xs
xsm
sm
md
lg

จับตา ‘กษัตริย์วิลเลียม’ แห่งอนาคต ทรงครบ 40 พรรษา แต่พระอิทธิพลเติบใหญ่ไปล่วงหน้าแล้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


โลกเฝ้ามองเจ้าชายวิลเลียม รัชทายาทหมายเลข 2 ของสถาบันกษัตริย์อังกฤษเจริญพระชนม์ชีพ จากหนุ่มน้อยนักเรียนนักศึกษาสุภาพหล่อเหลาชนะขาดซุปต้าร์ทุกวงการ สู่หนุ่มใหญ่นักบินเฮลิคอปเตอร์ฉุกเฉินผู้ปราดเปรียวมาดเท่เปี่ยมความมั่นใจ และสู่องครักษ์พิทักษ์ควีนพร้อมกับเป็นพระสวามีอุดมคติที่รักษาเสื้อผ้าหน้าหุ่นสุดเซ็กซี่กับหัวใจซื่อสัตย์ต่อพระชายา อีกทั้งยังเป็นคุณพ่อบ้านผู้ทุ่มเทให้แก่พระโอรสและพระธิดา  คุณลักษณ์ดีงามเหล่านี้ปลูกสร้างความนิยมชมชอบให้เติบใหญ่ในดวงใจมวลมหาพสกนิกร  ส่งผลให้อิทธิพลและอำนาจของดยุกแห่งเคมบริดจ์ท่านนี้ขยายตัวกว้างขวางมั่นคง กระทั่งว่าทรงเป็นศูนย์กลางของพระราชตระกูลเรียบร้อยแล้ว ขณะที่พระองค์ก็ทรงเตรียมการก้าวสู่ราชบังลังก์ต่อคิวพระบิดาผู้ทรงประคับประคองและส่งเสริมพระองค์มาตลอดสี่ทศวรรษ
เจ้าชายวิลเลียม รัชทายาทลำดับที่ 2 แห่งราชบัลลังก์อังกฤษ ทรงก้าวสู่หลักไมล์แห่งพระชันษาครบ 40 รอบในวันที่ 21 มิถุนายน 2022 วันวารซึ่งพสกนิกรได้เห็นกันกระจ่างชัดว่ากษัตริย์ในอนาคตพระองค์นี้ของสหราชอาณาจักรทรงมีพระอิทธิพลและอำนาจต่อราชตระกูลวินด์เซอร์อย่างมหาศาลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และทรงทยอยขีดเส้นทางสู่ความเป็นกษัตริย์วิลเลียมในสไตล์เฉพาะพระองค์ โดยอยู่ตรงกลางระหว่างการรักษาพระราชประเพณีและการเติบใหญ่ในโลกสมัยใหม่ เอเอฟพีตั้งประเด็นนี้ไว้

โมเดลเฉพาะพระองค์ที่ปรินซ์วิลเลียมทรงพัฒนาขึ้นร่วมกับพระชายา ดัชเชสแคเธอรีนแห่งเคมบริดจ์ ได้กระแสตอบรับยอดเยี่ยมจากพสกนิกร โดยเห็นได้จากผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อพระราชวงศ์ในเดือนมกราคมที่ผ่านมา อันเป็นห้วงที่ดัชเชสเคททรงฉลองเบิร์ดเดย์ นั้น นอกจากที่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ทรงได้รับความนิยมมหาศาลสูงสุดจากประชาชนแล้ว ก็มีเจ้าชายวิลเลียมกับดัชเชสเคทที่ทรงได้รับคะแนนนิยมมหาศาลเป็นลำดับที่ 2 และ 3

สื่อหัวสีทั้งหลายในอังกฤษชื่นชมความรักดั่งเทพนิยายแห่งศตวรรษที่ 21 ระหว่างเจ้าชายวิลเลียมและดัชเชสเคทแห่งเคมบริดจ์ ซึ่งไม่ใช่เรื่องเหนือความคาดหมาย เพราะทั้งสองพระองค์ทรงถูกส่งให้มาเกิดเพื่อกันและกัน นอกจากจะทรงสวยสมกัน ระดับกิ่งทองใบหยก ยังทรงเติมเต็มให้แก่กันและกัน อีกทั้งยังยอมสละตัวตนบางส่วนเพื่อประคองให้ชีวิตสมรสดำเนินไปอย่างปกติสุข ทั้งสองพระองค์ทรงวางแผนชีวิตร่วมกัน ทรงขับเคลื่อนครอบครัวร่วมกัน ทรงพระดำเนินตามพระราชประเพณีอย่างชิลๆ โดยรักษาสไตล์เก๋กู๊ดส่วนพระองค์ได้อย่างนุ่มนวล ทรงไม่สร้างปัญหาที่จะระคายพระทัยพระบิดาและพระเจ้าอัยยิกา อีกทั้งยังเต็มไปด้วยเรื่องดีๆ ให้ประชาชนได้ชื่นใจ เส้นทางแห่งพระชนม์ชีพร่วมกันนั้น “ดีเกินกว่าจะเป็นจริง หรือเปล่า” สมดั่งชื่อของภาพยนตร์สารคดีว่า William and Kate: Too Good To Be True? (ชมเรื่องนี้ได้ทาง YouTube)  แน่นอนว่าเสน่ห์แห่งความเป็นพระสวามีผู้ซื่อสัตย์เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้เจ้าชายวิลเลียมเป็นไอดอลที่ประชาชนมากมายรักใคร่หลงใหล
อิทธิพล-อำนาจของปรินซ์วิลเลียมรองรับด้วยความป๊อบปูลาร์จากพระจริยวัตรหล่อเท่ ไลฟ์สไตล์เก๋กู๊ด

ปรินซ์วิลเลียมทรงเป็นสมาชิกราชตระกูลอังกฤษที่ป๊อบปูลาร์เบอร์สองรองจากสมเด็จพระราชินีนาถฯ ด้วยเรตติ้งที่ประชาชนให้การรับรองสูงถึง 66% และดัชเชสเคททรงได้เรตติ้งรับรอง 60% ตามผลสำรวจของบริษัทยูกอฟ (YouGov) ขาใหญ่ด้านวิจัยตลาดและวิเคราะห์ข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตซึ่งดำเนินงานในหลากหลากภูมิภาคของโลก

กระแสนิยมดังกล่าวเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งยวด ในเมื่อเจ้าชายวิลเลียมและพระบิดาคือเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ จะต้องรับมอบพระราชกิจช่วยเหลือสนับสนุนสมเด็จพระราชินีนาถฯ มากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะเดียวกัน เจ้าชายวิลเลียมยังต้องต่อยอดพระเอกลักษณ์ที่ทรงพัฒนาไว้ภายในเส้นทางสู่พระภารกิจกษัตริย์ในอนาคตด้วย นักวิเคราะห์ราชวงศ์ ริชาร์ด ฟิตซ์วิลเลียมส์ ให้ความเห็นไว้กับเอเอฟพี

ความป๊อบปูลาร์ที่เจ้าชายวิลเลียมทรงได้รับจากประชาชนมากมายมหาศาลกว่าพระบิดา กระทั่งว่ามีผู้คนไม่น้อยอยากจะเห็นปรินซ์วิลเลียมได้ขึ้นเป็นประมุขของประเทศโดยทันทีที่พระเจ้าอัยยิกาเสด็จสวรรคต

