‘โสมแดง’ยิงขีปนาวุธข้ามทวีปยั่วสั่งลาไบเดน โซล-วอชิงตัน’ตอบโต้ทันควันซ้อมรบกระสุนจริง

เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธ 3 ลูก โดยเชื่อว่าลูกหนึ่งเป็นขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหญ่ที่สุดของโสมแดง เมื่อวันพุธ (25 พ.ค.) หลังจากไบเดนเสร็จสิ้นการเยือนเอเชีย ขณะที่โซลและวอชิงตันตอบโต้ทันควันโดยการฝึกซ้อมด้วยกระสุนจริง ซึ่งรวมถึงการทดสอบขีปนาวุธแบบพื้นสู่พื้น

คิม แตเฮียว รองที่ปรึกษาฝ่ายความมั่นคงแห่งชาติเกาหลีใต้แถลงว่า ดูเหมือนเกาหลีเหนือยังได้ทำการทดสอบอุปกรณ์ระเบิดเพื่อเตรียมการสำหรับการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ครั้งที่ 7 ทว่าไม่มีแนวโน้มว่า จะเกิดขึ้นในวันสองวันนี้

อเมริกาและเกาหลีใต้ตอบโต้ทันควันด้วยการฝึกซ้อมด้วยกระสุนจริง ซึ่งรวมถึงการทดสอบขีปนาวุธแบบยิงจากพื้นผิวสู่พื้นผิวที่เกี่ยวข้องกับระบบขีปนาวุธทางยุทธวิธีของกองทัพสหรัฐฯ (เอทีเอซีเอ็มเอส) และขีปนาวุธพิสัยใกล้ (เอสบีอาร์เอ็ม) ฮยุนมู-2 ของเกาหลีใต้

นอกจากนั้น รัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้ยังเรียกร้องระหว่างหารือทางโทรศัพท์กับลอยด์ ออสติน รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ให้อเมริกาติดตั้งทรัพยากรทางยุทธศาสตร์ในแดนโสมขาว และทั้งสองฝ่ายตกลงยกระดับการป้องปรามเพื่อตอบโต้การยั่วยุของเปียงยาง

คณะเสนาธิการร่วมของเกาหลีใต้ (เจเอสซี) แถลงว่า การแสดงแสนยานุภาพเช่นนี้ของกองทัพเกาหลีใต้มีจุดมุ่งหมายเพื่อย้ำจุดยืนชัดเจนในการตอบโต้การยั่วยุของเกาหลีเหนือ ซึ่งรวมถึงการยิงขีปนาวุธข้ามทวีป (ไอซีบีเอ็ม) ตลอดจนมุ่งแสดงศักยภาพและความพร้อมของเกาหลีใต้ในการโจมตีที่หวังสร้างความเสียหายทางทหารหรือโครงสร้างสาธารณูปโภคโดยรอบด้านต่อที่มาของการยั่วยุ

นับจากต้นปี เปียงยางทดสอบขีปนาวุธมาแล้วหลายครั้ง ตั้งแต่อาวุธไฮเปอร์โซนิก (ความเร็วเหนือเสียง 5 เท่าขึ้นไป) จนถึงการทดสอบยิงไอซีบีเอ็มครั้งใหญ่ที่สุดเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 5 ปี และยังดูเหมือนเกาหลีเหนือกำลังเตรียมการทดสอบนิวเคลียร์ครั้งแรกนับจากปี 2017

ก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่วอชิงตันและโซลเตือนว่า เกาหลีเหนือพร้อมทดสอบอาวุธหนักอีกครั้ง ซึ่งอาจเป็นช่วงที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของอเมริกา เยือนเอเชียครั้งแรกนับจากเข้ารับตำแหน่ง ระหว่างวันที่ 20-24 พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงการประชุมสุดยอดในโซลกับยุน ซอก-ยอล ที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบ ดีเกาหลีใต้เมื่อต้นเดือนนี้

เจเอสซีระบุว่า มีขีปนาวุธ 3 ลูกยิงมาจากบริเวณซูนานของเปียงยางในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงในวันพุธ(25) ลูกแรกดูเหมือนเป็นฮวาซอง-17 ไอซีบีเอ็มลูกใหญ่ที่สุดของเกาหลีเหนือ มีพิสัยการบินราว 360 กิโลเมตรและความสูงสูงสุดราว 540 กิโลเมตร ขณะที่ลูกที่สองเป็นขีปนาวุธที่ไม่ระบุและดูเหมือนล้มเหลวหลังจากที่พุ่งขึ้นไปแตะระดับความสูงที่ 20 กิโลเมตร และลูกที่สามเป็นเอสอาร์บีเอ็ม มีพิสัยการบินราว 760 กิโลเมตร และความสูงราว 60 กิโลเมตร

ทั้งนี้ แหล่งข่าวทางทหารในโซลเผยว่า ขีปนาวุธลูกที่ 2 และ 3 น่าจะเป็นเคเอ็น-23 ที่ทดสอบครั้งแรกในปี 2019 และผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ออกแบบมาเพื่อให้หลบหลีกระบบป้องกันขีปนาวุธด้วยการบินระดับต่ำ

คิม รองที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติเกาหลีใต้ เชื่อว่า เกาหลีเหนือมีจุดประสงค์ทางการเมืองในการทดสอบความพร้อมด้านความมั่นคงของคณะบริหารชุดใหม่ของโซล รวมทั้งต้องการส่งสารเชิงยุทธศาสตร์ถึงเกาหลีใต้และอเมริกาหลังจากไบเดนเดินทางกลับ

ทั้งนี้ ระหว่างอยู่ในโซลช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ไบเดนและยุนตกลงจัดการซ้อมรบขนาดใหญ่ขึ้น รวมถึงจะส่งทรัพยากรทางยุทธศาสตร์ของอเมริกามาติดตั้งในเกาหลีใต้หากจำเป็น เพื่อป้องปรามการทดสอบอาวุธของโสมแดง

ผู้นำทั้งคู่ยังเสนอจัดส่งวัคซีนโควิดให้เกาหลีเหนือที่กำลังเผชิญการระบาดรุนแรงครั้งแรก พร้อมเรียกร้องให้เปียงยางกลับสู่แนวทางการทูต ทว่า ไร้คำตอบกลับใดๆ จากเกาหลีเหนือ

รัฐบาลเกาหลีใต้ออกคำแถลงภายหลังจากที่ ยุน ประชุมกับสภาความมั่นคงแห่งชาติครั้งแรก ระบุว่า การเดินหน้ายั่วยุของเกาหลีเหนือจะเผชิญผลลัพธ์ที่เด็ดขาดและรวดเร็วขึ้นจากมาตรการป้องปรามของเกาหลีใต้และอเมริกา และยิ่งทำให้เกาหลีเหนือเองโดดเดี่ยวยิ่งขึ้น

ทางด้านเจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวเผยว่า ไบเดนที่เดินทางออกจากญี่ปุ่นเพื่อกลับประเทศเมื่อค่ำวันอังคาร (24) ได้รับการบรรยายสรุปเรื่องเกาหลีเหนือแล้ว และโฆษกกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ก็ออกคำแถลงเรียกร้องให้เปียงยางระงับการยั่วยุ รวมถึงกลับมาเข้าร่วมการเจรจาอย่างยั่งยืนและมีสาระสำคัญ

ขณะเดียวกัน ฮิโรคาสึ มัตซูโนะ เลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น คาดว่า เกาหลีเหนือจะทำการยั่วยุอีก ซึ่งรวมถึงการทดสอบนิวเคลียร์

(ที่มา: รอยเตอร์)