รัสเซียยิง ‘ขีปนาวุธร่อน’ทำลายคลังสินค้าใหญ่ เก็บอาวุธจากมะกัน-ยุโรป ในพื้นที่ซึ่งไม่เคยโจมตีมาก่อน ทางภาคตะวันตกยูเครน

กองกำลังรัสเซียยิงขีปนาวุธร่อนหลายลูก เข้าทำลายคลังสินค้าขนาดใหญ่ที่บรรจุไว้ด้วยอาวุธจากสหรัฐฯและยุโรป ในแคว้นเตอร์โนปิล ทางภาคตะวันตกของยูเครน สำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์ของรัสเซียรายงานในวันอาทิตย์ (12 มิ.ย.) ขณะที่การสู้รบไล่ล่ากันตามถนนสายต่างๆ ของเมืองซีวีโรโดเนตสก์ ในภาคตะวันออก ยังคงดำเนินไปอย่างดุเดือด ด้านฝ่ายบริหารอียูบอกว่า จะส่งสัญญาณที่ชัดเจนในสัปดาห์นี้ในเรื่องการพิจารณาอนุมัติสถานะผู้สมัครเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปของยูเครน

ตามรายงานของอินเตอร์แฟกซ์ กองกำลังรัสเซียได้ยิงขีปนาวุธร่อน “คาลิบร์” หลายลูกเข้าโจมตีคลังสินค้าใหญ่ดังกล่าว นอกจากนั้นยังบอกด้วยว่า ฝ่ายรัสเซียยังยิงเครื่องบินขับไล่ ซู-25 ของยูเครนจำนวน 3 ลำ ตกที่ใกล้ๆ เมืองโดเนตสก์ และเมืองคาร์คีฟ ในภาคตะวันออกของยูเครน

ทางด้าน โวโลดีมีร์ ทรุช ผู้ว่าการของแคว้นเทอร์โนปิล โพสต์ลงเฟซบุ๊กในวันอาทิตย์ (12) เช่นกันว่า มีขีปนาวุธ 4 ลูกโจมตีใส่เมืองชอร์ตคิฟ ของแคว้น โดยยิงมาจากทะเลดำเมื่อเวลา 19.46 น.วันเสาร์(11) ซึ่งอานุภาพของมันทำลายสิ่งปลูกสร้างทางทหารแห่งหนึ่งไปส่วนหนึ่ง และอาคารที่พักอาศัยหลายหลัง ทำให้มีผู้บาดเจ็บ22 คน ขณะที่เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นรายหนึ่งอ้างว่า ตรงนั้นไม่ได้มีการเก็บอาวุธเอาไว้แต่อย่างใด

รอยเตอร์ไม่สามารถที่จะยืนยันอย่างเป็นอิสระได้สำหรับการบอกเล่าเหตุการณ์ไปคนละทางเช่นนี้

มอสโกต่อว่าสหรัฐฯและชาติตะวันตกอื่นๆ อย่างรุนแรงสำหรับการจัดส่งอาวุธไปให้ยูเครน ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน กล่าวก่อนหน้านี้ในเดือนนี้ว่า รัสเซียจะโจมตีใส่เป้าหมายใหม่ๆ ถ้าฝ่ายตะวันตกจัดส่งอาวุธพวกลูกจรวดและขีปนาวุธพิสัยทำการไกลขึ้นไปให้ยูเครน สำหรับใช้กับระบบจรวดหลายลำกล้องเคลื่อนที่ได้คล่องตัวและมีความแม่นยำสูง ที่กำลังทยอยส่งมอบให้เคียฟ

พวกผู้นำยูเครนนั้นยังคงเรียกร้องไม่หยุดในระยะไม่กี่วันที่ผ่านมา ให้ประเทศตะวันตกจัดส่งอาวุธหนักไปให้ ขณะที่กองกำลังรัสเซียถล่มโจมตีหนักใส่ภาคตะวันออกของประเทศด้วยจรวดและปืนใหญ่

