สาวแคลิฟอร์เนีย หุ่นแบบบาง วัยเพียง 24 กะรัต ถูกสิงโตภูเขากระโจนเข้าโจมตีจากด้านหลัง เนื้อต้นแขนฉีก ด้านน้องหมาเห็นมะมี้ของนางหวุดหวิดจะตกเป็นเหยื่อเจ้าเขี้ยวคม นางพุ่งชาร์จเข้าใส่ ต่อสู้ปกป้องมะมี้อย่างกล้าหาญ แต่สุนัขไม่สามารถไฟต์ชนะสิงโตภูเขาได้ น้องหมาสาวน้อยถูกสัตว์ป่าเจ้าถิ่นงับหัวไว้แน่น เลือดทะลัก มะมี้ผู้เป็นนักสู้หัวใจใหญ่กว่าหุ่นนางแบบของเธอ ถลาไปช่วยลูกน้อยโดยไม่เห็นแก่ชีวิต ทั้งคว้าก้อนหินทุบเจ้าสัตว์ป่า ทั้งบีบคอ ทั้งจิกลูกตา แต่มันไม่ปล่อย!!
เอริน วิลสัน สาวแคลีผู้ผ่านนาทีชีวิตระทึกเฉียดตายในคมเขี้ยวและกรงเล็บโหดของเสือคูการ์ ซึ่งก็คือสิงโตภูเขา เล่าว่า
“ดิฉันไม่คิดว่าตนเองจะสามารถตอบแทนความจงรักภักดีที่น้องมีให้แก่ดิฉัน” เอริน มะมี้ของน้องหมาสาวนาม อีวา บอกนักข่าวสำนักซาคราเมนโต บี ผ่านโทรศัพท์มือถือจากบ้านในเขตชนบทของเคาน์ตีทรินิตี รัฐแคลิฟอร์เนีย เมื่ออังคารที่แล้ว (17 พ.ค.)
เอรินก็เหมือนคนอเมริกันจำนวนมาก ที่จะขับรถไปเดินออกกำลังในอุทยานหรือสวนป่า และเมื่อบ่ายวันจันทร์ที่แล้ว เธอพาน้องอีวานั่งรถปิ๊กอัพไปเดินเทร็กกิงตามทางริมแม่น้ำทรินิตีซึ่งเป็นแม่น้ำแห่งชาติติดกับอุทยานบิ๊กบาร์ เพราะอีวาเป็นสาวสายพันธุ์เบลเยียม มาลินอยส์ วัย 2 ปีครึ่ง ซึ่งต้องได้ใช้ชีวิตกลางแจ้งบ้างเพื่อสุขภาพกายและใจที่แข็งแรงแจ่มใส
ออกเดินกันไปเพียงนิดเดียว โดยที่น้องอีวาวิ่งนำหน้าห่างเอรินแค่ประมาณ 3 เมตร เจ้าเสือคูการ์ ซึ่งซุ่มอยู่แถวนั้น กระโจนเข้าใส่แผ่นหลังของเอรินและตะปบเธอย่างแรง กรงเล็บของมันทะลุบ่าซ้ายของเสื้อแจ๊กเก็ต ฉีกเข้าเนื้อกันเลยทีเดียว เอรินให้ข้อมูลแก่นักข่าวซาคราเมนโต บี
“ดิฉันตะโกน ‘อีวา’ เธอรีบวิ่งเข้ามา และพุ่งเข้าชาร์จเจ้าคูการ์เต็มแรงเลยค่ะ” กล่าวโดยมะมี้ของ อีวา หมาเบลเยียม มาลินอยส์ ผู้เลื่องลือในด้านความแข็งแกร่ง กล้าหาญ และสุดยอดจะจงรักภักดี
เพียงไม่กี่วินาทีที่อีวาโรมรันกับสัตว์ป่าร่างผอมเกร็งอย่างดุเดือด อีวาผู้ยังโตไม่เต็มที่และมีน้ำหนักเพียง 25 กิโลกรัม เสียท่าให้แก่เสือคูการ์ ซึ่งมีธรรมชาติที่จะตัวใหญ่และเต็มไปด้วยพลังของนักล่าเหยื่อ
“สู้กันไม่กี่วินาที อีวาก็ร้องเจ็บปวด” เอรินเล่าอย่างนั้น โดยบอกว่าฝ่ายสิงโตภูเขางับหัวซีกซ้ายของอีวาไว้แน่น ไม่มีท่าว่าจะปล่อยไปกัดตรงอื่นบ้าง
ด้วยความรักอันยิ่งใหญ่ในลูกสาวสี่ขา เอรินลืมความกลัวทั้งหมด ทะยานเข้าเล่นงานสัตว์ป่าผู้หิวโซ ทั้งคว้าก้อนหินทุบ ทั้งตีด้วยไม้ ทั้งรัวด้วยกำปั้น
ใช่แต่เท่านั้น เธอยังใช้แขนบีบรัดคอมัน เมื่อไม่ได้ผล ก็พยายามจิ้มลูกตามัน
กระนั้นก็ตาม เอรินไม่สามารถทำให้เสือคูการ์ตัวนี้ยอมปล่อยเหยื่อในปาก หนำซ้ำมันใช้เท้าหลังเตะเธอ จนกรงเล็บทะลุกางเกงกรีดเข้าถึงขาของเธอ
ความช่วยเหลือมาถึงทันเวลา พร้อมกับอาวุธเด็ดของสาวอเมริกัน “สเปรย์พริกไท” !