ความเป็นพระบิดาผู้อบอุ่นช่างดูแล คือเสน่ห์สำคัญที่ทำให้ประชาชนรู้สึกว่าเจ้าชายวิลเลียมน่านิยมชมชอบ คุณลักษณ์ประการนี้เป็นของจริงที่ผู้คนได้พบเห็นอย่างเจนตา ในภาพนี้ ครอบครัวเคมบริดจ์ทรงพาพระโอรสและพระธิดาเสด็จไปพักผ่อนที่ประเทศจอร์แดน เมื่อช่วงฤดูใบไม้ร่วง ปี 2021  อันที่จริง ภาพนี้เป็นช็อตหลุดที่ช่างภาพจับไว้ได้อย่างฉับไว และถูกเก็บในอัลบั้มครอบครัว ซึ่งเจ้าชายวิลเลียมทรงเลือกภาพนี้มาอวยพรวันพ่อในปีนี้ อนึ่ง จอร์แดนเป็นแผ่นดินที่พระมารดาเคทมีความทรงจำดีๆ มากมาย เพราะคุณพ่อของดัชเชสเคทต้องนำครอบครัวไปอยู่ที่จอร์แดนเนื่องจากถูกส่งไปปฏิบัติงานสายการบินบริติชแอร์เวย์ที่นั่น 2 ปี
นับจากที่สมเด็จพระราชินีนาถฯ ผู้ทรงเจริญพระชนมายุ 96 ชันษา ทรงลดพระราชกรณียกิจลงด้วยเหตุจากพระพลานามัย เจ้าชายวิลเลียม รัชทายาทลำดับที่ 2 ทรงได้รับมอบหมายให้แสดงบทบาทมากขึ้นโดยหนุนเนื่องไปกับปรินซ์แห่งเวลส์ผู้เป็นพระบิดา ในเวลาเดียวกันความเป็นผู้ทรงอิทธิพลของปรินซ์พระองค์นี้ก็เพิ่มทวีอย่างต่อเนื่อง เอเอฟพีระบุอย่างนั้น

ในการรัฐพิธีเปิดประชุมรัฐสภา เมื่อ 10 พฤษภาคม 2022 ควีนเอลิซาเบธที่ 2 ยังทรงไม่สะดวกในการก้าวเดินและจึงทรงงดเว้นพระราชกรณียกิจครั้งสำคัญนี้ตามคำกราบบังคมทูลของคณะแพทย์ พระองค์ทรงมอบหมายอย่างเป็นทางการให้เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ รัชทายาทลำดับที่ 1 เป็นผู้แทนพระองค์ เสด็จไปประกอบรัฐพิธีเปิดประชุม ในการนี้ เจ้าชายวิลเลียม ดยุกแห่งเคมบริดจ์ ทรงได้ตามเสด็จพระบิดา โดยมีดัชเชสคามิลลา พระชายาของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ตามเสด็จด้วยอีกเพียงหนึ่งพระองค์

ทั้งนี้ พระราชกิจนี้เป็นอะไรที่เอกซ์คลูซีฟสำหรับรัชทายาทหมายเลขหนึ่ง กับว่าที่ควีนคู่ราชบัลลังก์ (Queen Consort) แต่น่าจะมอบหมายรัชทายาทลำดับสองเข้าร่วมด้วย เพื่อผลดีในการช่วยโปรโมทความรู้สึกชื่นใจในหมู่พสกนิกร

เจ้าชายวิลเลียมทรงพาพระชายา ดัชเชสเคท พร้อมพระโอรสแบเบาะพระชันษา 1 วัน เจ้าชายจอร์จ ออกทักทายประชาชนและสื่อมวลชน ด้านหน้าโรงพยาบาลเซนต์แมรี กรุงลอนดอน เมื่อ 23 กรกฎาคม 2013  เจ้าชายวิลเลียมในพระรูปนี้ทรงอยู่ในวัย 31 พรรษา แต่พระรูปพระโฉมยังหล่อเหลา พระกายสูงใหญ่ไหล่กว้าง แข็งแกร่ง ดูดีมีความเซ็กซี่ ทรงเป็นเจ้าชายคุณพ่อบ้านในอุดมคติ  ทั้งนี้ รูปลักษณ์และไลฟ์สไตล์เป็นส่วนหนึ่งขององค์ประกอบสำคัญที่สร้างคะแนนนิยมได้อย่างมากมาย

เจ้าชายวิลเลียม รัชทายาทลำดับที่สอง ทรงได้รับมอบให้ตามเสด็จพระบิดา เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ รัชทายาทเบอร์หนึ่ง ไปร่วมพิธีเปิดประชุมรัฐสภาในวันอังคารที่ 10 พฤษภาคม 2022  ขณะที่เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ประทับบนพระบัลลังก์ซึ่งเจ้าชายฟิลิปพระสวามีแห่งควีนเอลิซาเบธที่ 2 ทรงเคยประทับเมื่อยังทรงมีพระชนม์ชีพ เจ้าชายวิลเลียมทรงประทับที่ด้านข้างของพระแท่นวางมงกุฎอิมพีเรียลสเตท อันเป็นเครื่องบ่งชี้ถึงความเป็นประมุขแห่สหราชอาณาจักร ซึ่งถูกอัญเชิญมาประทับแทนที่พระราชบัลลังก์ของสมเด็จพระราชินีนาถฯ
เป็นศูนย์กลางของพระราชวงศ์ ร่วมกำหนดนโยบาย อาทิ ตัดชื่อ ‘เจ้าชายแอนดรูว์’ ให้พ้นพระราชพิธี

การตัดสินพระทัยร่วมกันของพระราชตระกูลเป็นหนึ่งในราชประเพณีอังกฤษปัจจุบัน โดยที่ว่าเมื่อดยุกแห่งเคมบริดจ์ รัชทายาทลำดับที่สอง ทรงเติบโตเปี่ยมด้วยวุฒิภาวะ พระองค์ทรงมีบทบาทอย่างมากในการกำหนดนโยบายสำคัญทั้งปวง

ในการนี้เอเอฟพีรายงานโดยยกตัวอย่างอันโดดเด่น คือ กรณีที่สื่อมวลชนรายงานข่าวว่าเจ้าชายวิลเลียมทรงยับยั้งอย่างสุดความสามารถ เพื่อไม่ให้เสด็จอา-พระราชโอรสแห่งควีนอังกฤษ ได้แก่ เจ้าชายแอนดรูว์ (ผู้ทรงอื้อฉาวในคดีล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กหญิงวัยต่ำกว่า 18 ปี) ได้รับอนุญาตให้เข้าร่วมพระราชกิจที่จะไปประจักษ์ต่อสายตาของประชาชน อันได้แก่ พิธีแห่อันยิ่งใหญ่อลังการแห่งพระราชพิธีเฉลิมฉลองวันการ์เตอร์ เมื่อช่วงบ่ายวันจันทร์ที่ 13 มิถุนายน 2022 ซึ่งมีการถ่ายทอดออกอากาศทั่วประเทศ

ก่อนวันฉลองการ์เตอร์ เดย์ สื่อหัวสีเจ้าดังทั้งปวงของอังกฤษรายงานว่าพระนามของเจ้าชายแอนดรูว์ปรากฏในรายพระนามผู้เข้าร่วมพระราชพิธีแห่เฉลิมฉลอง ซึ่งมีขึ้นหลังพระราชพิธีพระราชทานเหรียญตราการ์เตอร์ พร้อมกับรายงานว่า พระนามของเจ้าชายแอนดรูว์ถูกตัดออกบัญชีรายชื่อแบบว่าแทบจะนาทีท้ายๆ หลังจากที่เจ้าชายวิลเลียม ดยุกแห่งเคมบริดจ์ ทรงเข้าเฝ้าสมเด็จพระราชินีนาถฯ และคัดค้านที่เสด็จอาแอนดรูว์จะได้ปรากฏพระองค์ในพระราชพิธี