โดยเฉพาะเมืองซีวีโรโดเนตสก์ ซึ่งกลายเป็นจุดศูนย์กลางของการสู้รบในระยะไม่กี่สัปดาห์มานี้ เพื่อแย่งชิงอำนาจควบคุมเหนือภูมิภาคดอนบาสในภาคตะวันออก ที่ประกอบด้วย 2 แคว้นคือ ลูฮันสก์ และ โดเนตสก์ ทั้งนี้ เมืองซีวีโรโดเนตสก์ เป็นหนึ่งในอีกไม่กี่เมืองของแคว้นลูฮันสก์ที่ยังไม่ตกเป็นของฝ่ายรัสเซีย แต่หลายๆ ส่วนของเมืองนี้ก็อยู่ในสภาพถูกทำลายยับเยินจากการสู้รบซึ่งถือเป็นหนึ่งในศึกดุเดือดนองเลือดที่สุดนับตั้งแต่มอสโกเริ่มการรุกรานยูเครนในวันที่ 24 กุมภาพันธ์

เซอร์ฮีย์ ไกได ผู้ว่าการแคว้นลูฮันสก์ กล่าวในวันอาทิตย์ (12) ว่า กองกำลังยูเครนและรัสเซียยังคงกำลังสู้รบไล่ล่ากันไปตามถนนทีละสายในซีวีโรโดเนตสก์ เขาบอกว่าขณะที่กองกำลังรัสเซียยึดพื้นที่เกือบทั้งหมดของเมืองเอาไว้ได้ แต่กองกำลังยูเครนยังคงควบคุมพื้นที่อุตสาหกรรมรวมทั้งโรงงานเคมีย่านหนึ่ง ซึ่งมีพลเรือนหลายร้อยคนเข้าไปหลบภัยพักพิง

ทั้งนี้ โรงงานเคมี “อาซอต” ที่เป็นโรงงานขนาดใหญ่ในซีวีโรโดเนตสก์ ได้รับพลเรือนราว 800 คนซึ่งรวมทั้งพวกคนงานของโรงงาน 200 คน เข้าไปพักพิงภายในบังเกอร์ต่างๆ ของโรงงานแห่งนี้ ดมิโตร ฟีร์ตาช หนึ่งในพลเมืองผู้ร่ำรวยที่สุดในยูเครนและเป็นเจ้าของโรงงานแห่งนี้ ระบุทางเว็บไซต์ของบริษัทของเขาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

ฟีร์ตาช ครั้งหนึ่งได้ชื่อว่าฝักใฝ่รัสเซีย ถึงขนาดที่เมื่อกลางปีที่แล้ว ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี้ ลงนามในกฤษฎีกาเพื่อแซงก์ชั่นเขา โดยรวมไปถึงการอายัดทรัพย์สินของเขาและถอนใบอนุญาตต่างๆ ที่ได้ให้แก่บริษัทของเขา เวลานี้ฟีร์ตาชพำนักในออสเตรีย และกำลังต่อสู้เพื่อไม่ให้ถูกส่งตัวในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนไปดำเนินคดีในสหรัฐฯข้อหาติดสินบนเจ้าหน้าที่

ผู้ว่าการ ไกได ระบุในข้อความที่โพสต์ทางแอป “เทเลแกรม” ในวันอาทิตย์ว่า ไม่มีใครสามารถระบุว่าในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา การสู้รบที่ยังดำเนินต่อเนื่องในเมืองซีวีโรโดเนตสก์ มีผู้บาดเจ็บล้มตายหรือไม่ และเป็นจำนวนเท่าใด

สำหรับที่เมืองลีซีชานสก์ ซึ่งเป็นเมืองแฝดอยู่คนละฝั่งแม่น้ำโดเนตส์ กับซีวีโรโดเนตสก์นั้น ไกไดกล่าวว่า การถล่มด้วยจรวดและปืนใหญ่ของรัสเซียทำให้มีผู้หญิงเสียชีวิต 1 คน ขณะทำลายบ้านเรือนไป 4 หลัง และศูนย์ช็อปปิ้งไปแห่งหนึ่ง

ด้านฝ่ายเสนาธิการใหญ่ของกองทัพยูเครน ระบุในรายงานความคืบหน้าประจำวันว่า กองกำลังรัสเซียยิงปืนครก ปืนใหญ่และจรวดรอบๆ ที่พักอาศัยจำนวนมากทางด้านใต้และตะวันตกเฉียงใต้ของซีวีโรโดเนตสก์ แต่กองกำลังยูเครนสามารถขับไล่ความพยายามของฝ่ายรัสเซียที่จะรุกคืบเข้าสู่ย่านที่อยู่อาศัยบางแห่ง

