xs
xsm
sm
md
lg

วิกรมสิงเหยืนยันสถานะ “เศรษฐกิจศรีลังกาล้มละลาย” มีคนเสียชีวิตระหว่างเข้าคิวรอซื้อน้ำมัน เปิดแผนวีซ่า 10 ปีดึงดูดนักลงทุนต่างประเทศ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เอพี/รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - วานนี้ (22 มิ.ย.) นายกรัฐมนตรีศรีลังกา รานิล วิกรมสิงเห แถลงยืนยันสถานะประเทศต่อรัฐสภาโคลัมโบว่า "เศรษฐกิจของศรีลังกาล้มละลายโดยสิ้นเชิง" หลังสภาพการขาดแคลนอาหาร ไฟฟ้าถูกตัดอย่างยาวนาน และประชาชนต้องเข้าคิวนานหลายชั่วโมงเพื่อที่จะซื้อน้ำมันที่ปั๊มจนมีคนเสียชีวิต จับมือร่วมมือกับคนของตระกูลราชปักษา วางแผนใช้วีซ่า 10 ปีดึงดูดนักลงทุนต่างประเทศ 

เอพีรายงานเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.) ว่า นายกรัฐมนตรี รานิล วิกรมสิงเห แถลงยืนยันต่อรัฐสภาศรีลังกาในวันพุธ (22) ว่าประเทศกำลังเผชิญหน้าต่อสถานการณ์ที่เลวร้ายมากกว่าที่คิดไว้และไปไกลกว่าแค่การขาดแคลน

วิกรมสิงเหกล่าวว่า “เศรษฐกิจของเราได้ล้มละลายโดยสิ้นเชิง”

เอพีชี้ว่า ศรีลังกากำลังเผชิญหน้าวิกฤตที่ร้ายแรงมากที่สุดในประวัติศาสตร์ แต่ทว่าในการแถลงเมื่อวานนี้ (22) วิกรมสิงเหไม่ได้เปิดเผยถึงความก้าวหน้าใหม่ๆ ออกมา

เอพีรายงานว่า เศรษฐกิจของศรีลังกาตกอยู่ภายใต้ก้อนหนี้มหาศาล ขาดรายได้จากอุตสากกรรมการท่องเที่ยวเนื่องมาจากวิกฤตโควิด-19 การเพิ่มขึ้นสูงของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ สิ่งเหล่านี้ทำให้ศรีลังกาเดินเข้าสู่สถานะล้มละลายที่ไม่มีเงินตราต่างประเทศเพื่อชำระสินค้านำเข้าจำเป็น น้ำมันเชื้อเพลิง ยารักษาโรค อาหาร หรือแม้กระทั่งกระดาษชำระ

นักการเมืองจาก 2 พรรคฝ่ายค้านหลักศรีลังกาบอยคอตต์การประชุมสภาในสัปดาห์นี้เพื่อประท้วงวิกรมสิงเหโดยเฉพาะ โดยคนเหล่านี้อ้างว่านายกฯ ศรีลังกาซึ่งนั่งควบตำแหน่งรัฐมนตรีการคลังผิดสัญญา ที่ไม่สามารถพลิกฟื้นประเทศกลับมาได้หลังเข้ารับตำแหน่งเมื่อ 1 เดือนก่อนหน้า

เจ้าหน้าที่รัฐศรีลังกาไปทำงานแค่ 4 วันต่อสัปดาห์เป็นเวลา 3 เดือนเพื่อแก้ปัญหาวิกฤตพลังงานเชื้อเพลิงและสามารถใช้เวลาวันหยุด 1 วันเพิ่มเพื่อปลูกผักทำสวนเป็นอาหารให้ครอบครัวในช่วงเวลาเกิดการขาดแคลนอาหารทั้งประเทศกำลังดำเนินอยู่ และวิกฤตเศรษฐกิจร้ายแรงกำลังเริ่มส่งผลกระทบต่อชนชั้นกลางศรีลังกาที่คิดเป็น 15-20% ของประชากรในเมืองใหญ่

เอพีรายงานว่าอัตราเงินเฟ้อสำหรับอาหารอยู่ที่ 57% อ้างอิงจากตัวเลขทางการ

อ้างอิงจาก CNN พบว่ามีชาวศรีลังกาเสียชีวิตระหว่างการเข้าคิวรอซื้อน้ำมันเชื้อเพลิงถึง 11 คนแค่เฉพาะในสัปดาห์นี้ การเสียชีวิตระหว่างการรอซื่้อน้ำมันที่หน้าปั๊มที่กำลังกลายเป็นเรื่องปกติ อ้างอิงจากสื่อ newsfirst พบว่ามาจนถึงวันที่ 11 เม.ย.ศรีลังกาเห็นการตายประเภทนีั้ถึง 5 คนแล้ว และรายงานล่าสุดวันนี้ (23) จากแม็กกาซีน เดอะ วีกของอินเดียระบุว่า คนขับรถบรรทุกศรีลังกาวัย 63 ปีเสียชีวิตในวันพฤหัสบดี (23) หลังจากเขายืนรอซื้อน้ำมันนาน 5 วันเต็ม สื่ออินเดียชี้ว่าตัวเลขการเสียชีวิตทั้งหมดอยู่ที่ 10 ราย และเหยื่อทั้งหมดเป็นชายอายุระหว่าง 48-84 ปี โดยต้นเหตุการเสียชีวิตส่วนใหญ่มาจากหัวใจล้มเหลว ซึ่งสัปดาห์ที่แล้วมีผู้เสียชีวิตวัย 53 ปีเกิดหัวใจล้มเหลวระหว่างเข้าคิวนานหลายชั่วโมง