การกราบทูลคัดค้านนี้เด็ดเดี่ยวระดับที่รายงานข่าวกันว่า เจ้าชายวิลเลียมกราบทูลควีนเอลิซาเบธที่ 2 “หากมีเสด็จอา จะไม่มีหม่อมฉัน” เพราะพระองค์จะทรงถอนตัวจากพระราชพิธีอย่างแน่นอน

ความพยายามของเจ้าชายรัชทายาทลำดับที่สองประสบความสำเร็จ สมเด็จพระราชินีนาถฯ ทรงอนุมัติตามคำกราบทูลโดยเป็นไปตามการตัดสินพระทัยของพระราชตระกูล สื่ออังกฤษรายงานตรงกันอย่างนั้น

ทั้งนี้ สมาชิกแห่งพระราชวงศ์วินด์เซอร์ต่างตระหนักถึงความรู้สึกโกรธเคืองที่ประชาชนมีต่อเจ้าชายแอนดรูว์ ที่ทรงสนิทสนมใกล้ชิดกับเจฟฟรีย์ เอปสทีน ผู้กระทำความผิดด้านค้ามนุษย์บำเรอกาม ตลอดจนการพัวพันในคดีล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กหญิงวัยต่ำกว่า 17 ปี ซึ่งเจ้าชายแอนดรูว์ทรงไม่สามารถเคลียร์พระองค์ออกจากความหมองมัว ดังนั้น ตลอดที่ผ่านมา เจ้าชายแอนดรูว์ทรงต้องงดเว้นจากพระราชกิจทั้งปวง

อย่างไรก็ตาม ในเดือนมีนาคม 2022 เจ้าชายแอนดรูว์ทรงตีเนียน ตามเสด็จควีนเอลิซาเบธ เข้าสู่กล้องนักข่าวหนึ่งครั้งในพระราชพิธีรำลึกถึงเจ้าชายฟิลิป พระบิดาผู้ทรงล่วงลับเสด็จสู่สวรรคาลัยครบรอบหนึ่งปี

ด้วยเหตุนี้ จึงเป็นที่เข้าใจได้ไม่ยากว่า การเข้าร่วมพระราชพิธีเฉลิมฉลองอัศวินและเลดี้แห่งการ์เตอร์ คือช่องทางหวนกลับสู่เวทีสาธารณะพร้อมหน้ากับพระราชวงศ์ ซึ่งจะสร้างแรงกดดันเข้าเล่นงานสถาบันกษัตริย์โดยไม่จำเป็น ทั้งนี้ สมาชิกแห่งราชตระกูลต่างตระหนักดีว่าผู้ที่จะทรงป้องกันปัญหาได้ ก็ต้องเป็นเจ้าชายวิลเลียม พระราชนัดดาที่สมเด็จพระราชินีนาถฯ ทรงรักและไว้วางพระทัยอย่างที่สุด

เจ้าชายแอนดรูว์ในปี 2001 เมื่อครั้งที่ยังทรงพระยศเป็นเจ้าฟ้าชายแอนดรูว์ ในภาพนี้ ทรงฉายร่วมกับเวอร์จิเนีย โรเบิร์ตส์ ผู้ซึ่งยื่นฟ้องร้องดำเนินคดีพระองค์ในเดือนสิงหาคม 2021 ในข้อหาล่วงละเมิดทางเพศเธอ ขณะที่เธอยังเป็นผู้เยาว์ซึ่งมีอายุเพียง 17 ปี ภาพนี้เป็นภาพที่เผยแพร่ด้วยกันกับเอกสารการฟ้องต่อศาลในสหรัฐอเมริกา
ทรงดำเนินพระราชกิจเข้มแข็ง และเป็นเจ้าชายขวัญใจประชาชน ผู้ซื่อสัตย์ต่อพระชายา & คุณพ่อผู้อบอุ่น

ความเป็น “ว่าที่ประมุขในอนาคต” แห่งสหราชอาณาจักรของเจ้าชายวิลเลียม ได้รับการตอกย้ำด้วยพระราชกิจการเสด็จออกสีหบัญชร พระราชวังบัคกิงแฮม พร้อมสมเด็จพระราชินีนาถฯ และเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ณ วันสุดท้ายของซีรีส์การเฉลิมฉลองควีนอังกฤษทรงครองสิริราชสมบัติครบรอบ 70 ปี เมื่อวันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน 2022 โดยการเสด็จออกสีหบัญชรดังกล่าวจำกัดบทบาทให้เฉพาะ 3 พระองค์เท่านั้น ได้แก่ สมเด็จพระราชินีนาถฯ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์พร้อมพระชายา กับเจ้าชายวิลเลียมพร้อมพระชายาและพระโอรสพระธิดา ผู้เชี่ยวชาญราชวงศ์อังกฤษ นาม ฟิตซ์วิลเลียมส์ ชี้ประเด็นนี้ไว้กับเอเอฟพี

หนึ่งในปัจจัยความสำเร็จซึ่งเสริมสร้างความป๊อบปูลาร์ให้แก่เจ้าชายวิลเลียม คือ ภาพลักษณ์คุณพ่อบ้านน่ารักและอบอุ่นผู้ซื่อสัตย์ต่อพระชายาและอุทิศตนแก่ครอบครัว

ดยุกแห่งเคมบริดจ์ทรงถอนพระองค์จากบทบาทนักบินเฮลิคอปเตอร์ฉุกเฉินอันเป็นพระภารกิจที่ทรงโปรดปรานอย่างที่สุด เพื่อที่จะทรงสามารถจัดสรรเวลาเพื่อครอบครัวได้สมบูรณ์ ตั้งแต่เมื่อค.ศ. 2017

ในหลายหลากปีที่ผ่านมา ทรงเปิดเผยภาพถ่ายครอบครัวมากขึ้นตามลำดับ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในปีนี้ที่ทรงมีพระราชกิจมากมายเกี่ยวข้องกับพระราชพิธีแพลตตินัม จูบิลี การเฉลิมฉลองสิริราชสมบัติครบรอบ 70 ปีของควีนเอลิซาเบธที่ 2 นั้น ประชาชนได้ชื่นชมภาพแห่งความใส่ใจอาทรพระโอรสและพระธิดาแบบเรียบง่ายแต่พาให้ดวงใจพสกนิกรละลายในสายใยพ่อ-ลูก

อาทิ บนที่ประทับนั่งชมขบวนพาเหรดแพลตตินัม จูบิลี ของประชาชนเมื่อวันสุดท้ายของซีรีส์การเฉลิมฉลองแพลตตินัม จูบิลี วันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน 2022 เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ทรงกรรแสงช่วงหนึ่งสั้นๆ เจ้าชายวิลเลียมทรงโอ๋ปลอบขวัญพระธิดาได้อย่างอบอุ่นน่าชื่นชม

