วัยรุ่นสาวจีนรายหนึ่งก่อเหตุขโมยเงินผู้เป็นแม่ที่ป่วยหนัก ซึ่งเก็บหอมรอมริบไว้ผ่าตัดรักษาตัว ราว 120,000 หยวน (ประมาณ 630,000 บาท) ก่อนนำเงินไปละลายทรัพย์ผ่านการใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย สุดท้ายตำรวจตามรอยเงินเหล่านั้นมาได้เพียงบางส่วน
ผู้เป็นแม่แซ่เจี๊ยะ และพ่อแซ่หลี่ โทรศัพท์หาตำรวจในเมืองเป่าติ้ง มณฑลเหอเป่ย ทางภาคเหนือของจีน แจ้งความว่าลูกสาววัย 14 ปีของพวกเขาใช้จ่ายเงินสุรุ่ยสุร่ายทางออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นเล่นเกมออนไลน์ ซื้อโทรศัพท์มือถือ เสื้อผ้าและอาหาร
เงินจำนวนนี้เป็นทุนที่เตรียมไว้ให้นางเจี๊ยะผ่าตัดหมอนรองกระดูกบริเวณหลังส่วนล่าง และทางครอบครัวร้องขอตำรวจให้หาทางตามรอยเงินเหล่านี้กลับมาให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
"เธอเชื่อมบัญชีธนาคารของแม่เข้ากับบัญชี WeChat ของเธอ ตอนที่ชอปปิ้งออนไลน์" เจ้าหน้าที่ตำรวจรายหนึ่งให้สัมภาษณ์กับเซาท์ไชนามอร์นิ่งโพสต์
จากข้อมูลของตำรวจ พบว่า เด็กสาวรายนี้ใช้เงินไป 30,000 หยวน (ประมาณ 1.57 แสนบาท) ในการเล่นเกมออนไลน์ และอีก 15,000 หยวน (ประมาณ 78,000 บาท) ซื้อโทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง ส่วนที่เหลือใช้ซื้อข้าวของอื่นๆ
ตำรวจพุดคุยกับเด็กหญิงรายนี้ และขอให้เธอส่งมอบข้าวของทั้งหมดที่เธอใช้เงินที่ขโมยไปซื้อมา ขณะเดียวกัน ตำรวจยังได้ติดต่อไปยังแพลตฟอร์มออนไลน์ที่เกี่ยวข้อง แจ้งแพลตฟอร์มดังกล่าวว่าผู้ซื้อเป็นเยาวชนใช้เงินที่ขโมยมา และขอให้มีการคืนเงิน
"เพราะว่าเธออายุต่ำกว่า 16 ปี เกมเติมเงินจึงสามารถคืนเงินได้" ตำรวจอธิบาย "อย่างไรก็ตาม ในส่วนเงินที่ใช้ซื้อโทรศัพท์มือถือและเกมพนันไม่สามารถเอาคืนได้"
ตำรวจเผยว่า "ด้วยที่พ่อแม่ของเด็กหย่ากัน และเธอพักอาศัยอยู่กับแม่และพ่อเลี้ยง พฤติกรรมเช่นนี้จึงเป็นที่เข้าใจได้ เพราะว่าเธออยู่ในช่วงอายุที่ดื้อรั้น"
หลังการเจรจานานหลายวันโดยมีตำรวจคอยประสานงาน แฟลตฟอร์มชอปปิ้งออนไลน์ ยอมคืนเงินแก่ครอบครัวมากกว่า 60,000 หยวน (ราว 310,000 บาท) ที่เด็กสาวใช้จ่ายผ่านเกมเติมเงินในเดือนมีนาคม
ตำรวมยอมรับไม่แน่ใจว่าสุดท้ายแล้วผู้เป็นแม่ได้เข้ารับการผ่าตัดหรือไม่ เพราะว่าเกือบครึ่งของจำนวนเงินที่ถูกลูกสาวขโมยไปนั้นไม่สามารถทวงคืนกลับมาได้
ข่าวนี้โหมกระพือความเดือดดาลแก่ผู้คนจำนวนมาก หลายคนรู้สึกไม่พอใจความเห็นแก่ตัวของเด็กสาวรายนี้ "เด็กหญิงคนนี้ไม่มีความรู้สึกผิดชอบชั่วดีเลย" ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตรายหนึ่งเขียนบนออนไลน์ ส่วนอีกคนเสริมว่า "นักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 2 ยังไม่มีจิตสำนึกเรื่องเงินๆ ทองๆ อีกหรือ"
(ที่มา : เซาท์ไชนามอร์นิ่งโพสต์)