ทั้งนี้ รอยเตอร์ย้ำว่าไม่สามารถตรวจสอบอย่างเป็นอิสระเกี่ยวกับรายงานการสู้รบที่เกิดขึ้นในสนามรบ

ทางด้าน สถาบันเพื่อการศึกษาสงคราม ซึ่งตั้งอยู่ในสหรัฐฯ ระบุว่า กองกำลังฝ่ายยูเครนพิสูจน์ให้เห็นว่ามีความหยุ่นตัวสามารถปรับเปลี่ยนรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ได้อย่างคล่องตัวมากกว่าที่คาดหมายกันเอาไว้ แต่พวกเขาใช้อาวุธและเครื่องกระสุนต่างๆ ในยุคโซเวียตที่พวกเขาเก็บสะสมเอาไว้จนเกือบหมดสิ้นแล้ว และจำเป็นต้องได้รับความสนับสนุนจากฝ่ายตะวันตกอย่างสม่ำเสมอ

ในภาคใต้ของยูเครน สำนักข่าวต่างๆ ของฝ่ายรัสเซียรายงานว่า ทางการรัสเซียเริ่มออกหนังสือพาสปอร์ตของรัสเซียให้แก่ผู้คนซึ่งพำนักอยู่ในเมือง เคอร์ซอน และเมืองเมลิโตโปล 2 เมืองใหญ่ที่ฝ่ายรัสเซียยึดครองเอาไว้ ทั้งนี้ยังไม่ทราบว่ามีการออกพาสปอร์ตเป็นจำนวนเท่าใด

อีกด้านหนึ่ง อัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานของคณะกรรมาธิการยุโรป ที่เป็นฝ่ายบริหารของอียู กล่าวเมื่อวันเสาร์ (11) ว่า คณะกรรมาธิการของเธอจะมีความเห็นออกมาในสัปดาห์หน้า เกี่ยวกับการยื่นขอเข้าเป็นสมาชิกสหภาพยุโรปของยูเครน

ฟอน แดร์ ไลเอิน ซึ่งไปเยือนกรุงเคียฟแบบไม่มีกำหนดการล่วงหน้า กล่าวภายหลังหารือกับประธานาธิบดีเซเลนสกี้ โดยไม่ได้รับปากใดๆ และเน้นย้ำว่ายูเครนจำเป็นต้องมีการปฏิรูปต่างๆ เพิ่มเติม

ส่วนทาง เซเลนสกี รบเร้าว่ามันเป็นช่วงเวลา "ชี้ขาด" สำหรับประเทศของเขาและอียู พร้อมกับโจมตีมอสโกว่า "รัสเซียต้องการทำลายความเป็นหนึ่งเดียวของยุโรป ต้องการทำให้ยุโรปแตกแยกและต้องการทำให้ยุโรปอ่อนแอ ทั่วทั้งยุโรปเป็นเป้าหมายของรัสเซีย ยูเครนเป็นเพียงขั้นแรกของการรุกรานนี้"

การรับสมาชิกใหม่ของสหภาพยุโรป รัฐสมาชิกทั้งหมดต้องเห็นชอบ และแม้เวลานี้รัฐสมาชิกบางส่วนยังคงสงวนท่าที แต่คาดหมายว่าบรรดาผู้นำอียูจะอนุมติสถานะผู้สมัครของยูเครน ณ ที่ประชุมซัมมิตระหว่างวันที่ 23-24 มิถุนายน ทว่ามันอาจมาพร้อมเงื่อนไขที่เข้มงวด เพื่อให้ยูเครนดำเนินการปฏิรูปด้านต่างๆ ให้สอดคล้องกับระบบของอียู

ก่อนหน้านี้ บรรดาเจ้าหน้าที่และพวกผู้นำภายในอียู เตือนว่าแม้กระทั่งได้รับสถานะผู้สมัครแล้ว การเข้าเป็นสมาชิกอียูอย่างแท้จริงอาจต้องใช้เวลานานหลายปี หรือกระทั่งหลายทศวรรษ

(ที่มา: รอยเตอร์, เอเอฟพี)