นอกจากนั้น ในคราวการเสด็จเยือนเมืองคาร์ดิฟฟ์ในเวลส์ เมื่อวันที่สามของซีรีส์การเฉลิมฉลอง เพื่อเข้าร่วมใกล้ชิดกับกิจกรรมของประชาชน นั้น เจ้าชายวิลเลียมทรงดูแลเจ้าชายจอร์จ พระโอรสองค์โต ได้เป็นอย่างดี สองพ่อลูกทรงฉลองพระองค์คอนเซ็ปต์เดียวกัน ทรงเดินจูงพระหัตถ์กันอย่างอบอุ่นเป็นธรรมชาติ และแม้ในเวลาที่มิได้จูงพระหัตถ์ ก็จะแตะหลังแตะไหล่ของพระโอรสวัย 8 พรรษาเป็นกำลังและปกป้องให้มั่นใจ



เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ทรงกรรแสงเล็กๆ และเจ้าชายวิลเลียมทรงปลอบพระทัยอย่างอ่อนโยน หลังจากนั้นเพียงพักเดียว เจ้าหญิงพระองค์น้อยก็ทรงยิ้มออก ทั้งนี้เป็นเหตุการณ์ในช่วงหนึ่งของการชมขบวนแห่แพลตตินัมจูบิลีที่ประชาชนจัดมาร่วมมหกรรมเฉลิมฉลองสมเด็จพระราชินีนาถฯ ทรงครองราชย์ครบรอบ 70 ปี ในวันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน ด้านนอกพระราชวังบัคกิ้งแฮม กรุงลอนดอน

บรรยากาศอบอุ่นของพระบิดากับพระโอรส โดยเจ้าชายวิลเลียมทรงช่วยเจ้าชายจอร์จสนทนากับประชาชนผู้มารอถวายพระพรในระหว่างการเยือนเมืองคาร์ดิฟฟ์ แคว้นเวลส์ เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2022  ทั้งนี้ ครอบครัวเคมบริดจ์ทรงเข้าร่วมกิจกรรมที่ชาวเมืองจัดฉลองให้แก่การครบรอบ 70 ปีแพลตตินัม จูบิลีของสมเด็จพระราชินีนาถฯ  ภาพนี้แสดงให้เห็นความใส่ใจดูแลพระโอรส โดยเจ้าชายวิลเลียมจะแตะหลังแตะไหล่ของพระโอรส ให้กำลังใจและให้การปกป้องสม่ำเสมอ

เจ้าชายวิลเลียมกับเจ้าชายจอร์จพระโอรสมักที่จะทรงพระภูษาเป็นคอนเซ็ปต์เดียวกัน ในภาพนี้จะเห็นได้ว่าพระบิดากับพระโอรสทรงรองพระบาทสีเดียวกันและแบบเดียวกันเปี๊ยบ  การออกงานพระราชกิจเป็นสิ่งที่เจ้านายเล็กๆ ทุกพระองค์จะถูกฝึกให้ได้รู้จักและใกล้ชิดกับประชาชน แม้จะต้องเหน็ดเหนื่อยเพราะสภาพอากาศหรือเพราะช่วงเวลาที่ต้องเดินบ้างยืนบ้างกันยาวนานหลายชั่วโมง  ในพระราชกิจนี้ที่ปรากฏในสื่อสังคม มีการแสดงความเห็นวิจารณ์ว่าเจ้าชายจอร์จและเจ้าหญิงชาร์ลอตต์ยังทรงพระเยาว์เกินไปที่จะพาออกงานระดับนี้ แต่ก็มีผู้สันทัดกรณีให้ข้อมูลตอบไปว่าพระราชกิจเหล่านี้จะฝึกให้ทรงอดทนอดกลั้นซึ่งเป็นคุณลักษณ์สำคัญสำหรับสมาชิกแห่งขัตติยวงศ์
นอกจากนั้น รายงานข่าวหลายสำนักบอกว่าเจ้าชายวิลเลียมทรงมีกำหนดการจะย้ายออกจาก อพาร์ตเมนต์ 1A พระราชวังเคนซิงตัน ซึ่งประทับเป็นพระตำหนักในกรุงลอนดอนมาตั้งแต่ปี 2013 หลังการสิ้นพระชนม์ของเจ้าหญิงมาร์กาเรต พระกนิษฐาหนึ่งเดียวของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 โดยอพาร์ตเมนต์นี้มีขนาดใหญ่โตประกอบด้วยห้องใช้สอยต่างๆ 20 ห้องภายในอาคาร 4 ชั้น ขณะที่พระตำหนักซึ่งจะทรงเสด็จไปประทับนั้น อยู่ในเขตพระราชฐานวินด์เซอร์ อันเป็นพระที่นั่งของสมเด็จพระราชินีนาถฯ โดยพระตำหนักนี้มีขนาดกะทัดรัดเรียบง่าย ด้วยโครงสร้าง 4 ห้องนอนเท่านั้น อันเป็นสไตล์ของครอบครัวสมัยใหม่ที่ดูแลกันและกันใกล้ชิดอบอุ่น

การที่จะทรงย้ายครอบครัวไปประทับยังพระตำหนักดังกล่าวนี้ จะเอื้อให้เจ้าชายวิลเลียมได้ทรงใกล้ชิดควีนเอลิซาเบธที่ 2 มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีความสะดวกที่จะพาพระโอรสพระธิดาพระองค์น้อยไปมอบความชื่นใจแด่สมเด็จทวดได้บ่อยๆ ยิ่งกว่านั้น ยังจะช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้แก่บทบาทของพระองค์ ณ วงในขั้นสุดของพระราชตระกูล บรรดาผู้สัดทัดกรณีในแวดวงสถาบันกษัตริย์อังกฤษฟันธงไว้อย่างนั้น

แต่ที่สำคัญและน่าจับตายิ่งยวด คือ ข้อสังเกตที่ว่าเจ้าชายแอนดรูว์ เสด็จอาผู้มักจะนำปัญหาเข้ากระหน่ำสถาบันกษัตริย์ด้วยเรื่องอื้อฉาวทางการเงินและเรื่องอื้อฉาวการล่วงละเมิดทางเพศ นั้น ทรงพำนักภายในพระราชฐานวินด์เซอร์ โดยทรงครอบครองพระตำหนัก Royal Lodge อันหรูหราโอฬาร ซึ่งเคยเป็นพระตำหนักของพระราชินีเอลิซาเบธ พระราชมารดา หรือ ควีนมัม ของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 จวบจนสิ้นพระชนม์ในปี 2002

ทั้งนี้ พระตำหนัก Royal Lodge อยู่ใกล้ตัวปราสาทวินเซอร์ในระยะแค่ 5.1 กิโลเมตรเท่านั้น

ดังนั้น การที่เจ้าชายวิลเลียมทรงประทับใกล้ชิดสมเด็จพระอัยยิกา ย่อมจะเอื้อแก่การป้องกันปัญหาได้อย่างทรงประสิทธิภาพ

ควีนเอลิซาเบธที่ 2 เสด็จเยือนฐานทัพอากาศของกองทัพอากาศอังกฤษบนเกาะแองเกิลซีในเวลส์ ซึ่งเจ้าชายวิลเลียม พระราชนัดดาพระองค์โปรดทรงประจำการในตำแหน่งนักบินเฮลิคอปเตอร์ค้นหาและช่วยเหลือฉุกเฉิน เมื่อ 1 เมษายน 2011 ในภาพนี้ เจ้าชายวิลเลียมถวายการต้อนรับและทรงพาชมสถานที่อย่างภาคภูมิพระทัย

