เอเจนซีส์ – พอล เพโลซี (Paul Pelosi) วัย 82 ปีมหาเศรษฐีอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังสหรัฐฯและสามีของประธานรัฐสภาสหรัฐฯ แนนซี เพโลซี ถูกตำรวจจับระหว่างเมาแล้วขับรถปอร์เช่คันงามในนาปา เคาน์ตี(์Napa County)คืนวันเสาร์(28 พ.ค) พบค่าแอลกอฮอร์ในเลือดเกินพิกัด โฆษกประธานรัฐสภาสหรัฐฯยืนยันตอนเกิดเหตุไม่ได้นั่งไปด้วย
อินเตอร์เนชันแนลบิสซิเนสไทม์สของสหรัฐฯรายงานเมื่อวานนี้(30 พ.ค)ว่า พอล เพโลซี (Paul Pelosi)ถูกจับฐานเมาแล้วขับในช่วงสุดสัปดาห์เทศกาลวันรำลึกทหารที่อุทิศตนในสงครามหรือวันเมโมเรียลเดย์ (Memorial Day)ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย
เพโลซีวัย 82 ปีเป็นมหาเศรษฐีอสังหาริมทรัพย์ชื่อดังในสหรัฐฯมีมูลค่าทรัพย์สินรวม 120 ล้านดอลลาร์ อ้างอิงข้อมูลจาก Celebrity Net Worth และยังเป็นสามีของประธานรัฐสภาสหรัฐฯพรรคเดโมแครต แนนซี เพโลซี วัย 82 ปี โดยทั้งคู่สมรสเมื่อปี 1963 และมีบุตรร่วมกัน 5 คน
อ้างอิงจากหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์สพบว่า ขณะเกิดเหตุเพโลซีกำลังขับรถปอร์เช่รุ่นปี 2021 ของตัวเองเพื่อข้ามถนนไฮเวย์ I-29 และเกิดชนเข้ากับรถยนต์อีกคันซึ่งเป็นรถจี๊ปในเวลา 22.26 น. ตามเวลาท้องถิ่นของคืนวันเสาร์(28) อ้างอิงรายงานจากตำรวจทางหลวงรัฐแคลิฟอร์เนีย
อินเตอร์บิสซิเนสไทม์สกล่าวว่า เพโลซีถูกตำรวจนาปา เคาน์ตีส่งเข้าเรือนจำด้วยความผิดลหุโทษ 2 กระทงในความผิดฐานเมาแล้วขับ (DUI) แต่เขาได้รับการปล่อยตัวภายใต้เงินประกัน 5,000 ดอลลาร์ในเวลาต่อมา ตำรวจพบว่าสามีประธานรัฐสภาสหรัฐฯมีแอลกอฮอร์อยู่ในกระแสเลือดสูงในระดับ 0.08 หรือสูงกว่านั้นเกินมาตรฐานกำหนด อ้างอิงจากสื่อ TMZ ซึ่งเป็นสื่อแรกที่รายงานข่าวสามีประธานรัฐสภาสหรัฐฯถูกจับกุม
นิวยอร์กไทม์สรายงานว่า โฆษกประธานรัฐสภาสหรัฐฯออกมาเปิดเผยว่า เธอไม่ได้อยู่ร่วมกับสามีระหว่างเกิดเหตุโดยในช่วงเกิดเหตุ โดยในขณะนั้น แนนซี เพโลซี กำลังอยู่ในฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ
ที่ผ่านมาเพโลซีถูกสังคมตำหนิถึงผลประโยชน์ทับซ้อนจากการที่สามีมหาเศรษฐีของเธอ พอล เพโลซี กว้านซื้อหุ้นบริษัทไฮเทคจำนวนมาก ขณะที่หนังสือพิมพ์นิวยอร์กโพสต์ รายงานเมื่อวันที่ 11 เม.ย ที่ผ่านมาว่า โจ โรแกน (Joe Rogan)นักจัดรายการการเมืองปีกขวาปากกล้าของสหรัฐฯออกมาโจมตี 'พอล เพโลซี' ถึงผลประโยชน์ทับซ้อนที่อาจมี
โรแกนชี้ไปถึงการช้อนซื้อหุ้นเทสลาล่าสุดเมื่อมีนาคมกว่า 2.5 ล้านดอลลาร์โดยกล่าวว่า “นี่จะไม่เป็นการรู้ข้อมูลจากวงในได้อย่างไร?” เขากล่าว
โรแกนเดินหน้าตั้งคำถามต่อว่า “หากคุณรู้ว่าใครบางคนกำลังจะลงนามในร่างกฎหมายและร่างกฎหมายนี้จะช่วยสนับสนุนอย่างมหาศาลต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า...และก่อนที่ร่างกฎหมายนี้จะถูกลงนามคุณได้แอบกว้านซื้อหุ้นจำนวนมากของรถยนต์ไฟฟ้า...และในวันถัดมาหุ้นตัวนี้เกิดขึ้น”
ทั้งนี้ฟ็อกซ์นิวส์เคยรายงานเมื่อวันที่ 2 ก.คปีที่แล้วว่า พอล เพโลซีเข้าซื้อหุ้นบริษัทไฮเทคชื่อดังของสหรัฐฯ เช่น แอปเปิล อิงค์ แอมะซอน และบริษัทแอลฟาเบธ บริษัทแม่ของกูเกิลร่วม 6 ล้านดอลลาร์ก่อนที่คณะกรรมาธิการที่ทรงอำนาจของสภาล่างสหรัฐฯจะผ่านมาตรการต่อต้านการผูกขาด(antitrust)
การซื้อหุ้นในบริษัทยักษ์ใหญ่เหล่านี้ถูกเปิดเผยในการยื่นเมื่อวันที่ 2 ก.ค ซึ่งในเวลานั้นโฆษกประธานสภาสหรัฐฯออกมาให้สัมภาษณ์กับฟ็อกซ์ บิสซิเนสว่า “ท่านประธานรัฐสภาไม่ได้เกี่ยวข้องหรือรู้ล่วงหน้าถึงการซื้อขายเหล่านี้”
นิวยอร์กโพสต์รายงานว่า กฎหมายหลักทรัพย์สหรัฐฯปี 2012 (STOCK Act.) อนุญาตให้สมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯสามารถซื้อขายหลักทรัพย์ได้แต่ห้ามใช้ข้อมูลภายในสภาคองเกรสเพื่อเป็นประโยชน์ในการลงทุนส่วนตัว
เดือนมกราคมต้นปีพบว่าโฆษกของประธานรัฐสภาสหรัฐฯไม่ให้ความสนใจเมื่อทางนิวยอร์กโพสต์ตั้งคำถามว่า สามีประธานรัฐสภาสหรัฐฯมีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่ แต่เขาออกมายืนยันในเวลานั้นว่า แนนซี เพโลซี ไม่ได้ถือหุ้นใดๆอยูในมือ