ทั้งนี้ ศรีลังกาได้รับการช่วยเหลือทางเศรษฐกิจในรูปแบบเครดิตจำนวน 4 พันล้านดอลลาร์จากอินเดียประเทศเพื่อนบ้าน แต่ผู้นำศรีลังกายอมรับว่า อินเดียไม่สามารถช่วยเหลือศรีลังกาได้ตลอดไป

ศรีลังกาที่ตกอยู่ในสถานะผิดนัดชำระหนี้ต่างประเทศประกาศระงับการจ่ายหนี้ต่างประเทศจำนวน 7 พันล้านดอลลาร์ที่จะครบภายในปีนี้

นอกจากนี้ ศรีลังกายังได้รับการเสนอความช่วยเหลือจากเวิลด์แบงก์อีกราว 300-600 ล้านดอลลาร์เพื่อซื้อสิ่งจำเป็นและยาจากต่างประเทศ วิกรมสิงเหแถลงในวันพุธ (22) ว่า การได้รับความช่วยเหลือจากสถาบันการเงินโลก IMF เป็นหนทางเดียวที่จะช่วยเหลือศรีลังกาไว้ได้

รอยเตอร์รายงานเมื่อต้นเดือนมิถุนายนว่า ทางศรีลังกาต้องการได้เงินกู้จำนวน 5 พันดอลลาร์จาก IMF เพื่อใช้จ่ายหนี้เชื้อเพลิงและสิ่งจำเป็นต่างๆ ที่ได้รับในรูปเครดิตล่วงหน้า และอีก 1 พันล้านดอลลาร์สำหรับทุนสำรองสกุลเงินระหว่างประเทศ

ทุนสำรองสกุลเงินระหว่างประเทศศรีลังกาล่าสุดเมษายนมีอยู่ราว 1.81 พันล้านดอลลาร์เท่านั้น

เจ้าหน้าที่ IMF เดินทางมาถึงศรีลังกาในวันจันทร์ (20) เพื่อหารือและมีการคาดว่า การเจรจาระดับเจ้าหน้าที่จะสามารถบรรลุได้ภายในสิ้นเดือนกรกฎาคม

และในการประชุมรัฐสภาศรีลังกาวันพุธ (22) เจ้าพ่อกาสิโนศรีลังกา ธรรมมิกะ เปเรรา (Dhammika Perera) วัย 54 ปี ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้จงรักภักดีต่อตระกูลราชปักษา และครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นไม้เบื่อไม้เมากับวิกรมสิงเห ได้ออกมาเปิดเผยแผนการพลิกฟื้นเศรษฐกิจประเทศให้กลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง

CNA สื่อสิงคโปร์รายงานว่า เปเรราจะอยู่ร่วมในทีมรัฐบาลเพื่อแก้วิกฤตเศรษฐกิจร่วมกับวิกรมสิงเห โดยเมื่อวานนี้ (22) กลายเป็นภาพประวัติศาสตร์ของการจับมือร่วมกันระหว่างนายกฯ ศรีลังกา ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นนักการเมืองที่มีคนให้ความเชื่อถือมากที่สุด และเปเรราที่ครั้งหนึ่งเคยถูกวิกรมสิงเห กล่าวว่า เป็น 1 ใน 4 ของนักธุรกิจศรีลังกาที่คอร์รัปชันมากที่สุดในประเทศ

เปเรราซึ่งเข้าสาบานตนรับตำแหน่งต่อหน้าประธานรัฐสภาได้เปิดเผยแผนการพลิกฟื้นว่า เขาจะสามารถทำให้รายได้เฉลี่ยต่อบุคคล (Per Capita Income) ของศรีลังกาสูงขึ้นกว่า 3 เท่า ไปอยู่ที่ 12,000 ดอลลาร์ซึ่งสูงกว่าตัวเลขของจีนเสียอีก

เขาได้เสนอแผนการเพื่อแก้วิกฤตขาดทุนสำรองระหว่างประเทศด้วยการเสนอวีซ่า 10 ปี ให้ชาวต่างชาติที่มีเงินฝากในธนาคารภายในศรีลังกาจำนวนไม่ต่ำกว่า 100,000 ดอลลาร์ ซึ่งแผนนี้ได้นำออกมาใช้มาตั้งแต่เมษายน


กำลังโหลดความคิดเห็น