ควีนเอลิซาเบธที่ 2 พร้อมด้วยเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ รัชทายาทลำดับที่ 1 และเจ้าชายวิลเลียม รัชทายาทลำดับที่ 2 ทรงฉายพระรูปด้วยกันที่พระตำหนักคลาเรนซ์ เฮาส์ กรุงลอนดอน เมื่อ 2 มิถุนายน 2003  ผู้สันทัดกรณีข้อมูลราชตระกูลวินด์เซอร์มีความเห็นตรงกันว่าราชนิกูลสองพระองค์นี้เป็นแก้วตาดวงใจที่ควีนทรงรักอย่างที่สุด
เป็นพระสวามีและพระบิดาสมบูรณ์แบบ เพราะทรงประสบทุกข์สาหัส “บ้านแตก” เมื่อยังทรงพระเยาว์

ผู้เชี่ยวชาญข้อมูลราชสำนักทั้งปวงบอกว่าขณะที่เจ้าชายวิลเลียมทรงทุ่มเทกับพระราชกิจต่างๆ ภายใต้ความรับผิดชอบ พระองค์ก็ทรงมุ่งมั่นที่จะมีชีวิตปกติสุขกับพระโอรสและพระธิดาทั้งสาม ได้แก่ เจ้าชายจอร์จ 8 พรรษา เจ้าหญิงชาร์ลอตต์ 7 พรรษา และเจ้าชายหลุยส์ 4 พรรษา เพราะทรงได้แรงบันดาลใจส่วนหนึ่งจากประสบการณ์ตรงเมื่อครั้งที่ยังทรงพระเยาว์ กล่าวคือพระบิดาและพระมารดาทรงแยกทางกันอย่างเป็นทางการ ก่อนจะลงเอยด้วยการหย่าร้าง ตามด้วยมรณกรรมของพระมารดาจากอุบัติเหตุรถยนต์ในปี 1997 เมื่อเจ้าชายยังมีพระชนม์เพียง 15 พรรษา

ด้วยอิทธิพลที่เจ้าหญิงไดอานาปลูกฝังไว้ตั้งแต่ที่เจ้าชายวิลเลียมยังทรงทารก จรดจนเจริญพระชันษาขึ้นมาสู่วัยทีนเอจ เจ้าชายทรงเลือกพระไลฟ์สไตล์แบบทันสมัย ทรงเข้ารับการศึกษาในมหาวิทยาลัยซึ่งมากมายด้วยพระสหายสามัญชน อีกทั้งยังใช้ชีวิตนักศึกษาเยี่ยงสามัญชนทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นการเล่นกีฬาโปโลน้ำที่ทรงโปรดปราน การเล่นสนุ้กกับก๊วนพระสหาย การเล่นวินด์เซิร์ฟโต้คลื่นกลางทะเลโดยมิได้ถูกรบกวนจากสื่อมวลชน

ภาพลักษณ์ของเจ้าชายวิลเลียมจึงเป็นเจ้าชายหนุ่มน่ารักน่าเห็นใจ และแม้จะบ้านแตก กำพร้าแม่ แต่ทรงมิได้กลายเป็นเด็กเก็บกดเกเรหรือสร้างปัญหาแก่ผู้ใหญ่ และเมื่อทรงเจริญพระชนม์สู่รั้วมหาวิทยาลัย ก็ทรงเป็นเจ้าชายหนุ่มหล่อ นักกีฬาสูงใหญ่ไหล่กว้าง วางพระองค์เหมาะสม ก่อนจะเข้ารับราชการทหารอย่างเข้มแข็งด้วยความรักและภักดีต่อประเทศชาติ ประชาชน และสถาบันพระมหากษัตริย์

เมื่อทรงเป็นคุณพ่อลูกอ่อน ดยุกแห่งเคมบริดจ์ทรงแหวกพระราชประเพณีโดยทรงแฮปปี้ที่จะมือเปื้อนไปกับการเปลี่ยนผ้าอ้อมให้พระโอรสและพระธิดา อีกทั้งเมื่อเจ้าชายจอร์จและเจ้าหญิงชาร์ลอตต์ทรงเข้าสู่วัยเล่าเรียน ดยุกทรงสอนการบ้านให้แก่เจ้านายพระองค์น้อยทั้งคู่

ที่สำคัญคือ ทรงดำรงพระองค์ปลอดภัยจากสิ่งอื้อฉาวร้าวราวใจพสกนิกร ซึ่งย้ำยืนยันว่า มีอยู่จริงในโลกนี้ เจ้าชายตัวเป็นๆ ผู้หล่อเหลาสุดเซ็กซี่ มีจริยวัตรงดงาม เป็นที่พึ่งและชื่นพระทัยของพระบิดาและพระอัยยิกาเจ้า และเป็นความภาคภูมิใจของประชาชน

ด้วยเหตุนี้ เจ้าชายวิลเลียมจึงเป็นบุคคลสาธารณะที่น่านิยมชมชอบภายในความรับรู้ของคนอังกฤษ อีกทั้งยังเป็นผู้ที่มีข่าวดีมากมายให้ประชาชนได้ชื่นใจ คุณสมบัติทั้งปวงของพระสวามีแห่งดัชเชสเคทจึงนำมาซึ่งคะแนนนิยมที่สูงลิ่วเสมอ ไม่ว่าจะเป็นผลสำรวจของสำนักใด


เจ้าชายวิลเลียมเมื่อทรงมีพระชนมายุเพียง 9 พรรษา ทรงออกพระราชกิจพบปะทักทายกับประชาชนที่เมืองโตรอนโต ประเทศแคนาดา ซึ่งมีควีนแห่งสหราชอาณาจักรเป็นประมุขของประเทศ พระรูปนี้บันทึกเมื่อ 27 ตุลาคม 1991

เจ้าชายวิลเลียมทรงเสื้อกั๊กลายธงชาติ และทรงยิ้มให้กล้องที่วิทยาลัยอีตัน สถาบันการศึกษาระดับมัธยมของพระองค์ ในภาพนี้ ทรงมีพระชนมายุ 18 พรรษา ซึ่งก็คือทรงกำพร้าพระมารดาหลายปีแล้ว

หลังจากสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมปลายที่วิทยาลัยอีตันในปี 2000 เจ้าชายวิลเลียมทรงใช้เวลาตระเวนศึกษาโลกกว้างประมาณ 1 ปี (2000-2001) เช่น ทรงออกฝึกโปรแกรมทหารของกองทัพบกอังกฤษที่ประเทศเบลีซในภูมิภาคอเมริกากลาง เสด็จเยือนแอฟริกา ทรงเข้าร่วมโปรแกรมรัลลี อินเตอร์เนชั่นแนลและทรงได้ปฏิบัติงานในเมืองตอร์เตล ทางใต้ของประเทศชิลี ช่วงปลายปี 2000 ในภาพนี้ เจ้าชายวิลเลียมทรงปฏิบัติงานซ่อมบำรุง

เจ้าชายวิลเลียมทรงกลับสู่กรุงลอนดอนในปี 2001 และทรงเข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยเซนต์แอนดรูว์ ในสกอตแลนด์ และทรงรับปริญญาบัตรในเดือนมิถุนายน ปี 2005 ในภาพนี้เป็นอิริยาบถหล่อเหลาของเจ้าชายวิลเลียมในมุมหนึ่งของมหาวิทยาลัย เมื่อ 15 พฤศจิกายน 2004 และเห็นได้ว่าพระองค์ทรงถนัดซ้าย ทั้งนี้ ทรงรู้จักและสนิทสนมอย่างยิ่งแล้วกับนางสาวแคเธอริน มิดเดิลตัน

