เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส จูเนียร์ ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของฟิลิปปินส์ ยืนยันวันนี้ (26 พ.ค.) ว่ารัฐบาลของเขาจะยังยึดถือคำพิพากษาของศาลอนุญาโตตุลาการถาวรที่กรุงเฮก (Permanent Court of Arbitration) ที่ให้ฟิลิปปินส์เป็นฝ่ายชนะคดีในการฟ้องร้องจีนเรื่องข้อพิพาททะเลจีนใต้ และจะไม่ปล่อยให้จีนเข้ามาละเมิดสิทธิทางทะเลของแดนตากาล็อก
จีนยกแผนที่เส้นประ 9 เส้นขึ้นมาอ้างสิทธิทางประวัติศาสตร์เหนือน่านน้ำทะเลจีนใต้เกือบทั้งหมด ซึ่งทำให้เกิดข้อพิพาทกับหลายประเทศที่อ้างกรรมสิทธิ์ทับซ้อนกันอยู่ ได้แก่ ฟิลิปปินส์ บรูไน มาเลเซีย ไต้หวัน และเวียดนาม
จีนเพิกเฉยต่อคำพิพากษาของศาลกรุงเฮกเมื่อปี 2016 ที่ระบุว่าจีนกำลังยกประวัติศาสตร์มาอ้างโดยไม่มีพื้นฐานกฎหมายรองรับ ขณะที่รัฐบาลประธานาธิบดี โรดริโก ดูเตอร์เต ซึ่งกำลังจะหมดวาระในวันที่ 30 มิ.ย. ก็เลือกที่จะมองข้ามคำพิพากษาดังกล่าวเพื่อแลกกับข้อตกลงการค้าและการลงทุนจากจีน ซึ่งนักวิจารณ์หลายคนชี้ว่าไม่เคยเกิดขึ้นจริง
ล่าสุด มาร์กอส ได้ประกาศต่อหน้าสื่อมวลชนวันนี้ (26) ว่า รัฐบาลของเขา “จะไม่ปล่อยให้อาณาเขตทางทะเลที่เป็นสิทธิของฟิลิปปินส์ถูกเหยียบย่ำแม้แต่ 1 มิลลิเมตร”
“ศาลมีคำพิพากษาสำคัญที่ยกประโยชน์ให้กับเรา และเราจะใช้มันเพื่อยืนยันสิทธิด้านอาณาเขต นี่ไม่ใช่การอ้างสิทธิ ทว่าเป็นสิทธิที่เรามีอยู่แล้ว”
“เรากำลังพูดถึงจีน เรามีการพูดคุยทำความเข้าใจกับจีนอย่างหนักแน่นอยู่เสมอในประเด็นนี้”
อย่างไรก็ดี มาร์กอส ย้ำว่า “เราไม่สามารถทำสงครามกับพวกเขาได้ นั่นคือสิ่งสุดท้ายที่เราต้องการจะทำ”
มาร์กอส จูเนียร์ หรือ “บองบอง” กวาดคะแนนเสียงจากชาวฟิลิปปินส์เกินครึ่งในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวันที่ 9 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นการหวนคืนสู่อำนาจใหม่ของตระกูลมาร์กอสซึ่งหลายคนตราหน้าเป็นครอบครัวเผด็จการที่ปล้นชาติฟิลิปปินส์
เขา และซารา ดูเตอร์เต บุตรสาวของผู้นำฟิลิปปินส์คนปัจจุบันที่ชนะศึกเลือกตั้งรองประธานาธิบดีแบบ “แลนด์สไลด์” ประกาศจะร่วมกันสานต่อนโยบายหลักๆ ของ ดูเตอร์เต ทว่าในส่วนของนโยบายต่างประเทศนั้น มาร์กอส บอกว่าจะพยายามหาจุดที่สมดุลในความร่วมมือทั้งกับจีนและสหรัฐอเมริกา
“เราเป็นเพียงผู้เล่นรายเล็กๆ ที่ยืนอยู่ระหว่าง 2 ชาติมหาอำนาจที่กำลังแข่งกันในด้านภูมิรัฐศาสตร์ ดังนั้น เราจึงต้องมีวิธีก้าวเดินในแบบของเราเอง” มาร์กอส กล่าว
“ผมไม่เชื่อแนวคิดเก่าๆ ในยุคสงครามเย็นที่บอกว่า เราจำเป็นต้องเลือกว่าจะอยู่ข้างสหภาพโซเวียตหรือสหรัฐอเมริกา... ผมว่าเราต้องมีนโยบายต่างประเทศที่เป็นอิสระ และทำให้เราสามารถเป็นมิตรได้กับทุกฝ่าย นี่คือหนทางเดียว”
ที่มา : เอเอฟพี