ราคาน้ำมันฟื้นตัวในวันพฤหัสบดี (16 มิ.ย.) ท่ามกลางความกังวลทางอุปทาน หลังสหรัฐฯ คว่ำบาตรอิหร่านรอบใหม่ ส่วนวอลล์สตรีทปิดลบหนักและทองคำปรับขึ้น นักลงทุนวิตกภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังธนาคารกลางทั่วโลกเคลื่อนไหวสกัดเงินเฟ้อ
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกรกฎาคม เพิ่มขึ้น 2.27 ดอลลาร์ ปิดที่ 117.58 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 1.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 119.81 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
พวกนักวิเคราะห์มองว่าราคาน้ำมันได้แรงหนุนจากการตัดสินใจของวอชิงตันในการกำหนดมาตรการคว่ำบาตรบริษัทต่างๆ ของจีน สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และอิหร่าน ที่ช่วยอิหร่านส่งออกปิโตรเคมี
นอกจากนี้ ตลาดน้ำมันยังได้แรงหนุนเพิ่มเติมจากกำลังผลิตที่ลดลงฮวบฮาบของลิเบีย เหลือแค่ระดับ 100,000-150,000 บาร์เรลต่อวัน จากระดับ 1.2 ล้านบาร์เรลต่อวันเมื่อปีที่แล้ว และพวกนักวิเคราะห์ยังมีความกังวลว่าประเทศแห่งนี้อาจกำลังเผชิญปัญหาด้านการส่งมอบด้วย ท่ามกลางสถานการณ์ความไม่สงบในประเทศ
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี (16 มิ.ย.) ปิดลบแรงจากแรงเทขายในวงกว้าง มีความกังวลว่าความเคลื่อนไหวของแบงก์ชาติทั่วโลกในความพยายามสกัดเงินเฟ้อที่พุ่งสูง อาจนำมาซึ่งภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ ปรับขึ้นดอกเบี้ยมากสุดนับตั้งแต่ปี 1994
ดาวโจนส์ ลดลง 741.46 จุด (2.42 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 29,927.07 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 123.22 จุด (3.25 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 3,666.77 จุด แนสแดค ลดลง 453.06 จุด (4.08 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 10,646.10 จุด
เอสแอนด์พี 500 ดิ่งลง 6 ใน 7 วันซื้อขายหลังสุด โดยวอลล์สตรีทปรับขึ้นเมื่อวันพุธ (15 มิ.ย.) หลังเฟดตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ย 0.75% ตามความคาดหมาย
อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์และสหราชอาณาจักรในวันพฤหัสบดี (16 มิ.ย.) โหมกระพือความกังลว่าความพยายามของธนาคารกลางชาติต่างๆ ในการสกัดเงินเฟ้อ อาจฉุดรั้งให้เศรษฐกิจโลกเติบโตช้าลงกว่าเดิม หรืออาจถึงขั้นดิ่งสู่ภาวะดังกล่าว
ความวิตกนี้ ประกอบกับดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง ผลักให้ราคาทองคำในวันพฤหัสบดี (16 มิ.ย.) ปิดบวก โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนสิงหาคม เพิ่มขึ้น 30.30 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,849.90 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา : รอยเตอร์)