ด้วยความที่ทรงตัดสินพระทัยจะรับราชการทหาร เจ้าชายวิลเลียมจึงทรงเข้าศึกษาในราชวิทยาลัยทหารแซนด์เฮิสต์ ตั้งแต่เดือนมกราคม 2006 ในภาพนี้ เจ้าชายทรงร่วมสวนสนามกับผู้จบการศึกษาเมื่อ 15 ธันวาคม 2006

เจ้าชายวิลเลียมทรงเป็นนักบินเฮลิคอปเตอร์ค้นหาและช่วยเหลือ ในภาพนี้ ทรงอยู่ระหว่างการฝึกฝนภารกิจที่ฐานทัพอากาศแครนเวลล์ ในลิ้งเคินเชอร์ เมื่อ 17 มกราคม 2008

ภาพแห่งบรรยากาศดีๆ ภายในครอบครัวที่ครบถ้วนด้วยพระบิดา พระมารดา และพระอนุชาซึ่งยังทรงเป็นพระโอรสน่ารักของเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์โดยยังไม่ทราบถึงความร้าวฉาวในระหว่างเสด็จพ่อกับเสด็จแม่ ทั้งนี้ เจ้าชายวิลเลียมทรงมีปมอดีตฝังลึกจากปัญหาบ้านแตก อาทิ การได้รับฟังพร้อมสาธารณชนทั้งมวลว่าพระมารดาทรงยอมรับเรื่องการคบชู้ในระหว่างการให้สัมภาษณ์ที่ออกอากาศในเดือนพฤศจิกายน 1995 การหย่าร้างระหว่างพระบิดากับพระมารดา0อย่างเป็นทางการในเดือนสิงหารม 1996  และเหนืออื่นใดคือการกำพร้าแม่ในวัยเพียง 15 พรรษาเมื่อเจ้าหญิงไดอานาประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตในปี 1997 กระนั้นก็ตาม เจ้าชายทรงมิได้ปล่อยให้ความทุกข์บั่นทอนพระชนม์ชีพ ทรงเจริญวัยในความรักและการดูแลของพระบิดา จนประสบความสำเร็จในด้านต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การทรงเป็นราชไอดอลของประชาชน
ดำเนินงานอย่างทุ่มทุนสร้าง เพื่อให้ฝ่ายต่างๆ ตื่นตัวต่อปัญหาสังคม สิ่งแวดล้อม การอนุรักษ์คุ้มครองสัตว์ป่า ฯลฯ

ในส่วนของการดำรงพระชนม์ชีพเพื่อช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสในสังคม ดยุกแห่งเคมบริดจ์ ทรงให้ความสำคัญที่จะลงมือกระทำเป็นตัวอย่างเพื่อให้สังคมตื่นตัวกับปัญหา โดยทรงดำเนินการในประเด็นของคนไร้บ้าน ซึ่งพระมารดาและพระบิดาเคยทรงนำพระองค์ไปสัมผัสสถานสงเคราะห์คนไร้บ้านตั้งแต่ที่พระองค์ยังทรงมีพระชนม์เพียง 11 พรรษา

ทั้งนี้ ช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา เจ้าชายวิลเลียมผู้จะทรงเป็นกษัตริย์อังกฤษในอนาคต ทรงเข้าร่วมกับทีมคนไร้บ้าน ลงถนนในกรุงลอนดอน ขายนิตยสาร The Big Issue อันเป็นแมกกาซีนคนไร้บ้านในอังกฤษ

พร้อมนี้ เจ้าชายวิลเลียมทรงกล่าวไว้ในบทความหนึ่งของ The Big Issue ว่า จะทรงเดินหน้าทำงานเพื่อดึงให้ความสนใจของผู้คนพุ่งไปยังปัญหาคนไร้บ้านซึ่งเป็นปัญหาที่สามารถแก้ไขได้ เอพีรายงานอย่างนั้น

นอกจากนั้น ดยุกแห่งเคมบริดจ์ทรงมีพระราชกิจเกี่ยวกับโครงการส่งเสริมสิ่งแวดล้อม โครงการอนุรักษ์สัตว์ป่า และโครงการช่วยเหลือปัญหาสุขภาพจิตภายในชุมชน อยู่ในพระอุปถัมภ์เป็นจำนวนมาก เช่น ทรงประทานพระราชูปถัมภ์แก่โครงการรางวัลอนุรักษ์สัตว์ป่า คือ Tusk Conservation Awards ซึ่งเชิดชูผู้นำการอนุรักษ์สัตว์ป่าและเจ้าหน้าที่พิทักษ์สัตว์ป่าในแอฟริกา

เจ้าชายวิลเลียมผู้จะทรงเป็นกษัตริย์อังกฤษในอนาคต ทรงเข้าร่วมกับทีมสงเคราะห์คนไร้บ้าน ลงถนนในกรุงลอนดอน ขายนิตยสาร The Big Issue อันเป็นแมกกาซีนคนไร้บ้านในอังกฤษ เพื่อรณรงค์ให้ผู้คนใส่ใจในปัญหานี้

การรณรงค์ให้ฝ่ายต่างๆ ตื่นตัวกับการอนุรักษ์สัตว์ป่าเป็นอีกหนึ่งพระราชกิจที่เจ้าชายวิลเลียมทรงทุ่มเท ในภาพนี้ ทรงเป็นประธานในพิธีมอบรางวัลเชิดชูผู้อุทิศตนเพื่ออนุรักษ์คุ้มครองสัตว์ป่า Tusk Conservation Awards ซึ่งจัดขึ้นในกรุงลอนดอน เมื่อ 22 พฤศจิกายน 2021  ทั้งนี้ ทรงกล่าวว่าเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องเชิดชูการอุทิศตนของผู้นำชุมชนการอนุรักษ์สัตว์ป่าและเจ้าหน้าที่พิทักษ์สัตว์ป่า ผู้ซึ่งกล้าหาญยอมเสี่ยงชีวิต เพื่อสงวนรักษาคุ้มครองในพื้นที่แนวหน้าทั้งกลางวันและกลางคืน พวกเราขอขอบคุณอย่างยิ่งในความเสียสละทั้งปวง ในความเป็นชาวราศีเมถุนนั้น เจ้าชายวิลเลียมทรงมีศักยภาพด้านการปราศรัยในที่ประชุม ทรงนิยมที่จะปราศรัยสด ปราศจากการอ่านสคริปต์ ซึ่งทำให้เข้าถึงดวงใจของผู้รับฟัง
ไม่ปล่อยให้พระอนุชาโจมตีสถาบันกษัตริย์ ที่สุดแล้วทรงต้อง “ประทับอยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ”

อันที่จริงนั้น เจ้าชายวิลเลียมทรงได้รับการฟูมฟักขึ้นมาอย่างพอเหมาะในระหว่างโลกอนุรักษ์นิยมและโลกสมัยใหม่ทั้งเชิงความคิดและเชิงปฏิบัติ โดยในเวลาเดียวกับที่ทรงเจริญพระชมม์ชีพในโลกยุคใหม่ขณะทรงศึกษาระดับมัธยมในวิทยาลัยอีตัน (Eton College) ซึ่งอยู่ใกล้ปราสาทวินด์เซอร์ ตั้งแต่ปี 1995 นั้น พระองค์ได้รับโอกาสเข้าเฝ้าใกล้ชิดสมเด็จพระราชินีนาถฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเสวยอาหารกลางวันกับสมเด็จพระอัยยิกาทุกวันอาทิตย์ พระองค์จึงทรงได้รับอิทธิพลและการกล่อมเกลาจากแนวทางอนุรักษ์นิยมมาโดยตรง โดยเฉพาะการหล่อหลอมให้เข้าใจถึงสถาบันกษัตริย์อย่างลึกซึ้ง มาร์ค รอช ผู้ประพันธ์หนังสือหลายเล่มเกี่ยวกับการราชวงศ์ได้ชี้ประเด็นนี้ไว้กับเอเอฟพี

