ความล้มเหลวของรัฐสมาชิกอียูในการเห็นพ้องคว่ำบาตรน้ำมันรัสเซีย บ่งชี้ว่าทางกลุ่มกำลังถึงขีดจำกัดในความสามารถกำหนดมาตรการคว่ำบาตรทางการเงินเล่นงานมอสโก จากคำกล่าวของผู้แทนทูตสหภาพยุโรปรายหนึ่งที่ให้สัมภาษณ์กับ EURACTIV ซึ่งเป็นเครือข่ายสื่อที่เชี่ยวชาญด้านนโยบายของสหภาพยุโรป เมื่อช่วงกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา
"เมื่อมีความยุ่งยากกับน้ำมันของรัสเซียเช่นนี้ จินตนาการได้เลยว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับข้อเสนอแบนแก๊สของรัสเซีย" EURACTIV อ้างคำกล่าวของผู้แทนทูตอียูรายหนึ่ง ตามหลังการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศสหภาพยุโรปเมื่อวันจันทร์ (16 พ.ค.) "แพกเกจคว่ำบาตรรอบที่ 7 เล่นงานมอสโก จะยากลำบากอย่างยิ่ง เราใกล้ถึงขีดจำกัดของเราอย่างมากแล้ว"
รัฐสมาชิกอียูไม่อาจเห็นพ้องต้องกันในข้อเสนอแบนนำเข้าน้ำมันรัสเซีย หลังการเจรจาที่ใช้เวลานานถึง 10 วัน โดยหลายประเทศซึ่งมีฮังการีเป็นแกนนำ ส่งเสียงคัดค้านมาตรการดังกล่าว ทั้งนี้ แผนคว่ำบาตรน้ำมันดิบรัสเซีย เป็นส่วนหนึ่งของแพกเกจคว่ำบาตรรอบ 6 ที่เสนอเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม สำหรับเล่นงานมอสโกต่อกรณียกทัพรุกรานยูเครน
หลายประเทศที่ต้องพึ่งพิงน้ำมันรัสเซียเป็นอย่างสูง ในนั้นรวมถึงฮังการี สาธารณรัฐเช็ก สโลวะเกีย และบัลแกเรีย ได้ส่งเสียงคัดค้านซ้ำๆ ต่อมาตรการแบนดังกล่าว โดยรัฐบาลฮังการีเตือนว่าการห้ามนำเข้าดังกล่าวจะฉีกเศรษฐกิจเป็นชิ้นๆ
นักการทูตรายนี้บอกกับ EURACTIV ว่าแม้มีความคืบหน้าอยู่บ้างในการเจรจากับฮังการี เกี่ยวกับการใช้สิทธิวีโต้ข้อเสนอของอียูในการแบนน้ำมันรัสเซีย แต่บรรยากาศบ่งชี้ว่า "เราอาจถึงขั้นก้าวถอยหลังเลยทีเดียว"
เขาบอกว่าจุดยืนของนายวิกเตอร์ ออร์บาน นายกรัฐมนตรีฮังการีในประเด็นนี้ ทำให้รัฐบาลชาติอื่นๆ อยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก และหากบูดาเปสต์ ได้ในสิ่งที่พวกเขาต้องการ มันจะเป็นเรื่องยากสำหรับประเทศอื่นๆ อย่างเช่น บัลแกเรีย ที่จะอธิบายประชาชนของตนเองว่าทำไมพวกเขาถึงไม่ได้รับการประนีประนอมแบบเดียวกัน
อียูเกิดความแตกแยกอย่างหนักเกี่ยวกับแนวทางยุติการพึ่งพิงพลังงานรัสเซีย ในขณะที่พวกผู้เชี่ยวชาญระบุว่า การแบนน้ำมันและแก๊สจากรัสเซีย ผู้ป้อนอุปทานหลักแก่ทวีปแห่งนี้ในทันทีเป็นสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
เวลานี้ยุโรปกำลังเผชิญกับภาวะเงินเฟ้อที่พุ่งทะยาน ราคาพลังงานและราคาอาหารกำลังสูงขึ้นเรื่อยๆ
(ที่มา : อาร์ทีนิวส์)