มะมี้ของอีวาตัดสินใจวิ่งกลับรถปิ๊กอัพ คว้าเหล็กงัดยางจะไปหวดสู้เสือ และแล้วในจังหวะนั้นเอง บุญของเอรินโดยแท้ มีรถวิ่งผ่านมา เธอรีบโบกขอความช่วยเหลือด้วยเหล็กงัดยางในมือ
ผู้ขับขี่รถคันนั้นเป็นสาวอเมริกันนามว่า แชรอน ฮูสตัน
แชรอนเล่าให้นักข่าวซาคราเมนโต บี ฟังว่าเธอคว้าท่อพีวีซี กับสเปรย์พริกไทยไปช่วยเอรินไล่เสือคูการ์
สองสาวอเมริกันช่วยกันกระหน่ำตีเจ้าสิงโตภูเขา ซึ่งในเวลานั้น มันลากน้องหมาอีวาออกจากทางเทร็กกิงไปถึงแนวพุ่มไม้ ใกล้จะเข้าป่าแล้ว
สาวแชรอนตาไว มองเห็นโอกาสเหมาะ เธอพ่นสเปรย์พริกไทยใส่ลูกตาของจอมล่าแห่งอุทยาน เพราะเจ้าจอมล่าเหยื่อผู้ทรงพลังโดนพิษเผ็ดร้อนเข้าอย่างจังนั่นแหละที่มันยอมคายหัวของน้องหมาอีวา และทะยานหนีไปไม่คิดจะหันมาจาบจ้วงใส่หญิงสาวคนใดคนหนึ่ง
ขณะที่ สาวสวยหุ่นนางแบบอย่างเอรินมีบาดแผลหลายแห่งทีเดียว โดยเฉพาะบาดแผลจากกรงเล็บของสิงโตภูเขา และรอยฟกช้ำกับรอยแผลถลอกมากมาย คุณหมอไม่ได้สั่งให้พักร้กษาตัว แต่อาการของเอรินนั้น ไม่สาหัสเท่ากับอาการของลูกสาวสี่ขา
น้องหมาอีวาบอบช้ำสาหัส กะโหลกร้าว 2 แห่ง สมองถูกบีบรุนแรง ชักกระตุกหลายครั้ง
คอร์นเนอร์ เคนนี สามีของสาวเอริน และปะป๊าของน้องอีวา บอกนักข่าวค่ายเอสเอฟเกตแห่งซานฟรานซิสโกว่า น้องหมาอีวามีอาการกะโหลกร้าว 2 แห่ง แผลเจาะลึกตรงโพรงไซนัสจมูก และดวงตาซ้ายเสียหายรุนแรง นอกจากนั้น ต้องเฝ้าระวังอาการทางสมองด้วย ดังเห็นได้ว่าในระหว่างที่นอนหายใจระรวย จวนจะอยู่จวนจะไปภายในรถปิ๊กอัพที่มะมี้พาบึ่งไปหาสัตวแพทย์นั้น น้องอีวามีอาการชักหลายครั้ง ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาเพราะธรรมชาติสร้างให้กระดูกขากรรไกรของสิงโตภูเขามีความแข็งแรงอย่างมหาศาล ขณะที่หัวของอีวาถูกขากรรไกรคู่นั้นงับหนีบอย่างแน่นหนานานหลายนาที แถมยังถูกงับลากไปหลายเมตร แต่อาการสมองกระทบกระเทือนรุนแรงหมดไปหลังจากที่ผ่านหนึ่งคืนแรกซึ่งพักรักษาตัวในโรงพยาบาลสัตว์
“เราหวังว่าอีวาจะผ่านวิกฤตนี้ไปได้ด้วยดีครับ น้องเป็นนักสู้ตัวยงเลยครับ” ปะป๊าคอร์นเนอร์บอกอย่างนั้น
เนื่องจากกรณีบาดเจ็บสาหัสของน้องอีวาเกี่ยวข้องกับเสือคูการ์ซึ่งเป็นสัตว์ป่า จึงต้องมีการแจ้งเรื่องไปยังกรมสัตว์น้ำและสัตว์ป่าแห่งรัฐแคลิฟอร์เนียโดยทันที และมีการเก็บตัวอย่างของเหลวในบาดแผลของมะมี้เอรินและน้องหมาอีวา