ด้วยเหตุนี้ บทบาทของเจ้าชายวิลเลียมในการปกป้องสมเด็จพระราชินีนาถฯและสถาบันกษัตริย์อย่างเอาจริง จึงปรากฏให้เห็น

โดยทั่วไป ดยุกแห่งเคมบริดจ์มักที่จะทรงไม่เปิดเผยเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังกำแพงพระราชวัง แต่ทรงออกมาปกป้องพระราชตระกูลเมื่อเจ้าชายแฮร์รีและดัชเชสเมแกนผู้เป็นพระชายา ประทานสัมภาษณ์ออกโทรทัศน์อเมริกันที่แพร่หลายทั่วโลกในเดือนมีนาคม 2021 โดยมีการโจมตีพระราชวงศ์ในสารพัดประเด็นที่มากมายด้วยการป้ายสีสถาบันกษัตริย์อังกฤษให้ตกเป็นที่โกรธเคืองดูหมิ่นในหมู่ประชาชนของประเทศต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในประเด็นที่เจ้าชายแฮร์รีและพระชายา (ซึ่งเป็นชาวอเมริกันที่ได้เชื้อสายแอฟริกันจากคุณแม่) ทรงกล่าวหาว่าสมาชิกในราชตระกูลวินด์เซอร์มีการเหยียดผิว

เจ้าชายวิลเลียมผู้ทรงสะเทือนพระทัยใหญ่หลวงในสิ่งที่พระอนุชาตรัสให้ร้ายพระราชวงศ์ ได้ทรงประทานสัมภาษณ์แก่สื่อมวลชน ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พร้อมนี้ความร้าวฉาวระหว่างพระเชษฐาและพระอนุชาปรากฏชัดมากขึ้นเรื่อยในความรับรู้ของสาธารณชนทั่วโลก

ในเดือนเมษายน 2021 ที่เจ้าชายแฮร์รี ดยุกแห่งซัสเซกส์ ทรงเดินทางจากสหรัฐอเมริกาเพื่อเข้าร่วมพระราชพิธีพระศพของเจ้าชายฟิลิป ผู้เป็นเสด็จปู่ บรรยากาศระหว่างเจ้าชายสองพี่น้องเต็มไปด้วยความเย็นชาและอึดอัดตึงเครียด อย่างไรก็ตาม ด้วยความพยายามของดัชเชสเคท การสมานฉันท์ในระหว่างสองศรีพี่น้องปรากฏขึ้นบ้าง เป็นที่ชื่นใจของท่านผู้ชมในประเทศต่างๆ

อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวออกสื่อในมุมต่างๆ ของเจ้าชายแฮร์รี ส่งผลในทางสะเทือนความรู้สึกของสมาชิกราชวงศ์วินด์เซอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กรณีเมื่อช่วงเดือนเมษายน 2022 ที่สมเด็จพระราชินีนาถฯ ทรงพระประชวรด้วยโรคโควิด 19 หลังจากที่เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ทรงพระประชวรก่อน แล้วต่อมา เจ้าชายแฮร์รีประทานสัมภาษณ์ออกสื่อว่าเป็นห่วงสมเด็จพระอัยยิกาเจ้าผู้ทรงพระประชวร พระองค์ทรงอยากเห็นควีนเอลิซาเบธที่ 2 อยู่ในความปกป้องคุ้มครองของบุคคลที่เหมาะสม

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าถ้อยคำดังกล่าวเป็นการโจมตีพระราชวงศ์อย่างรุนแรงอีกครั้งหนึ่ง ด้านสื่อมวลชนพากันประโคมข่าวว่าเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ ผู้เป็นพระบิดาของดยุกแห่งซัสเซกส์ ทรงเสียพระทัยอย่างยิ่งกับถ้อยคำของพระโอรส


ด้วยเหตุนี้ หลังจากที่ดยุกแห่งซัสเซกส์เล่นงานสถาบันกษัตริย์ในครานี้ ความร้าวฉานระหว่างพระเชษฐาวิลเลียม ผู้ทรงอุทิศพระองค์ปกป้องสถาบัน กับพระอนุชาแฮร์รี ผู้ทรงดำรัสผ่านสื่อมวลชนในทางด้อยค่าสถาบัน จึงย่ำแย่ดำดิ่ง

ในช่วงวันที่ 1-4 มิถุนายน 2022 ที่เจ้าชายแฮร์รีและพระชายาดัชเชสแห่งซัสเซกส์เสด็จมายังกรุงลอนดอนเพื่อเข้าร่วมพระราชพิธีเฉลิมฉลองแพลตตินัม จูบิลี โดยพักที่พระตำหนักฟรอกมอร์ คอตเทจในเขตพระราชฐานวินด์เซอร์ นั้น เว็บไซต์ข่าว Page Six หนึ่งในเจ้าพ่อข่าวราชวงศ์อังกฤษรายงานว่า เจ้าชายแฮร์รีทรงไม่มีพระโมเมนต์ส่วนพระองค์กับพระเชษฐาเลย ซึ่งรวมถึงกรณีที่เจ้าชายแฮร์รีเชิญเจ้าชายวิลเลียมและครอบครัวร่วมงานปาร์ตี้วันเกิดของพระธิดาลิลิเบต ในวันเสาร์ที่ 4 นั้น ครอบครัวเคมบริดจ์มิได้ทรงเข้าร่วม โดยในวันนั้น เจ้าชายวิลเลียม พระชายาเคท และเจ้าชายจอร์จกับเจ้าหญิงชาร์ลอตต์เสด็จเยือนเมืองคาร์ดิฟฟ์ แคว้นเวลส์ เมื่อวันที่สามของซีรีส์การเฉลิมฉลอง เพื่อเข้าร่วมใกล้ชิดกับกิจกรรมเฉลิมฉลองแพลตตินัม จูบิลี ที่ประชาชนจัดถวายแด่สมเด็จพระราชินีนาถฯ

ทั้งนี้ แหล่งข่าววงในราชวงศ์วินด์เซอร์ให้ความเห็นแก่ Page Six ว่า “สิ่งต่างๆ ยังตึงเครียดอยู่ – เจ้าชายวิลเลียมยังทรงระมัดระวังที่จะสนทนาเป็นการส่วนพระองค์กับเจ้าชายแฮร์รี คุณไม่มีทางทราบได้เลยว่าอาจจะมีอะไรเป็นข่าวสะท้อนกลับมาในภายหลัง” Page Six รายงานอย่างนั้น

ในช่วงเช้าของวันอาทิตย์ที่ 5 มิถุนายน ซึ่งซีรีส์การฉลองแพลตตินัม จูบิลียังไม่จบ ยังมีกำหนดการอีกจำนวนหนึ่งในวันฉลองวันที่สี่ นั้น ครอบครัวซัสเซกส์ขึ้นเครื่องบินเจ็ตส่วนพระองค์ออกเดินทางกลับพระตำหนักในแคลิฟอร์เนีย โดยมีข่าวรายงานว่าน้องอาร์ชี่และน้องลิลิเบ็ทได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระเจ้าทวด 2 โอกาส โอกาสแรกในวันพุธที่ 1 และโอกาสที่สองในค่ำวันศุกร์ที่ 3 ส่วนสำหรับการเข้าเฝ้าเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ผู้ทรงเป็นพระอัยกานั้น ไม่มีข้อมูลยืนยัน

