่งรายงานให้แก่พรรคคอมมิวนิสต์จีน (พคจ. Communist Party of China หรือ CPC) เป็นประจำทุกปี เกี่ยวกับกิจกรรมทางธุรกิจต่างๆ ของคู่สมรสของพวกเขา, ลูกๆ ของพวกเขารวมทั้งคู่สมรสของลูกๆ ด้วย โดยที่ถ้าหากธุรกิจเหล่านี้ถูกพิจารณาว่าอยู่ในลักษณะเป็นผลประโยชน์ทับซ้อนกับหน้าที่การงานของเจ้าหน้าที่คนนั้นๆ แล้ว ก็จะถูกเรียกร้องให้เลิกทำธุรกิจดังกล่าว ทั้งนี้ตามระเบียบชุดใหม่ของสำนักงานกลางแห่งคณะกรรมการกลางพรรคคอมมิวนิสต์จีน (General Office of the CPC Central Committee)
(ดูเพิ่มเติมได้ที่ http://www.news.cn/politics/2022-06/20/c_1128759763.htm)

สื่อภาครัฐของจีนได้แสดงความสนับสนุนการออกระเบียบใหม่นี้ โดยหยิบยกกรณีการทุจริตคอร์รัปชั่นของ โจว เจียงหย่ง (Zhou Jiangyong) อดีตเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์จีนของเมืองหางโจว ผู้ซึ่งถูกขับออกจากพรรคในเดือนมกราคม มาเป็นตัวอย่างแสดงให้เห็นถึงความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มความเข้มแข็งในการติดตามตรวจตราธุรกิจต่างๆ ของทางครอบครัวเจ้าหน้าที่ ทั้งนี้มีรายงานด้วยว่า โจว เป็นผู้ที่มีความผูกพันใกล้ชิดกับ แจ๊ก หม่า ผู้ก่อตั้งกลุ่มอาลีบาบา

ย้อนกลับไปในเดือนพฤษภาคม 1985 ตอนที่จีนเพิ่งเริ่มต้นเปิดกว้างเศรษฐกิจของตนใหม่ๆ คณะกรรมการกลางของ พคจ. และคณะรัฐมนตรีจีน ได้ออกระเบียบฉบับหนึ่งซึ่งห้ามไม่ให้คู่สมรสและลูกๆ ของพวกเจ้าหน้าที่ระดับอาวุโส ทำธุรกิจเชิงพาณิชย์

อย่างไรก็ดี สำนักข่าวซินหวาของทางการเขียนเอาไว้ในบทวิจารณ์ชิ้นหนึ่งว่า ข้อกำหนดนี้ประสบความล้มเหลวไม่สามารถป้องกันไม่ให้พวกเจ้าหน้าที่ใช้อำนาจของพวกตนไปในทางมิชอบได้ เนื่องจากไม่ได้มีการนำไปปฏิบัติอย่างจริงจัง

แล้วหลังจากเวลาผ่านไป 3 ทศวรรษ คณะกรรมการกลาง พคจ. ตัดสินใจที่จะเพิ่มการบังคับใช้กฎระเบียบนี้อย่างเข้มงวด โดยเปิดโครงการทดลองขึ้นที่นครเซี่ยงไฮ้ ด้วยการกำหนดให้พวกหัวหน้าหน่วยงานรัฐบาลและพวกผู้บริหารของรัฐวิสาหกิจต้องรายงานธุรกิจต่างๆ ของครอบครัวของพวกตน

