ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ออกให้สัมภาษณ์ขู่สหรัฐฯ วานนี้ (5 มิ.ย.) ว่า กองทัพรัสเซียจะเปิดฉากยิงถล่ม “เป้าหมายใหม่ๆ” หากชาติตะวันตกส่งมอบอาวุธที่มีพิสัยโจมตีไกลขึ้นให้แก่รัฐบาลยูเครน
สหรัฐฯ ยืนกรานจะไม่ส่งทหารอเมริกันหรือกองกำลังจากประเทศในองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) เข้าไปทำสงครามกับรัสเซียในยูเครน ทว่า วอชิงตันและพันธมิตรยุโรปใช้วิธี “ติดอาวุธ” ช่วยเคียฟแทน ไม่ว่าจะเป็นโดรน ปืนใหญ่อัตตาจรฮาวอิตเซอร์ (Howitzer) ขีปนาวุธต่อต้านอากาศยานแบบประทับบ่ายิงสติงเกอร์ (Stinger) รวมไปถึงขีปนาวุธต่อต้านรถถังเจฟลิน (Javelin)
ล่าสุด เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ประกาศจะส่งเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้อง M142 High Mobility Artillery Rocket Systems หรือ HIMARS ให้ยูเครน หลังได้รับคำยืนยันจากเคียฟว่ามันจะไม่ถูกนำไปใช้โจมตีเป้าหมายภายในรัสเซีย
ปูติน ชี้ว่าระบบอาวุธที่ตะวันตกจะส่งให้ยูเครน “ไม่มีอะไรใหม่” และไม่สามารถที่จะพลิกสถานการณ์ได้ แต่ก็เตือนว่ารัสเซียพร้อม “ตอบสนอง” หากสหรัฐฯ ส่งมอบจรวดที่มีพิสัยเดินทางไกลขึ้นให้แก่เคียฟเพื่อใช้กับระบบ HIMARS ซึ่งโจมตีเป้าหมายได้ไกลสุดถึง 300 กิโลเมตร
ผู้นำหมีขาวให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ Rossiya-1 ว่า ถ้ายูเครนได้รับขีปนาวุธที่มีพิสัยการยิงไกลขึ้น “เราจะเริ่มโจมตีเป้าหมายที่เรายังไม่เคยโจมตีมาก่อน”
ปูติน ระบุว่า พิสัยยิงของ HIMARS ซึ่งผลิตโดยล็อกฮีดมาร์ตินขึ้นอยู่กับชนิดของจรวดที่ใช้ แต่ก็มากพอๆ กับระบบขีปนาวุธที่ผลิตโดยสหภาพโซเวียต ซึ่งยูเครนมีใช้งานอยู่แล้ว
“ฉะนั้นมันไม่ได้มีอะไรใหม่ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ” ผู้นำรัสเซีย กล่าว พร้อมชี้ว่าระบบ HIMARS แค่ถูกส่งมาทดแทนอาวุธที่โดนรัสเซียทำลายไปเท่านั้น
ทั้งนี้ ปูตินไม่ได้กล่าวชัดเจนว่า “เป้าหมายใหม่ๆ” คืออะไรบ้าง และวิจารณ์ชาติตะวันตกว่าจงใจให้สงครามครั้งนี้ “ลากยาว” ออกไป
กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ประกาศจะส่งมอบระบบ M142 HIMARS จำนวน 4 หน่วยให้แก่ยูเครน พร้อมด้วยระบบจรวดหลายลำกล้องนำวิถี (Guided Multiple Launch Rocket System - GMLRS) ซึ่งมีพิสัยการยิง 64 กิโลเมตร หรือราวๆ 2 เท่าของปืนใหญ่ฮาวฮิตเซอร์
เมื่อเอ่ยถึงโดรนที่ชาติตะวันตกส่งไปช่วยยูเครน ปูติน ชี้ว่าระบบป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซียสามารถ “บดขยี้พวกมันได้ราวกับเมล็ดถั่ว” และโดรนเหล่านั้นก็ถูกกองทัพหมีขาวทำลายไปเป็นสิบๆ ตัวแล้ว
ที่มา : รอยเตอร์