บรรยากาศเย็นชาตึงเครียดระหว่างเจ้าชายวิลเลียมและเจ้าชายแฮร์รีปรากฏชัดเจนในระหว่าง  ในพระราชพิธีพระศพของเจ้าชายฟิลิปผู้ทรงเป็นพระอัยกา ทั้งนี้ ในระหว่างการเคลื่อนขบวนนำหีบพระศพไปยังโบสถ์เซนต์จอร์จ ภายในเขตพระราชฐานวินด์เซอร์ ซึ่งเจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ และเจ้าฟ้าหญิงแอนน์ ทรงพระดำเนิน ณ หัวขบวน เจ้าชายวิลเลียมและเจ้าชายแฮร์รีทรงพระดำเนินช่วงกลางขบวน โดยมีคุณปีเตอร์ ฟิลลิปส์ พระโอรสของเจ้าฟ้าหญิงแอนน์ ขึ้นมาเดินในระนาบเดียวกับเจ้าชายสองพี่น้อง โดยระนาบที่ถูกต้องควรจะเป็นแถวถัดลงไปซึ่งมีคุณทิโมที ลอเรนซ์ พระสวามีปัจจุบันของเจ้าฟ้าหญิงแอนน์เดินอยู่ (ด้านในสุดของภาพ) ทั้งนี้ สื่อหัวสีของอังกฤษบางค่ายรายงานว่าเจ้าชายวิลเลียมทรงขอให้คุณปีเตอร์เขยิบขึ้นมาเดินด้วยกัน

ความรัก ผูกพัน และเอื้ออาทรอันลึกซึ้งมากมายในระหว่าง “เจ้าชายและพระชายาแห่งศตวรรษที่ 21” เป็นที่ประจักษ์ต่อความรับรู้ของทุกฝ่าย ทั้งสองพระองค์ทรงรู้จักและรู้ใจกันและกัน อีกทั้งยังมีภาษากายและสายพระเนตรที่เปิดเผยความชื่นชมอันยั่งยืนต่อกันและกันในตลอดเวลามากกว่าหนึ่งทศวรรษที่ได้ครองคู่มา นี่เป็นผลจากน้ำใสใจจริงที่ดัชเชสแห่งเคมบริดจ์ทรงพิสูจน์ตนเองอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ในเส้นทางที่เจ้าชายวิลเลียมทยอยก้าวสู่บทบาทประมุขของอังกฤษในอนาคต ดัชเชสเคททรงส่งเสริมสนับสนุนพระสวามีอย่างสุดความสามารถ ด้วยการวางพระองค์ได้งดงามเหมาะสม เป็นพระชายาและพระมารดาผู้อบอุ่นทุ่มเท ไม่สร้างปัญหา และมอบสิ่งดีงามแก่ทุกพระองค์ทุกคน ภาพแห่งสายตาเปี่ยมรักนี้ ถูกบันทึกไว้เมื่อ 16 พฤศจิกายน 2010 โดยที่ว่าหลังการประกาศข่าวหมั้นหมาย เจ้าชายวิลเลียมและนางสาวเคท มิดเดิลตัน พระคู่หมั้น ออกมาให้สื่อมวลชนถ่ายภาพที่พระราชวังเซนต์เจมส์ในกรุงลอนดอน
ใจกว้างและให้ไฟเขียวแก่ประเทศเครือจักรภพที่จะตีจาก หากประชาชนประสงค์อย่างนั้น

เมื่อมาถึงประเด็นของการสร้างความทันสมัยให้แก่สถาบันกษัตริย์นั้น ดยุกแห่งเคมบริดจ์ทรงตระหนักดีว่าเรื่องนี้เป็นอะไรที่จำเป็นต้องดำเนินการ เพื่อให้สถาบันยั่งยืนต่อไปได้หลังพ้นรัชสมัยแห่งควีนเอลิซาเบธที่ 2 ตลอดจนเพื่อป้องกันแนวคิดสาธารณรัฐที่แพร่ระบาดในหมู่เยาวชนคนเจเนอเรชั่นใหม่ของอังกฤษ

ในโอกาสที่เจ้าชายวิลเลียมและดัชเชสเคททรงเป็นผู้แทนพระองค์สมเด็จพระราชินีนาถฯ ในการเสด็จเยือนประเทศเบลีซ ประเทศจาเมกา และเครือรัฐบาฮามาสเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยทั้งสามประเทศนี้เป็นประเทศอิสระในจำนวนทั้งสิ้น 14 ประเทศอิสระที่มีสถาบันกษัตริย์อังกฤษเป็นประมุข นั้น ทั้งสองพระองค์ได้ประสบกับการเดินขบวนต่อต้านอังกฤษซึ่งเกิดขึ้นที่จาเมกาเพื่อเรียกร้องให้อังกฤษจ่ายค่าชดเชยแก่เหตุการณ์ครั้งอดีตที่อังกฤษนำชนแอฟริกันหลายล้านรายไปเป็นทาส

ในโอกาสเดียวกันนั้น นายกรัฐมนตรีของจาเมกากล่าวต่อเจ้าชายวิลเลียมว่าประเทศจาเมกามีความตั้งใจจะปรับเปลี่ยนเป็นสาธารณรัฐ ซึ่งหมายถึงการยุติความผูกพันกับสถาบันกษัตริย์อังกฤษ เอพีรายงานไว้

ในศึกการทูตครั้งนี้ เจ้าชายวิลเลียมทรงไม่ใช้นโยบาย “ไม่บ่น ไม่อธิบาย” ซึ่งเป็นนโยบายหลักของสถาบันกษัตริย์อังกฤษในรัชสมัยควีนเอลิซาเบธที่ 2 โดยทรงแถลงอย่างใจกว้างและงดงาม คือ

“ผมทราบว่าการเดินทางครั้งนี้ได้นำมาซึ่งคำถามอันแหลมคมต่ออดีตและอนาคต” เอพีรายงานพร้อมเล่าถึงถ้อยดำรัสของเจ้าชายวิลเลียมว่า

สำหรับในเบลีซ จาเมกา และบาฮามาสที่จะแยกออกจากสถาบันกษัตริย์อังกฤษและกลายเป็นสาธารณรัฐ ทุกประเทศจะได้รับการสนับสนุนจากอังกฤษด้วยเกียรติยศและความเคารพต่อการตัดสินใจของประชาชนที่จะเลือกอนาคตของตนเอง ความสัมพันธ์พัฒนาเปลี่ยนแปลงได้ ส่วนมิตรภาพจะยั่งยืนสืบไป

ส่วนสำหรับการมองอนาคตของผู้คนภายในอังกฤษนั้น ผู้เชี่ยวชาญฟิตซวิลเลียมส์ฟันธงไว้กับเอเอฟพีว่า

“หนึ่งในหลายๆ สิ่งที่เจ้าชายวิลเลียมทรงใส่พระทัยคือ ภาพลักษณ์ของสถาบันกษัตริย์อังกฤษ และอนาคตที่ว่าสถาบันจะเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างไร”


โดย รัศมี มีเรื่องเล่า

(ที่มา: เอเอฟพี เอพี รอยเตอร์ ยูทูป Page Six เดลิเมล์อังกฤษ ดิเอ็กซ์เพรส)

กำลังโหลดความคิดเห็น