สื่อทางการของจีนอ้างอิงผลการสำรวจชิ้นหนึ่งที่กระทำกันเมื่อปี 2016 ซึ่งระบุว่ามีหัวหน้าหน่วยงานและผู้บริหารรัฐวิสาหกิจต่างๆ จำนวน 2,133 รายได้รายงานกิจกรรมทางธุรกิจของคู่สมรสของตน, ของลูกๆ ของตนและคู่สมรสของคนเหล่านั้น ปรากฏว่ามีอยู่ 229 รายได้รับคำสั่งให้จำกัดธุรกิจของครอบครัวของพวกเขา ขณะที่ 137 รายได้รับคำสั่งให้ถอนตัวออกจากกิจกรรมเหล่านั้นเลย นอกจากนั้นยังมีเจ้าหน้าที่เหล่านี้ 11 รายถูกโยกย้าย, 10 รายได้รับคำสั่งปลดเกษียณ, 1 รายลาออก, และอีก 3 รายถูกไต่สวนดำเนินคดี
(ดูเพิ่มเติมผลการสำรวจนี้ได้ที่ https://news.sina.com.cn/c/2022-06-20/doc-imizmscu7838144.shtml)

โครงการทดลองทำนองเดียวกันนี้ ยังได้เปิดขึ้นทั้งในกรุงปักกิ่ง (นครที่มีฐานะเทียบเท่ามณฑล), มณฑลกวางตุ้ง, นครฉงชิ่ง (นครที่มีฐานะเทียบเท่ามณฑล), และซินเจียง (เขตปกครองตนเองที่มีฐานะเทียบเท่ามณฑล)

บทวิจารณ์ของซินหัวกล่าวว่า “กรณีการทุจริตคอร์รัปชั่นปกติแล้วสามารถที่จะมองเห็นร่องรอยได้จากการเปิดเผยทรัพย์สินต่างๆ ของพวกญาติใกล้ชิดกับเจ้าหน้าที่” บทวิจารณ์นี้แจกแจงว่า “เป็นเรื่องที่ต้องระแวงสงสัยกันอยู่แล้ว เรื่องที่จะมีใครสักคนสามารถเป็นเจ้าของทรัพย์สินมูลค่ามหึมาได้โดยไม่ได้มีประสบการณ์ใดๆ ในทางธุรกิจ หรือเรื่องที่จะมีใครสักคนสามารถซื้อหาอพาร์ตเมนต์คุณภาพสูงลิบลิ่วในราคาต่ำกว่าตลาด หรือการที่ญาติๆ ของเจ้าหน้าที่บางรายสามารถชนะการประกวดราคาจัดทำโครงการทางด้านโครงสร้างพื้นฐานหรือการประมูลอื่นๆ ได้อย่างง่ายดายอยู่เสมอๆ”

ระยะไม่กี่ปีหลังๆ มานี้ โครงการทดลองเหล่านี้ยังได้ขยายให้ครอบคลุมถึงการรายงานธุรกิจของพ่อแม่ของเจ้าหน้าที่ ตลอดจนพี่น้องและพ่อแม่ของคู่สมรสของเจ้าหน้าที่อีกด้วย ยิ่งกว่านั้น พวกเจ้าหน้าที่ซึ่งต้องการได้รับการเลื่อนตำแหน่ง จะถูกกำหนดให้รายงานเรื่องหุ้นต่างๆ ซึ่งคู่สมรสของพวกเขาและลูกๆ กำลังมีอยู่ในครอบครอง

บนพื้นฐานของประสบการณ์ที่ได้รับจากโครงการทดลองเหล่านี้ สำนักงานกลางของคณะกรรมการกลาง พคจ. ก็ได้ประกาศกฎระเบียบใหม่ออกมาชุดหนึ่งเมื่อวันอาทิตย์ (19 มิ.ย.) ซึ่งมีเนื้อหามุ่งจัดระเบียบเรื่องธุรกิจครอบครัวของพวกเจ้าหน้าที่ในระดับตั้งแต่หัวหน้าหน่วยงานขึ้นไป โดยยึดหลักการว่ายิ่งพวกเขามีตำแหน่งหน้าที่สูงขึ้นไปเท่าใด พวกเขาก็จะต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบที่เข้มงวดยิ่งขึ้นไปเท่านั้น

