รัฐบาลเยอรมนี และพรรคฝ่ายค้านคอนเซอร์เวทีฟ บรรลุข้อตกลงหนึ่งที่จะจัดสรรงบประมาณ 100,000 ล้านยูโร สำหรับปรับปรุงกองทัพให้มีความทันสมัย รับมือภัยคุกคามจากรัสเซีย
ข้อตกลงหนึ่งที่บรรลุกันในช่วงค่ำวันอาทิตย์ (29 พ.ค.) เห็นพ้องจัดสรรงบประมาณพิเศษสำหรับจัดซื้อทางทหาร ที่นอกเหนือจากจุดประสงค์ปรับปรุงกองทัพในมีความทันสมัยแล้ว มันยังจะช่วยให้เบอร์ลิน บรรลุเป้าหมายของนาโต้ ที่ตั้งเป้าหมายให้ชาติสมาชิกใช้จ่ายด้านกลาโหมในระดับ 2% ของจีดีพี
ทั้งสองฝ่ายบรรลุข้อตกลงดังกล่าว ซึ่งรวมถึงการปรับแก้กฎเกณฑ์งบประมาณในรัฐธรรมนูญของประเทศ ตามหลังการเจรจาอันยากลำบากยืดเยื้อนานหลายสัปดาห์ ระหว่างพรรคการเมืองต่างๆ ในรัฐบาลผสมกับพรรคคอนเซอร์เวทีฟของอดีตนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล
3 วันหลังรัสเซียรุกรานยูเครนในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ นายกรัฐมนตรีโอลาฟ โชลซ์ ประกาศจัดสรรงบประมาณพิเศษ 100,000 ล้านยูโร เพื่อจัดหาอาวุธใหม่แก่กองทัพเยอรมนี และปรับปรุงยุทโธปกรณ์ทอันเก่าเก็บให้มีความทันสมัยในช่วง 5 ปีข้างหน้า
อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่นั้นฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์กล่าวหาว่า โชลซ์ ขี้ขลาดเกินไปที่จะให้การสนับสนุนเคียฟ และไม่ดำเนินการอย่างเป็นรูปเป็นรางมากพอในแง่ของการส่งมอบอาวุธสนับสนุนยูเครน
ร่างข้อตกลงที่ทางเอเอฟพีได้มา ระบุว่าข้อตกลงนี้จะเปิดทางให้เบอร์ลิน บรรลุเป้าหมายของนาโต้ในการใช้จ่ายด้านกลาโหมแตะระดับ 2.0% ของจีพีดี โดยเฉลี่ยในช่วงหลายปีข้างหน้า
งบประมาณพิเศษนี้จะเป็นเงินที่มาจากการกู้เพิ่มเติม ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับหลบหลีกกฎเกณฑ์ "debt brake" ที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ ซึ่งจำกัดเพดานการก่อหนี้ของรัฐบาล
กฎเกณฑ์ดังกล่าวถือเหตุผลว่าทำไมรัฐบาลถึงจำเป็นต้องได้รับการสนับสนุนจากพรรคคอนเซอร์เวทีฟ เพื่อรวบรวมเสียงสนับสนุนให้ได้เกิน 2 ใน 3 ในรัฐสภา สำหรับผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ
เงิน 100,000 ล้านยูโรจะถูกจัดสรรสู่กองทุนพิเศษหนึ่งที่อยู่นอกงบประมาณของประเทศ
การอัดฉีดงบประมาณสำหรับกองทัพในครั้งนี้ ถือเป็นการกลับลำครั้งใหญ่ของเยอรมนี ซึ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมา พวกเขาเตะถ่วงมาตลอดในการปฏิบัติตามคำสัญญาด้านการใช้จ่ายที่ให้ไว้กับนาโต้ เรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์ โดยเฉพาะจากสหรัฐฯ
นับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามเย็น เยอรมนีลดขนาดของกองทัพลงอย่างมาก จากระดับราวๆ 500,000 นายในปี 1990 เหลือแค่ 200,000 นายในปัจจุบัน
รายงานฉบับหนึ่งด้านสถานะทางทหารที่เผยแพร่ในเดือนธันวาคม พบว่าในกองเรือของกองทัพเรือเยอรมนี มีแค่ราวๆ 30% ที่สามารถปฏิบัติงานได้อย่างสมบูรณ์ ขณะเดียวกัน เครื่องบินขับไล่ของประเทศจำนวนหลายลำก็อยู่ในสภาพที่ไม่เหมาะจะขึ้นบิน
อย่างไรก็ตาม ปฏิบัติการรุกรานยูเครนของรัสเซีย ได้ปลุกประเทศแห่งนี้ตื่นจากภาวะเซื่องซึม
(ที่มา : เอเอฟพี)