ผลการตรวจวิเคราะห์ดีเอ็นเอยืนยันว่าเป็นน้ำลายของเสือคูการ์จริง และจึงมีการออกปฏิบัติการตามจับเสือตัวนี้โดยคาดว่าคงจะอยู่ในละแวกใกล้กับจุดเกิดเหตุซึ่งบริเวณดังกล่าวน่าจะเป็นถิ่นของมัน ทั้งนี้ มาตรการความปลอดภัยเกี่ยวกับเรื่องนี้กำหนดว่า สัตว์ป่าที่โจมตีมนุษย์เข้าสักครั้ง มักที่จะหวนกลับมา จึงต้องจับตัวให้ได้
ในการนี้ เอพีรายงานว่าหากจับกุมสิงโตภูเขาตัวนี้ได้ มันจะถูกปลิดชีพ
สำหรับน้องอีวานั้น กรมสัตว์น้ำและสัตว์ป่าได้ออกคำแถลงถึงอาการของน้องว่า อาการของสุนัขตัวนี้อยู่ในภาวะที่ต้องเฝ้าระวัง ทั้งนี้ อีวาต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลรวม 4 วันทีเดียว กว่าที่สุขภาพของน้องจะคงที่และปลอดภัยพอที่จะกลับบ้านได้
ผู้เชี่ยวชาญยืนยัน น้อยครั้งเหลือเกินที่สิงโตภูเขาจะโจมตีมนุษย์
นอกจากนั้น กรมสัตว์น้ำและสัตว์ป่าแถลงด้วยว่าการที่สิงโตภูเขาจะมาทำร้ายมนุษย์นั้น ไม่ใช่เรื่องปกติอย่างยิ่ง อีกทั้งแทบจะไม่เกิดขึ้นนัก โดยในรอบ 100 ปีที่ผ่านมา เกิดเหตุวิกฤตแบบนี้ไม่ถึงสิบครั้ง เพราะสิงโตภูเขาเป็นสัตว์ที่สันโดษ และพยายามหลีกเลี่ยงมนุษย์ กรมฯ จึงแถลงย้ำยืนยันว่า ประชาชนอย่าได้วิตกหวาดกลัว ขอให้ออกมาเดินเทร็กกิงตามปกติ เว็บไซต์ข่าวเอ็นพีอาร์รายงานอย่างนั้น
ด้านมูลนิธิสิงโตภูเขา หรือ Mountain Lion Foundation (MLF) ออกคำแถลงบนเว็บไซต์องค์กร mountainlion.org ว่า (1)การป้องกันตัวและขับไล่สิงโตภูเขาที่เอริน วิลสัน และแชรอน ฮูสตัน ใช้ท่อพีวีซี ตีสิงโตภูเขา และใช้สเปรย์พริไทยพ่น นั้น เป็นวิธีที่ถูกต้อง (2)องค์กรยืนยันว่าวิฤตการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่แทบจะไม่เกิดขึ้นเลย และน่าจะสะท้อนว่าสิงโตภูเขาตัวนั้นอดอยากหิวโหยรุนแรง (3)MLF ย้ำหลักคิดว่าเนื่องจากท้องถิ่นทางซีกตะวันตกของสหรัฐอเมริกามีสัตว์ป่าอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งดีต่อระบบนิเวศวิทยา นั้น ที่ผ่านมา มนุษย์กับสัตว์ป่าสามารถแบ่งปันพื้นที่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันได้เป็นอย่างดีมาโดยตลอด (4)ดังนั้นจึงฝากความหวังว่าวิกฤตที่แทบจะไม่ปรากฏขึ้นนี้ จะเป็นเช่นนี้ไปตราบนานเท่านาน