กฎระเบียบใหม่ชุดนี้ครอบคลุมทั้งธุรกิจเชิงพาณิชย์ อย่างเช่น การลงทุนในบริษัทต่างๆ และการเข้าไปดำเนินการบริษัทต่างๆ, การเข้ารับตำแหน่งระดับอาวุโสในบริษัทเอกชนหรือบริษัทต่างประเทศ, การดำเนินงานกองทุนเพื่อการลงทุนในหลักทรัพย์-เพื่อการลงทุนในภาคเอกชน, และการได้รับค่าธรรมเนียมสำหรับการให้บริการในการเป็นตัวกลางหรือการให้บริการในทางกฎหมาย

ในบทวิจารณ์ชิ้นหนึ่งซึ่งตีพิมพ์ใน เจ่ฟ่างรึเป้า (Jiefang Daily) หนังสือพิมพ์ของคณะกรรมการ พคจ. นครเซี่ยงไฮ้ ฉบับวันจันทร์ (21 มิ.ย.) บอกว่า การปลด โจว เจียนหย่ง ออกจากตำแหน่งเมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว เป็นตัวอย่างที่ดีซึ่งสาธิตให้เห็นความพยายามในการปราบปรามคอร์รัปชั่นของรัฐบาล
(ดูเพิ่มเติมบทวิจารณ์นี้ได้ที่ https://www.jfdaily.com/news/detail?id=500154)

บทวิจารณ์นี้กล่าวว่า มีเจ้าหน้าที่บางรายใช้อำนาจของตนไปในทางมิชอบ และทำมาหากินผ่านบริษัทต่างๆ ของลูกๆ และญาติๆ ของพวกเขา

“กฎระเบียบใหม่นี้ไม่ได้มีความมุ่งหมายที่จะเข้าแทรกแซงสิทธิของบรรดาญาติๆ ของพวกเจ้าหน้าที่ในการเลือกอาชีพของพวกเขาเอง” บทวิจารณ์ชิ้นนี้กล่าว “ในฐานะที่เป็นพลเมือง พวกเขาย่อมมีสิทธิที่จะเลือกอาชีพของพวกเขาและทำธุรกิจต่างๆ ทว่าในเวลาเดียวกันนั้น สิทธิของพวกเขาก็จะต้องถูกจำกัดเช่นกัน ตัวอย่างเช่น ลูกๆ ของพวกเจ้าหน้าที่สามารถทำธุรกิจต่างๆ โดยอาศัยความรู้ความเชี่ยวชาญของพวกเขา แต่ไม่ใช่โดยอาศัยอำนาจของพ่อแม่”

ไป่ อี้อี้ (Bai Yiyi) คอลัมนิสต์คนหนึ่งของ หงเกอฮุ่ย (Honggehui) ซึ่งเป็นเว็บไซต์นิยมลัทธิเหมาเจ๋อตง แสดงความเห็นว่า เป็นเรื่องดีที่เข้มงวดกฎเกณฑ์ในการเฝ้าติดตามธุรกิจครอบครัวของพวกเจ้าหน้าที่ ทว่าเจ้าหน้าที่จำนวนมากยังคงสามารถหาวิธีการลอดข้ามกฎระเบียบเหล่านี้ได้อยู่ดี
(ดูเพิ่มเติมได้ที่ http://m.szhgh.com/show.php?classid=50&id=305666)

ไป่ กล่าวว่า โจวได้อธิบายเอาไว้อย่างแจ่มแจ้งเมื่อเดือนมกราคมในเอกสารหลักฐานว่าด้วยการทุจริตที่เกี่ยวข้องกับบริษัทแอนต์ กรุ๊ป (Ant Group)ในเครืออาลีบาบา โดยที่โจวพูดถึงวิธีที่เขาใช้อำนาจอย่างมิชอบและได้ผลประโยชน์จากพวกบริษัทของน้องชายของเขา ไป่บอกอีกว่ายังมีเจ้าหน้าที่บางรายใช้บริษัทของเพื่อนเป็นที่รับสินบน ขณะที่คนอื่นๆ ใช้วิธีได้รับผลประโยชน์หลังจากเกษียณอายุแล้ว ดังนั้นมันจะมีประสิทธิภาพมากกว่าถ้าหากให้สาธารณชนเป็นผู้เฝ้าติดตามว่าเจ้าหน้าที่เหล่านั้นและญาติๆ ของพวกเขามีการเปิดเผยทรัพย์สินของพวกเขาหรือไม่