ใช้สื่อสังคมประกาศขอรับบริจาคเข้าสู่กองทุนรักษาพยาบาลน้องอีวา ผลตอบรับอื้ออึงน่าชื่นใจ
สำหรับการรักษาพยาบาลอีวา นั้น เอริน ซึ่งมีอาชีพเป็นพนักงานเสิร์ฟในร้านอาหาร ได้จัดตั้งกองทุนรักษาพยาบาลอีวาขึ้นมา โดยเผยแพร่ประชาสัมพันธ์บนแอคเคาท์ GoFundMe ที่ทวิตเตอร์และอินสตาแกรม
น้ำใจหลั่งไหลสู่กองทุนนี้อย่างมากมายจากใครต่อใครผู้มีจิตใจเอื้ออารี ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนแปลกหน้า การร่วมบริจาคระดมเข้าไปรายละเล็กละน้อย มีทั้ง 10 ดอลลาร์ ไปจนถึง 50 ดอลลาร์ กระทั่งว่ายอดเงินบริจาคทะลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ ณ 5,000 ดอลลาร์ ได้อย่างรวดเร็ว โดยทะลุหลัก 35,000 ดอลลาร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เว็บไซต์ข่าว เอ็นพีอาร์ดอทโออาร์จี รายงาน พร้อมรายงานด้วยว่า
กำลังใจที่ส่งไปยังมะมี้เอรินกับน้องอีวา ผ่านทวิตเตอร์ นั้น อื้ออึงทีเดียว
“เราได้อ่านเรื่องของเธอในข่าว และขอร่วมสนับสนุนค่ารักษาพยาบาลอีวา น้องเป็นเด็กดีเหลือเกิน กรุณาเกาพุงน้องเผื่อเราด้วยนะ” ผู้บริจาครายหนึ่งเขียนบนทวิตเตอร์อย่างนั้น
อีวาสาวน้อยสี่ขา มีแอคเคาท์บนอินสตาแกรมเป็นของตนเองมาตั้งแต่ยังเป็นลูกสุนัขตัวน้อย และเมื่อเอรินเขียนเล่าความคืบหน้าอาการของอีวา ถ้อยคำแห่งกำลังใจแห่กันไปปรากฏในอินสตาแกรมเป็นที่อนุโมทนาของผู้ที่ได้อ่าน
“ฉันอ่านถึงความกล้าหาญของอีวา แล้วก็ร้องไห้ใหญ่เลย ฉันดีใจที่ได้ทราบว่าอีวาดีขึ้นมากแล้ว” ผู้ติดตามคนหนึ่งเขียน
เอรินบอกนักข่าวหลายๆ ค่ายว่า สิ่งต่อไปที่เธอจะทำคือ จะขอบคุณน้องอีวาด้วยตุ๊กตาใหม่ๆ เยอะๆ เลย และจะเลี้ยงสเต็กอาหารโปรดของน้อง ซึ่งพี่เชฟใหญ่ของร้านอาหารที่เอรินทำงานเสิร์ฟนั้น หั่นสเต็กชิ้นโตใส่ห่อของขวัญเตรียมไว้ให้ไปปรุงเมื่อสุขภาพของอีวาแข็งแรงพอจะเคี้ยวเนื้อย่างอร่อยๆ ไหว
สิ่งที่เอรินย้ำเสมอเมื่อให้สัมภาษณ์นักข่าวคือ
“น้องอีวาเป็นฮีโร่ของดิฉัน ดิฉันเป็นหนี้ชีวิตต่อเธอค่ะ”
โดย รัศมี มีเรื่องเล่า
(ที่มา: เอพี ซาคราเมนโต บี เอสเอฟเกตดอทคอม เอ็นพีอาร์ดอทโออาร์จี ทวิตเตอร์ อินสตาแกรม)