เมื่อเดือนสิงหาคมปีที่แล้ว โจว ถูกถอดออกจากตำแหน่งหลังถูกดำเนินการสอบสวนทางวินัย สื่อมวลชนจีนรายงานว่าเขากระตุ้นส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิตอลอย่างแข็งขันมากในช่วงที่ครองตำแหน่งอยู่ในหางโจว รวมทั้งคุยลั่นว่าจะเปลี่ยนหางโจวให้กลายเป็นเมืองใหญ่ที่สุดของจีนในเรื่องเศรษฐกิจดิจิตอล สื่อเหล่านี้บอกว่า ครอบครัวของโจวถูกกล่าวหาว่าเข้าซื้อหุ้นของบริษัทแห่งหนึ่งที่ตั้งสำนักงานอยู่ในหางโจว ตั้งแต่ก่อนที่บริษัทดังกล่าวเสนอขายหุ้นใหม่แก่ประชาชนครั้งแรก (ไอพีโอ) ชื่อของบริษัทแห่งนี้คือ แอนต์กรุ๊ป ในเครืออาลีบาบา นั่นเอง

ในเดือนมกราคมปีนี้ โจวถูกขับออกจากการเป็นสมาชิก พคจ. แล้วจากนั้นก็ถูกจับกุมดำเนินคดีด้วยข้อหาคอร์รัปชั่น นิตยสารรายสัปดาห์ ไชน่าอีโคโนมิกวีกลี่ (China Economic Weekly) ซึ่งอยู่ในเครือของเหรินหมินรึเป้า (ชื่อในภาษาอังกฤษคือ People’s Daily ถือเป็นปากเสียงอย่างเป็นทางการของพรรคคอมมิวนิสต์จีน) ได้วิพากษ์วิจารณ์ โจว ว่า “สมคบคิดกับกลุ่มทุน และสนับสนุนการขยายเงินทุนอย่างไร้ระเบียบ” ขณะที่คอลัมนิสต์ชาวจีนผู้หนึ่งบอกว่า โจว ถูกสอบสวนสืบเนื่องจากการที่เขาให้ความสนับสนุน แอนต์ กรุ๊ป ของ แจ๊ก หม่า
(การวิจารณ์ของไชน่าอีโคโนมิกวีกลี่ ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://baijiahao.baidu.com/s?id=1722984735140029956&wfr=spider&for=pc)
(ข้อเขียนของคอลัมนิสต์ชาวจีน ดูเพิ่มเติมได้ที่ http://m.wyzxwk.com/content.php?classid=28&id=449128)

หลี่ เต้าขุย (Li Daokui) นักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังของจีน ซึ่งเคยเป็นที่ปรึกษาของธนาคารประชาชนแห่งประเทศจีน (People’s Bank of China) หรือแบงก์ชาติแดนมังกร พูดในเวทีประชุมสัมมนาทางออนไลน์แห่งหนึ่งเมื่อวันที่ 3 มิถุนายน ว่า เรื่องที่แผนการทำไอพีโอของ แอนต์ ถูกทางการจีนสั่งให้ยกเลิกไปอย่างกะทันหันในเดือนพฤศจิกายน 2020 นั้นเป็นการตัดสินใจทางการเมือง เนื่องจากพวกผู้นำระดับท็อปของจีนรู้สึกช็อกจากบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นของบริษัท ซึ่งมีผู้เกี่ยวข้องด้วยมากมาย กระทั่งพวกเลขาธิการ พคจ. ระดับเมืองใหญ่บางคนด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น